รีวิว Belkin Screen Protector ฟิล์มกระจกที่ติดกี่เครื่องก็เนี๊ยบด้วยเครื่องติดฟิล์มเฉพาะ

belkin-tempered-glass-0011

Belkin (เบลกิ้น) แบรนด์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีแล้วว่าเป็นแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์เสริมไอทีทุกอย่าง ตั้งแต่สายชาร์จ, อแดปเตอร์ทั้ง 1 หัว 2 หัว 4 หัว หรือจะทั้งแบบชาร์จไฟบ้าน ชาร์จบนรถยนต์, ปลั๊กไฟ ที่หลากหลายทางเลือก ทั้งสำหรับคนอุปกรณ์เยอะซึ่งมีการผสมผสานพอร์ท USB ลงไปด้วย และสินค้าอื่นๆ อีก อาทิเช่น ที่วางมือถือบนรถยนต์ที่มีทั้งแบบใส่ตรงที่วางแก้ว หรือจะติดกระจกรถก็มีให้เลือก เอาเป็นว่าถ้ามาขุดสินค้าทั้งหมดของเบลกิ้นเนี่ยคงยาวมากแบบ ก.ไก่ล้านตัว โดยเบลกิ้นนั้นเป็นแบรนด์ชั้นนำมีคุณภาพที่ดี ไว้วางใจได้ แต่ใครเล่าจะนึกว่าเบลกิ้นจะมาทำกันรอยหน้าจอ (Belkin Screen Protector) สำหรับ iPhone ในรูปแบบฟิล์มกระจกด้วย ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องติดฟิล์มด้วย จะพิเศษกว่าคนอื่นยังไงเดี๋ยวจะรีวิวให้ได้ชมกันครับ

ทางทีมงานเองได้รับเชิญให้ไปร่วมงานของเบลกิ้นซึ่งในงานมีสิ่งที่น่าสนใจคืออุปกรณ์กันรอยหน้าจอ ซึ่งเบลกิ้นเองก็ทำเช่นกันโดยมาในรูปแบบฟิล์มกระจก อ่ะ ฟิล์มกระจกก็ไม่มีไรใช่ป่ะ ? แบรนด์อื่นก็มีนี่ ซึ่งทางเบลกิ้นเค้าได้บอกว่าสินค้าเค้าแตกต่างจากคนอื่นคือ

ฟิล์มกันรอยและแรงกระแทกที่เสมือนไม่ได้ติดฟิ ล์มที่ยังให้สัมผัสเหมือนหน้าจอปกติ รองรับการทำงานทุกฟังก์ชั่นของระบบมือถือได้ทุกอย่าง เช่น 3D Touch ของ iPhone ซึ่งเบลกิ้นได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขึ้นโดยคำนึงการออกแบบที่มีหลายชั้นเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ดียิ่งขึนเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นและการปกป้องหน้าจอที่ส่วนที่สามารถทำได้โดยไม่ทำให้ฟังก์ชั่นหายไปและความสวยงามของเครื่องยังคงอยู่” โดยฟิล์มของเบลกิ้นทุกประเภทเนี่ยได้รับการทดสอบให้ผ่านมาตรฐานความละเอียดของ Pixel-PerfectTM

belkin-tempered-glass-0021

ในการติดฟิล์มของเบลกิ้นนั้นจะไม่เหมือนกับแบรนด์อื่นที่ผู้ติดฟิล์มจะต้องมาเล็งเองว่าตรงช่องรึเปล่า บังกล้องหรือเซ็นเซอร์มั้ย เพราะว่าเค้ามาพร้อมเครื่องติดฟิล์มและใช้กล่องที่ทำมาแต่ละรุ่นในการช่วยติดให้ง่ายขึ้น

belkin-tempered-glass-0101

จะติดฟิล์มรุ่นไหนก็ต้องใช้กล่องรุ่นนั้นนะ ซึ่งรุ่นที่จะนำเข้ามาตอนนี้มี iPhone 5s, 6, 6 Plus, 6s, 6s Plus, 7 และ 7 Plus

belkin-tempered-glass-0031

วิธีติดก็ไม่ยาก ไปซื้อฟิล์มก่อน ฮ่าๆๆ จากนั้นทำความสะอาดหน้าจอ และดึงฝุ่นออก (ในชุดฟิล์มจะมีตัวดึงฝุ่นออกจากหน้าจอให้)

belkin-tempered-glass-0041

belkin-tempered-glass-0061

ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วก็จัดการนำมือถือไปวางในกล่องบนเครื่องติดฟิล์ม จากนั้นนำฟิล์มไปวางทับโดยตัวฟิล์มจะมีการทำช่องให้ใส่มาพอดี เวลาติดก็จะตรงเป๊ะไม่ต้องมานั่งเล็งให้เมื่อยตาและเสียเวลาลอกเข้าแปะใหม่อีก

belkin-tempered-glass-0051

จากนั้นจับปิดฝาให้เรียบร้อย มือจับเครื่องติดฟิล์มให้มั่น กดปุ่มแล้วจับดึง ตูมมม!!

