ไมโครซอฟท์ สร้างมูลค่างานด้วยโค้ดดิ้งผ่าน#AllCanCode เสริมอาชีพเยาวชนไทยให้เหนือข้อจำกัดทางกายภาพ

Main

 เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าพัฒนาศักยภาพด้านไอทีแก่เยาวชน ผ่าน #YouthSpark ภายใต้กิจกรรม#AllCanCode ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ และสถาบันเชนจ์ฟิวชั่น (ChangeFusion) จัดอบรมทักษะด้านโค้ดดิ้งให้กับเยาวชนผู้พิการ เสริมสร้างความรู้พื้นฐานด้านไอทีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยยุค 4.0 มุ่งสนับสนุนโอกาสที่เท่าเทียมให้กับเยาวชนพิการ เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในยุคดิจิตอลได้มากกว่า ไม่ใช่แค่งานรูปแบบเดิม ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ

 

 

Main

Microsoft YouthSpark เป็นโครงการระดับโลกของไมโครซอฟท์ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555 และมุ่งเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเยาวชนรุ่นใหม่กว่า 300 ล้านคน ใน 70 ประเทศทั่วโลก ให้ทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นและสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากขึ้น ผ่านการเข้าถึงทักษะด้านไอทีและการศึกษาที่ดีจากคอร์สการอบรมระดับโลกของไมโครซอฟท์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนทุกคนได้ใช้จินตนาการ และตระหนักถึงอนาคตที่สดใส พร้อมช่วยให้เยาวชนทุกคนสามารถหางานหรือสร้างธุรกิจของตนเองได้ โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ถึง มิถุนายน 2560 ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ตั้งเป้าเดินหน้าขยายโอกาสการการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเยาวชนไทย ผ่านการฝึกอบรมเขียนโค้ดเบื้องต้น ให้ครอบคลุมทั้งเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลและเยาวชนผู้พิการจำนวนทั้งสิ้น 7,000 คน

 

จากข้อมูลล่าสุดของกรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ ปี 2559 พบว่ามีคนพิการวัยแรงงานที่ประกอบอาชีพเพียง ร้อยละ 28.56 หรือ 213,896 คน จาก 748,941 คน และที่ยังไม่ได้ทำงานมีจำนวนมากถึง 397,800 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 53.11 ของคนพิการวัยแรงงานทั้งหมด [1]

 

บาทหลวง ดร. พิชาญ ใจเสรี ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการกล่าวว่า “แม้ว่าปัจจุบัน ประเทศไทยมีกฎหมายต่าง ๆ ที่ส่งเสริมความสามารถของบุคคลพิเศษ การยอมรับความแตกต่างและความเท่าเทียม รวมทั้งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 มาตรา 33  ที่กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ รับคนพิการเข้าทำงานตามลักษณะของงานในสัดส่วนที่เหมาะสมในอัตรา 100 คนต่อ คนพิการ 1 คน แต่ในทางปฎิบัติก็ยังมีคนพิการจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการจ้างงาน เพราะปัญหาหลัก ก็คือ การขาดทักษะบางอย่างที่จำเป็นต่อการทำงาน ที่เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของนายจ้างยุคใหม่ ซึ่งหนึ่งในทักษะวิชาชีพที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ก็คือ ทักษะด้านการใช้คอมพิวเตอร์และไอที จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ไมโครซอฟท์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะการโค้ดดิ้งให้กับเยาวชนพิการ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ พึ่งพา

ตนเองได้ และบรรลุเป้าหมายในชีวิตแม้ในยุคที่เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

 

นางสาวศิริพร พัชรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงโครงการ#YouthSpark ว่า “ไมโครซอฟท์มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับพันธมิตร เป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการยกระดับความสามารถให้แก่เยาวชนทุกรูปแบบความพร้อมทางร่างกาย ผ่านการอบรมด้านโค้ดดิ้ง #AllCanCode โดยนำเอาโครงการระดับโลกของไมโครซอฟท์ชื่อ Microsoft YouthSpark (ไมโครซอฟท์ ยูธสปาร์ค) มาจุดประกาย และผลักดันเยาวชนทุกคนรวมถึงผู้พิการ ให้บรรลุความสามารถที่มากกว่าเดิม โดยไมโครซอฟท์และพันธมิตรของเราจะให้การสนับสนุนเทคโนโลยีภายใต้โครงการไมโครซอฟท์ ยูธสปาร์คแก่เยาวชนรวมทั้งผู้พิการผ่านศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีทั้วประเทศ”

