รีวิว Nokia 3.1 แข็งแรงทนทาน ตามสไตล์ Nokia

มาแนะนำกับ Nokia 3.1 ที่เป็นรุ่นน้องของ Nokia ในช่วงหลังจากที่ Nokia เปิดตัวรุ่นใหญ่ไปแล้ว งานนี้ Nokia 3.1 ก็มาวางแผงในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว ด้วยราคาค่าตัวที่ 4,990 บาทมีจำหน่ายที่ Big C และเจ้า Nokia 3.1 มาพร้อมกับ Android One อันเป็นจุดเด่นของเขาเลย เพราะจะได้อัปเดทแพทช์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานลื่นๆ กันไป พร้อม Android 8.0 เวอร์ชั่นล่าสุด

 

สำหรับ Nokia ในปีนี้ ก็ยังทรงๆ ไม่ได้แรงมากนัก ซึ่งในบ้านเราเองก็มีวางขาย Nokia 3.1 กันไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นรุ่นเล็กสเปคไม่แรง ราคาก็สมกับความเป็น Nokia ที่ 4,990 บาท  แลกกับการใช้งานที่ลื่นเพราะมาพร้อมกับ Android 8.0 และ UI เดิมๆ ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรมากมาย และมีการอัพเดทแพทช์รวดเร็วอีกด้วย

 

ดูสเปคกันหน่อยครับ รายละเอียดฉบับเต็มดูได้ที่ Nokia Thailand ตามลิงค์นี้

 

แกะกล่องสำรวจตัวเครื่อง

Nokia 3.1 มาพร้อมกล่องในสไตล์เดิมๆ มีอุปกรณ์มาให้ครบ บางแบรนด์จะไม่มีหูฟังมาให้แต่งานนี้ Nokia จัดให้ครบ ไม่ต้องไปวิ่งหาซื้อหูฟังเพิ่ม คงจะมีหลายคนชอบ รวมถึงแฟนๆ Nokia เองด้วย


อุปกรณ์ครบๆ จะหาได้จากที่ไหนอีก?

หูฟังที่แถมมาให้คือไม่มีพวกฟองน้ำหุ้มนะ หลายๆ แบรนด์ที่แถมให้ก็ประมาณนี้ล่ะ ก็เรียกว่าเป็นหูฟังทั่วไป ไม่ใช่ in-ear แต่อย่างใด

สำหรับตัวเครื่องขนาดพอดีมือ เพราะมีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว ที่สมัยก่อนเราอาจจะเรียกมันได้ว่าเป็นเรือธงเลยทีเดียว แต่มายุคนี้ขนาดหน้าจอขยายขึ้น ซึ่งหน้าจอขนาดนี้ก็พอกับการใช้งานทั่วๆ ไปแล้วล่ะครับ ส่วนของสเปคที่ผมมักจะไม่ค่อยพูดถึงเพราะเดี๋ยวนี้คือ สเปคตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้หมด ยกเว้นเรื่องเล่นเกมที่ต้องใช้สเปคสูง ดังนั้นเจ้า Nokia 3.1 คือใช้งานทั่วๆ ไป โอเคแล้วล่ะ ลื่นแน่นอน ถึงแม้ว่าจะใช้ MTK 1.5 GHz ก็ตาม แต่ก็ยังเป็น Octa-Core พื้นที่ใช้งานก็ให้มา 16 GB ใช้จริงก็คือไม่ถึงตามระเบียบนั่นเอง ซึ่งตอบเลยว่าความจุระดับนี้ผมว่าไม่ค่อยพอแล้วล่ะ ต้องใส่เมมโมรี่เพิ่ม อีกส่วนนึงก็คือ RAM ที่จัดให้ 2 GB


สำหรับดีไซน์ของ Nokia 3.1 เป็นขอบตัดเพชร สังเกตุเห็นทั้งสี่ด้านขอบมน และหน้าจอใช้วัสดุ Gorilla Glass กันรอยขีดข่วนได้ในระดับนึง ส่วนกล้องด้านหน้าให้มา 8 ล้านพิกเซลถือว่าเยอะใช้ได้อยู่นะ

รอบๆ ตัวถูกออกแบบมาให้มีสีกลมกลืนกันทั้งหมด คือสีดำ แต่มีสีให้เลือก 3 สี คือสีดำ ที่เห็นนี้ สีขาว และสีน้ำเงิน ส่วนของการวางพอร์ทต่างๆ ยังคงเดิม มีทั้งช่องเสียบหูฟัง ที่อยู่ด้านบน พอร์ท micro USB สำหรับชาร์จและซิงค์ ลำโพงและไมค์ อยู่ด้านล่าง

ด้านข้างทั้งสองด้านก็เช่นเดียวกัน การวางปุ่มกดต่างๆ ก็ตามมาตรฐาน Android ไม่ได้มีจุดแตกต่างกันในเกือบทุกแบรนด์ ส่วนความรู้สึกและการสัมผัสนั้น ด้วยความเป็น Nokia ทั้งดีไซน์ยังมาในสไตล์ของตัวเองที่บ่งบอกถึงตัวตน ไม่แค่นั้นคือยังรู้สึกแข็งแรง คือ อึด ถึก ทน เหมือนเช่นเคย ถึงแม้ว่าราคาอาจจะดูแรงไปสักหน่อย แต่ก็คงเป็นเรื่องความชื่นชอบดีไซน์ ความแข็งแรง และแบรนด์นั่นล่ะครับ