belkin-tempered-glass-001

เมื่อดึงเรียบร้อยเจ้าเครื่องติดฟิล์มจะทำการดึงพลาสติกออก แต่พลาสติกเนี่ยยังดึงออกไม่หมดนะ จะยังเหลืออีกแผ่นแปะอยู่เหนือฟิล์มกระจกอีกที อันนี้ก็แค่ค่อยๆ ดึงออกพอ

belkin-tempered-glass-0071

จากนั้นก็ทำการไล่อากาศออกด้วยอุปกรณ์ในซองฟิล์มกระจก ซึ่งอันนี้เบลกิ้นทำมาได้ดูดีมาก ไม่ใช่ใช้บัตรแข็งๆ มารีดเหมือนร้านทั่วๆ ไปทำ

belkin-tempered-glass-0081

รีดอากาศออกเรียบร้อย เนียนหล่อเลย

belkin-tempered-glass-0091

ดูใกล้ๆ กันหน่อย จะได้เห็นว่าฟิล์มกระจกของเบลกิ้นเนี่ยเป็นแบบไม่เต็มจอนะครับ เนื่องจากจอ iPhone รุ่นหลังๆ เนี่ยมันขอบโค้งๆ นะฉะนั้นตัวกระจกมันโค้งตามไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนฟิล์มแบรนด์อื่นี่มีเต็มจอนั่นคือฟิล์มกระจกผสมกับฟิล์มอีกชั้นนึงซึ่งตัวเนื้อฟิล์มปกติมันสามารถโค้งงอได้เลยทำให้ดูปิดเต็มจอไป แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่กระจกทั้งแผ่นอยู่ดี และข้อดีของฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอคือยังสามารถใส่เคสที่กินขอบจอขึ้นมาได้ด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะกินฟิล์มแล้วดันให้ฟิล์มยกขึ้นมา

ฟิล์มของเบลกิ้นนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 1 มีนาคม 2017 โดยจะจำหน่ายที่ True เริ่มที่ 5 สาขาดังนี้
– Central World
– Central Embassy
– Mega Bangna
– Central Bangna
– Central Pinklao

สำหรับความหนาของฟิล์มกระจกเบลกิ้นหนาเพียง 0.2 มม. ความแข็งแบบ 9H และมีการรับประกัน 1 ปี สำหรับกระจกที่ติดไปทั้งกรณีแตก ร้าว บิ่น เลอะเครื่องสำอางเช็ดไม่ออก ฯลฯ โดยเวลาที่เราซื้อฟิล์มกระจกเสร็จจะได้รับคูปอง เวลาเปลี่ยนก็เอาใบนี้มาใช้นั่นล่ะ

ส่วนราคานั้นอยู่ที 1,190 บาท โดยในตอนเปิดขายช่วงแรกจะมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าทรูที่มีบัตร True Card (ทั้ง Red และ Black) 500 ท่านแรก จะสามารถซื้อฟิล์มกระจกของเบลกิ้นชิ้นที่ 2 ได้ในราคา 19 บาท ฉะนั้นถ้าใครสนใจแนะนำให้หาคนไปติดด้วย ไม่ก็หามันหน้าร้านนั่นล่ะ เจอใครถูกใจก็ถามเค้าเลย ฮ่าๆๆ

หลายคนอาจมองว่าแพง ผมเองก็มองว่าแพงพอตัวเหมือนกัน แต่ถ้านึกถึงประกันที่ได้ใน 1 ปี ซึ่งจากที่ผมถามทางเบลกิ้นมาคืออยากจะมาเปลี่ยนก็เอาคูปองมาเปลี่ยนได้เลย ในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ซื้อ (ถ้าเราไม่ลืมไปเปลี่ยนนะ) เท่ากับว่าเราซื้อกระจก 2 อันในราคา 1,190 บาท หรือตกอันละ 595 บาทเอง และได้ของที่คุณภาพดีแน่นอนด้วย ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนสำหรับมือถือราคาสองสามหมื่นอยู่นะ



ถูกใจบทความนี้  57