Alcatel SHINE LITE สมาร์ทโฟนวัสดุพรีเมี่ยม มี VoLTE ให้ใช้ และมาในราคาที่จับต้องได้ !!!

SHINE LITE 2

  การหวนคืนตลาดในไทยของแบรนด์ Alcatel พร้อมเปิดตัว Smartphone ในหลาย ๆ ซีรีย์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้  ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานในบ้านเราเป็นอย่างดีเลยครับ โดยรุ่นที่เป็นหัวหอกในการบุกตลาดครั้งนี้ก็คือ SHINE LITE ที่มาพร้อมกับความน่าสนใจหลาย ๆ ด้าน อาทิเช่นดีไซน์  Glass & metal unibody ที่เลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยมอย่างกระจก Dragontrail ทั้งหน้า-หลัง ผสานเข้ากับเฟรมตัวเครื่องที่เป็นอลูนิเมียม ในด้านการเชื่อมต่อก็ถือว่าโดดเด่น เพราะมี  VoLTE มาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งราคาในเรทนี้หาได้ยากมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ในภาพรวม ๆ ก็ถือว่าสอบผ่านโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาตัวแล้ว ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยครับ     

 

สเปคเบื้องต้นของ Alcatel SHINE LITE

● หน่วยประมวลผล MediaTek MT6737 quad-core 64-bit ความเร็ว 1.3GHz
● หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T720
● หน้าจอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD  (1280×720 พิกเซล) มาพร้อมกระจกป้องกันรอยแบบโค้ง 2.5D จากค่าย Dragontrail Glass ทั้งหน้าและหลัง
● แรม 2GB
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด  16GB  และรองรับหน่วยความจำ MicroSD ได้สูงสุด 128GB
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม Dual-tone LED flash
● กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + ไฟแฟลช
● รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ VoLTE
● AWINC 8738 audio amplifier
● แบตเตอรี่ความจุ  2460 mAh
● ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Android 6.0 (Marshmallow)
● ขนาดตัวเครื่อง 141.5*71.2*7.45 มม.
● น้ำหนัก 156 กรัม
● สีที่มีวางจำหน่ายได้แก่ สีทอง (Satin Gold) และ สีขาว (Pure White)

● ราคาวางจำหน่าย ราคา 5,990 บาท
● พิเศษ!! เพียงซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็คเกจ AIS Hot Deal ตั้งแต่ 399 บาทต่อเดือนขึ้นไป เหลือแค่ 3,990 บาทเท่านั้น

 


Packaging & Accessories

ตัวเครื่องที่ได้รับมาเป็น Testing สำหรับรีวิวครับ แพ็กเกจและอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีความแตกต่างจากชุดวางจำหน่ายจริงอยู่บ้าง แต่หลัก ๆ แล้วมีความใกล้เคียงกัน โดยอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะประกอบไปด้วย

1. ตัวเครื่อง Alcatel SHINE LITE

2. ชุดหูฟังสมอลทอร์คแบบ “เอียร์บัด”

3. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ แบบขากลม ให้ OUTPUT มาที่ 1A

4. สาย Micro USB

 

 

Design & Hardware

SHINE LITE 2

SHINE LITE 3

ดีไซน์ของ Alcatel SHINE LITE เป็นแบบ Glass & metal unibody ที่ผสานด้วยวัสดุกระจกกับอะลูมิเนียมได้อย่างกลมกลืน โดยเฟรมหรือขอบตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียมที่ครอบทับด้วยกระจกป้องกันรอยแบบโค้ง 2.5D จากค่าย Dragontrail Glass ทั้งทางด้านหน้าและหลัง

งานออกแบบค่อนข้างลงตัวเลยครับ มีการตัดขอบข้างแบบไดม่อนคัทให้ดูแวววาวพรีเมี่ยมตามสมัยนิยม เมื่อผสานกับวัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและหลัง จึงส่งผลให้ดูมีหรูหรามากยิ่งขึ้น

สุดท้าย Handle การจับถือพกพา ด้วยดีไซน์โค้งมนและมีขนาดหน้าจอเพียง 5 นิ้ว ทำให้การจับถือพกและใช้งานค่อนข้างสะดวกครับ ที่จะติก็คือขอบข้างนั้นดูเหมือนจะคม ๆ ไปนิด ทำให้จับถือแล้วกระด้างไปเรียบลื่นเท่าที่ควร

 

SHINE LITE 4

จอแสดงผล IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD  (1280×720 พิกเซล) มาพร้อมกระจกป้องกันรอยแบบโค้ง 2.5D จากค่าย Dragontrail Glass ตัวจอมีมุมมองที่กว้าง เรื่องความคม ความสว่างสดใสก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ

