รีวิว i-mobile IQ X Pro สมาร์ทโฟนหน้าตาดี สเปคแรง ราคาถูกใจ

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ขยันทำการบ้าน เอ๊ะ หรือขยันออกรุ่นใหม่มาไม่ขาดสายดีและยังเป็น Local Brand ของบ้านเราอีกด้วยนั่นคือ i-mobile นั่นเองครับ ตัวที่จะรีวิวในวันนี้นั้นมีชื่อรุ่นว่า IQ X pro มาหร้อมสเปคที่แรงพอตัวเลยล่ะกับ CPU ระดับ 8 แกน Ram 2GB ที่สำคัญตัวเครื่องก็สวยงามดูดีมากเลยทีเดียว ซึ่งพอใช้งานจริงจะเป็นไงก็ต้องไปดูกัน

Join PDAMobiz on Telegram

i-mobile IQ X Pro Specification:
– หน้าจอ Super Bright Amoled ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD (720p)
– Chipset Mediatek MT6592M Octa Core 1.4GHz Cortex-A7
– GPU Mali-450MP
– Ram 2GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16GB
– รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32GB
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– 3G 850/900/2100
– กล้องหลังความละเอียด 18 ล้านพิกเซล F2.2 พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– ขนาดตัวเครื่อง 141.3 x 70.6 x 7มม.
– น้ำหนัก 120 กรัม
– แบตเตอรี่ 2,050mAh
– Android 4.4 Kitkat
– ราคา 6,590 บาท

1.แกะกล่อง

กล่องของ i-mobile IQ X Pro มีสีขาว พร้อมมีลายพร้อยๆ สีฟ้าๆ อยู่ ด้านหน้ามีรูปร่างหน้าตาของตัวเครื่องอยู่ และด้านหลังบอกสเปคแบบค่อนข้างละเอียดเลยครับ

ส่วนด้านบนกล่องก็จะบอก IMEI, Serial Number ของตัวเครื่องนั่นล่ะ

เปิดกล่องมาทุกครั้ง ต้องเจอสมาร์ทโฟนนอนรออยู่ในห่อพลาสติกสีขาวขุ่นๆ ทุกทีสำหรับแบรนด์ i-mobile เพราะถ้าไม่เจอตัวเครื่องนี่ก็ขอเปิดกล่องใหม่ได้เลย ฮ่าๆๆ

ยกตัวเครื่องขึ้นเจออันนี้ด้วย ฮ่าๆๆๆ แต่ก็จริงครับ เราควรใช้อุปกรณ์ของตัวเครื่องมันนั่นล่ะ ไม่งั้นเกิดอันตรายไปจะไม่คุ้มเอา

อุปกรณ์ในกล่องทั้งหมดมีดังนี้ครับ
1.ตัวเครื่อง i-mobile IQ X Pro
2.Adapter
3.สาย Micro USB
4.Small Talk
5.แบตเตอรี่
6.ฟิล์มกันรอย
7.เคสขุ่น
8.คู่มือการใช้งาน

หน้าตาของคู่มือการใช้งานครับ มีบอกสเปคอีกด้วย

มีใบบอกว่าศูนย์ซ่อมของ i-mobile อยู่ที่ไหนด้วยนะ ทั้งจุดบริการซ่อมและจุดรับฝากเครื่องซ่อม

Small Talk สายสีขาวเนียน หูฟังเป็นแบบปกติ ไม่ใช่ in-ear

Adapter และสาย Micro USB ก็สีขาวนะจ๊ะ ขาวเนียนมาก

มีเคสแถมให้เช่นเคย คราวนี้เป็นเคสขุ่นๆ ไม่ใส

แบตเตอรี่ IQ X Pro ขนาด 2,050mAh

เอาล่ะดูอุปกรณ์มาพอละ มาดูตัวเครื่อง IQ X Pro กันดีกว่า ตัวเครื่องสีขาวเนียน ดูดีทีเดียวเชียว ด้านหน้านั้นไม่มีปุ่มสัมผัสด้านล่างแล้วนะครับ และด้านหลังก็ไม่มีลำโพงอยู่ด้วย