 

“ไมโครซอฟท์ ได้ร่วมมือกับสถาบัน ChangeFusion เพื่อมอบคอร์สระดับโลกในการเรียนเขียนโค้ดมาสู่เยาวชนไทยทุกคน ทุกระดับความสามารถ” นายไกลก้อง ไวทยการ ผู้อำนวยการ Social Tech สถาบัน Change Fusion กล่าว “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการการส่งเสริมและขยายโอกาสการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ให้กับเยาวชนไทย เพื่อจุดประกายความสนใจในอาชีพสายเทคโนโลยี เพื่อเรียนรู้การเขียนโค้ดซึ่งเป็นการใช้ทักษะการแก้ไขปัญหา และสามารถต่อยอดในการสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมในอนาคต”

 

“ในปัจจุบัน เครื่องมือทางเทคโนโลยีมีความล้ำหน้าและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับผู้ใช้ในทุกระดับความสามารถ ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไปจนถึงผู้พิการ และความรู้พื้นฐานทางด้านไอทีในการทำงานมีความสำคัญไม่แพ้ทักษะทางด้านภาษา” นายวิทยา ปุผาลา หนึ่งในศิษย์เก่าโรงเรียนอาชีวะมหาไถ่ และผู้พิการตัวอย่างซึ่งปัจจุบันเป็น Programmer & Webmaster บริษัท แอลเค กรุ๊ป พัทยา ร่วมแบ่งปันข้อคิด เพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ที่เข้าร่วมงาน “ผมเชื่อว่า เทคโนโลยีจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารในทุกมิติ ทั้งความรวดเร็ว ความลึก ความหลากหลาย นำไปสู่การเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัด และทำให้ทุกคนมีความสามารถเท่าเทียม เก่งเท่ากัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร และอยู่ที่ไหน เพียงแค่รู้และใช้เป็น”

 

“การสอนการเขียนโค้ดผ่านเกม Minecraft ครั้งนี้ สนุกและเข้าใจง่าย มีแนวทางและลำดับขั้นตอนที่ทำให้ผมและผู้เรียนคนอื่นๆ สามารถเห็นภาพได้ทันที” นายสังวาล นนทะบูรณ์ เยาวชนผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม #AllCanCode กล่าวถึงความประทับใจที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้ “ผมขอขอบคุณไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เป็นอย่างยิ่ง ที่เล็งเห็นความสำคัญและมอบโอกาสการฝึกอบรมการเรียนเขียนโค้ดให้กับพวกเรา ซึ่งเป็นโอกาสอันล้ำค่าและไม่สามารถหาจากที่ไหนได้ ผมเชื่อว่า การเขียนโค้ดเป็นหนึ่งในทักษะที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการคิดคำนวณอย่างเป็นเหตุเป็นผลและความสามารถในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะเป็นจุดแข็งให้กับคนพิการและนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพิ่มมูลค่างานได้ในอนาคต”

 

“สำหรับน้องๆ ที่สนใจและอยากต่อยอดความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรม #AllCanCode ไมโครซอฟท์มีคอร์สเรียนเขียนโค้ดออนไลน์ผ่านโปรมแกรม Visual Studio Code และ Microsoft TouchDevelop เราเชื่อว่า ทุกคนมีศักยภาพและจุดเด่นของตนเอง เพียงแค่มีความมั่นใจและเชื่อมั่นว่าเราทำได้ ไมโครซอฟท์ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการจุดประกายพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับเยาวชนไทยทุกคน ทุกระดับความสามารถ ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานด้วยทักษะด้านคอมพิวเตอร์อย่างแข็งแกร่ง พร้อมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไปในระยะยาว” นางสาวศิริพร กล่าวสรุป

 

ที่ผ่านมา โครงการ Microsoft YouthSpark ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนโค้ดดิ้งเบื้องต้น อบรมการเขียนโค้ดอย่างง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในการเขียนโค้ด ตั้งแต่ปี 2558 และได้รับความนิยมเป็นอย่ามากจากเยาวชน ครู ผู้ปกครองและผู้สนใจในพื้นที่ต่างๆ นำไปเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง ปัจจุบันมีเยาวชนไทยกว่า 40,000 คนทั่วประเทศได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การการเขียนโค้ดเบื้องต้นจากโครงการดังกล่าว

 



ถูกใจบทความนี้  0