 

SHINE LITE 5

Alcatel SHINE LITE ตอบโจทย์ขาเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช สำหรับการจัดวางเลย์เอาจะเป็นดังนี้ เริ่มจากซ้ายมือสุดจะเป็นที่อยู่ของไฟแจ้งเตือน LED Notification ถัดมาคือไฟแฟลชของกล้องหน้า , สำโพงสนทนาที่เป็นแบบตะแกรงปิดครอบทับ, กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, สุดท้ายคือชุดเซ็นเซอร์  Proximity sensor และ Light sensor

SHINE LITE 6

SHINE LITE 7

สำหรับปุ่มนำทางจะเป็นแบบ capacitive button ที่ไฟท์แบ็คไลท์จะติดเมื่อเรียกใช้งาน และหากเข้าสู่โหมเสแตนบายก็จะปิดไว้เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน

 

SHINE LITE 10

กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชคู่ Dual Tone จัดวางอยู่ด้านล่าง ถัดลงมาจะเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและโลโก้ alcatel

 

SHINE LITE 8

SHINE LITE 9

ด้านบนจัดวางตำแหน่งช่องเสียบหูฟังไว้มุมขวามือ ส่วนไมค์ตัดเสียงรบกวนจะอยู่ที่ฝั่งซ้ายครับ

ด้านล่างเป็นลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักของตัวเครื่อง ที่เห็นเป็นช่องสองฝั่งนั้นไม่ใช่ลำโพงแบบสเตอริโอนะครับ แต่เป็นการออกแบบเพื่อให้ดูกลมกลืน โดยฝั่งซ้ายจะเป็นไมค์สนทนา ทางฝั่งขวาจะเป็นลำโพงหลัก ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อยังคงเป็น Micro USB ตามมาตรฐานเดิม

 

SHINE LITE 11

SHINE LITE 12

ด้านฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะประกอบได้ด้วยปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ส่วนทางฝั่งซ้ายจะเป็นที่ซ่องถาดซิมครับ โดย Alcatel SHINE LITE จะรองรับการใช้งานได้แบบ 2 ซิมการ์ด และไฮทไลท์ที่น่าชื่นชมก็คือรองรับ VoLTE ด้วย ซึ่งราคาเปิดตัวเท่านี้นับว่าหายากมาก ๆ ครับ

 

SHINE LITE 13

ด้านตัวถาดจะเป็นแบบไฮบริด คือรองรับการทำงานร่วมกับหน่วยความจำภายนอก Micro SD Card สำหรับรูปแบบของซิมจะเป็นชนิด Nano SIM ทั้ง ซิม 1- และ 2 ครับ

 

สำหรับการสำรวจทางด้าน Hardware ภายนอกของ Alcatel SHINE LITE ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ

 

Software & Feature

1-horz

4-horz

Alcatel SHINE LITE  เปิดตัวมาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่น 6.0 ในฝั่งของ UX/UI จะเป็น “Onetouch  launcher” ที่ทางค่าย Alcatel พัฒนาออกมาเป็นแนวทางของตัวเอง  โดยในหน้า Appdrawer จะไม่มีการแบ่งเป็นหน้า ๆ หรือแท็บ แต่จะแสดงผลในหน้าเดียวแบบลิสต์ครับ ส่วนแอพบันเดิลมาให้ค่อนข้างเยอะไปสักนิด แต่ยังดีที่สามารถถอดการติดตั้งออกไปได้ครับ

 

6=7-horz

สำหรับจุดเด่นของ Onetouch  launcher คือการพัฒนามาจากรอมของ AOSP จึงได้เรื่องความสมูท เสถียร และความลื่นไหลที่ดีมาก ๆ

 

10-horz

ฟีเจอร์ค่อนข้างเรียบง่ายครับ จะแตกต่างจากพวกรอมจีนทั่ว ๆ ไปที่มีฟีเจอร์ Gestures อันหลากหลายกว่า  บน Alcatel SHINE LITE จะมีแค่เพียง Gestures แบบเบสิคมาให้ใช้งานเท่านั้น สำหรับ fingerprint scanner รองรับได้สูงสุดที่  5 ลายนิ้วมือ ความเร็วและความแม่นยำในการสแกนทำได้ค่อนข้างดี และยังมีฟีเจอร์ที่ใช้ในการปลดล็อคแอพได้อีกด้วยครับ

 

18-horz

รองรับ VoLTE ในราคาระดับนี้ถือว่าหายากมาก ๆ ครับ ตรงนี้จึงทำให้ Alcatel SHINE LITE โดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนในระดับราคาค่าตัวที่พอ ๆ กัน

 

 