ส่วนของช่องใส่ซิม อันนี้คือดีเลย ออกแบบมาให้รองรับ 2 ซิม และใช้งานได้พร้อมกัน ยังไม่พอคือสามารถใส่ micro SD เพิ่มเติมได้อีกด้วย ใช้งานทุกอย่างพร้อมๆ กันไปเลยแบบนี้สิดี

ส่วนของด้านหลังมาพร้อมกับกล้องเดี่ยว ไม่ได้อินเทรนด์กล้องคู่เหมือนรายอื่นๆ และจะเห็นว่าไม่มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังอีกด้วย แน่นอนว่าเทรนด์ฝาหลังเปิดไม่ได้ แบตให้มาที่ 2,990 mAh อยู่ทั้งวันสบายๆ

กล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล  พร้อมแฟลชดวงเบ้อเร่อ ชัทเตอร์ไวดี ผมว่าเหมาะสมกับราคาแล้วล่ะครับ คุณภาพที่ได้ผมแปลกใจว่า ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้เหมือนกันนะ เรียกว่าสมราคาคุยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ากล้องจะมีแค่ตัวเดียวและอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายก็ตาม

 

มาดูซอฟท์แวร์ภายใน

ด้าน Android 8.0 และ UI ของ Nokia 3.1 คือมีพร้อม ลื่นอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น ใช้งานทั่วไป ได้ดี ไม่ได้ทดสอบเล่นเกม คือพอเล่นได้ แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก เนื่องจากสเปคที่มีจำกัด ณ ตอนนี้ เล่นเกมทั่วๆ ไปไหว แต่พวก ROV อะไรแบบนี้ก็พอได้นะ แต่ก็อย่าคาดหวังมากนัก


ตัวมัลติทัชจัดเต็ม 10 นิ้วไม่มีกั๊ก และพื้นที่มีให้ใช้งานพอสมควร แค่ OS ก็กินไป 8GB ได้ละ ที่เหลือก็ใช้งานกันไป

ส่วนอื่นๆ ก็ไม่น่าจะมีอะไรครับ ก็จะมีแตะหน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกหน้าจอให้สว่างขึ้นมาแค่นั้น ที่เหลือก็การตั้งค่า Android ทั่วๆ ไป

 

เรื่องฟังก์ชั่นกล้อง มีให้พอใช้งานตามสไตล์


ปรับแบบแมนวลได้ระดับนึง และมีโหมดมาโคร ด้วยนะ

แน่นอนว่าโหมดหน้าใสก็เช่นกัน และยังมี HDR อีกด้วย


โหมดปรับเองหรือแมนวลโหมดมีให้ใช้ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ถือว่าโอเคอยู่


ส่วนวีดีโอ ถ่ายแบบเร่งวีดีโอหรือเคลื่อนที่ช้าก็มีครบ แถม Live ผ่าน Social ได้ด้วย เรื่องกล้องฟีเจอร์ที่มีก็พอใช้งานครบถ้วนแล้วล่ะ

ตัวอย่างภาพถ่าย

กล้องหน้าเก็บภาพได้กว้างดีชอบๆ

 

สรุปการใช้งาน Nokia 3.1

คือการพกพา ใช้งานต่างๆ ตอบโจทย์ได้หมด ยกเว้นจะเอามาเน้นเล่นเกม อันนี้ผมว่าผ่านไปดีกว่า แต่ถ้าเป็นการใช้งานโทรศัพท์ social ทั่วๆ ไปในปัจจุบันทำได้ดี อีกทั้ง Nokia 3.1 ก็จะได้อัพเดทแพทช์กันไปยาวๆ รวมถึง OS ใหม่ ที่ไม่ต้องกังวลหรือลุ้นว่าจะได้อัพเดทหรือเปล่า Android One ได้ไปต่อ ไม่ลอยแพแน่นอน แบตอึดใช้ได้ทั้งวัน ด้วยตัวเครือ่งที่มีขนาดหน้าจอปานกลางและแบต 2,990 mAh ที่น่าสนใจก็คือกล้อง แจ่มอย่างเค้าว่าจริงๆ คือปกติผมว่าคุณภาพในราคาระดับนี้ของ Nokia จะทำได้ไม่ดีเท่านี้ คือไม่ได้คาดหวังแต่มาใช้จริงคือชัตเตอร์เร็ว บางจังหวะก็ถ่ายออกมาได้ดีเกินคาด จากฝีมือบ้านๆ อย่างผม ผมถือว่าพอใจละ ส่วนที่จะติก็คงเป็นเรื่อง ราคากับฟีเจอร์ที่มี เช่นสแกนลายนิ้วมือ เพราะแบรนด์อื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกันก็จะมีฟีเจอร์และสเปคที่ต้องบอกเลยว่าดีกว่า แต่งานนี้ใครที่เป็นแฟน Nokia และเน้นใช้งานก็จัดกันไปที่ราคา 4,990 บาท ที่ Big C



ถูกใจบทความนี้  75