Performance

SW Alcatel 4

SW Alcatel 1

SW Alcatel 2

SW Alcatel 3

สเปคโดยรวมของ Alcatel SHINE LITE อยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางล่าง ผลคะแนนจึงไม่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ชิปเซ็ตเดียวกัน แต่ข้อดีคือ Firmware หรือ ROM นั้นปรับแต่งมาจากเบสรอมของ AOSP  อีกทั้งไม่มีฟีเจอร์ที่หวือหวา การใช้งานในภาพรวมจึงมีความสมูทลื่นไหล และมีความเสถียรที่ดีอีกด้วย

ในด้านการจัดสรรพลังงาน ผมขอเล่าจากการใช้งานจริงไม่อิงตัวเลขนะครับ ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มา 2460 mAh ก็ไม่ถือว่าเยอะเท่าไหร่ หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไปที่ไม่หนักมาก ก็สามารถใช้งานได้ 1 วันแบบฉิวเฉียดครับ

 

 

Camera & Sample

13

เมนูอินเตอร์เฟซกล้องของ Alcatel SHINE LITE ดูเรียบง่ายนสะอาดตา แต่โหมดการถ่ายจะเน้นไปที่ Auto เป็นหลักครับ ไม่มีพวกซีนโหมดหรือฟิลเตอร์ ๆ ต่าง ๆ มาให้ใช้งาน

 

14

15

โหมดการถ่ายที่ถือว่าเป็นจุดขายก็คือโหมด Split Catcher ที่จะเะป็นการถ่ายแบบรวมรูปภาพไว้ในกรอบเดียว

 

16-horz

โหมดกาารตั้งค่าจะเป็นแบบเบสิคครับ และไม่มีแมนวนให้ปรับอะไรมากนัก จุดขายหลักก็คือกันสั่น EIS ในวีดีโอ และระบบ Gesture shot เซลฟี่ได้ง่ายๆ  แค่ชูสองนิ้วเป็นต้น

 

จากนี้มาดูรูปถ่ายจากกล้องของ Alcatel SHINE LITE  กันได้เลยครับ

Alcatel Shine 14

Alcatel Shine 21

Alcatel Shine 16

Alcatel Shine 11

 

 

มาทดสอบโหมด HDR กันบ้าง

Alcatel Shine 8

Auto mode

 

Alcatel Shine 7

HDR mode

 

Alcatel Shine 12

Auto mode

 

Alcatel Shine 13

HDR mode

 

 

จากนี้จะเป็นโหมด Auto เพียงอย่างเดียวครับ

Alcatel Shine 4

Alcatel Shine 5

Alcatel Shine 19

Alcatel Shine 18

Alcatel Shine 17

Alcatel Shine 15

Alcatel Shine 9

Alcatel Shine 6

Alcatel Shine 20

 Alcatel Shine 10

Alcatel Shine 2

Alcatel Shine 3

Alcatel Shine 1

โหมดถ่ายรูปด้วยการเปิดแฟลชของ Alcatel SHINE LITE ทำได้ดีมาก ๆ ครับ คือมีการคำนวนความแรงของแสงแฟลชได้พอเหมาะกับระยะห่างและสภาพแสงโดยรวม ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความเป็นธรรมชาติ คือไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป

IMG_20161007_152317 IMG_20161007_152421

สำหรับกล้องหน้าจะมีทั้งแฟลชและโหมดบิวตี้มาให้ใช้งานครับ แต่จากที่ได้ลองใช้งานจริงๆ  พบว่าถ้าเป็นในที่แสงน้อยยังทำผลงานได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ส่วนสภาพแสงกล้างแจ้งถือว่าพอใช้ได้ครับ

สรุป Alcatel SHINE LITE 

ข้อดี

1. สเปคคุ้มค้าต่อราคา โดยเฉพาะการผูกกับแพ็กเกจของ AIS

2. ดีไซน์และวัสดุดูพรีเมี่ยมด้วย Glass & metal unibody และงานประกอบเรียบร้อยแข็งแรงดีมาก

3. กล้องหลังคุณภาพค่อนข้างดี ทำผลงานได้น่าประทับใจ

4. ลำโพงแม้จะเป็นโมโน แต่เรื่องความดังและคุณภาพจัดว่าดีเลยที่เดียวครับ

5. Firmware ปรับแต่งมาได้ดีทำให้การใช้งานมีความลื่นไหล

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. กล้องหน้ายังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจนัก

2. ขอบตัวเครื่องให้ความรู้สึกคม ๆ อยู่บ้าง

3. ไฟแบ็คไลท์ใช้งานกลางวันมองเห็นไม่ค่อยชัด

4. แบตยังไม่อึดเท่าที่ควร

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันนะครับ

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> https://goo.gl/DeJei5



ถูกใจบทความนี้  0