เหนือหน้าจอมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ตรงกลาง และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ทางซ้าย

ด้านล่างหน้าจอไม่มีปุ่มสัมผัสอีกต่อไป เพราะปุ่มกลายเป็นแบบ on-screen แล้ว แต่มีไฟแจ้งเตือน LED เป็นรูปแบบเส้นยาวๆ สีขาวแทนที่จะเป็นจุดกลมๆ

ด้านหลังมีกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED ใต้ไฟแฟลชมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา

ด้านล่างฝาหลังมีเพียงโลโก้ i-mobile อยู่โดดๆ

ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม. ขอบตัวเครื่องนี่ดูๆ ไปเหมือน Galaxy Note 4 เหมือนกันนะ แต่ไม่ได้ทำจากโลหะยังคงเป็นพลาสติก

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใดอยู่เลย

ด้านขวามีปุ่มอยู่หมดทั้งปุ่มเพิ่มลดเสียงและปุ่ม Power

ด้านล่างตัวเครื่องมีลำโพงอยู่ รูปร่างเหมือนกับ iPhone เลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ และทางขวามีช่องเสียบสายชาร์จ/Micro USB อยู่ด้วย คู่กันกับไมโครโฟนสำหรับสนทนา

เปิดฝาหลังออกมา พบช่องใส่ซิม 1 ขนาดปกติ, ซิม 2 Micro Sim และช่องใส่ Micro SD Card อยู่ทางขวามือครับ

2.User Interface, Sim Management, Super Power, Multi-gesture & Benchmark

User Interface ของ I-mobile ยังคงเน้นสีสันจัดจ้านเช่นเคย คือการใช้งานจริงไม่ต่างจาก Pure Android เท่าไหร่ โดยหน้าตา Launcher ก็แยกออกเป็นหน้า Home และหน้า App Drawer แต่ตัว icon นั้นถูกปรับแต่งให้เป็นแบบมีสี่เหลี่ยมล้อมไอคอนอีกทีหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนการใช้งานนั้นก็ลื่นดีล่ะ เพราะเครื่องมันแรง

Sim Management

IQ X Pro รองรับการใช้งาน 2 ซิมตามสไตล์เช่นเคย และแน่นอนว่าทั้ง 2 ซิมนั้นก็สามารถใช้งาน Data ได้ทั้งคู่ด้วย

ในเรื่องของการโทรออก/ส่งข้อความ นั้นก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ซิมไหนตลอดหรือจะให้เลือกทุกครั้งเมื่อมีการใช้งานก็ได้เช่นกัน

หรือหากใครขี้เกียจเข้าหลายขั้นตอนไปหน้าตั้งค่า > Sim Management ก็สามารถเลือกซิมที่จะโทรออกได้โดยเข้าไปที่หน้าโทรออก แล้วลาก status bar ลงมาเพื่อเลือกซิมที่จะใช้งาน

Battery

โดยปกติ IQ X Pro จะถูกตั้งค่าเอาไว้ให้จำกัดการทำงานของ CPU ที่มีทั้งหมด 8 แกนไม่ให้ทำงานเต็มที่ตลอดเวลาเพื่อจะได้ประหยัดแบตมากขึ้นและช่วยให้เครื่องร้อนน้อยลงจากการใช้งานกติ ซึ่งหากใครคิดจะเล่นเกมส์หนักๆ ก็ค่อยเข้ามาปิดการจำกัด CPU ใน Setting > Battery > CPU power saving mode ก็พอ

Super Power

IQ X Pro มีโหมด Super Power หรือโหมดอภิมหาประหยัดพลังงานให้มาด้วย โดยเมื่อเปิดใช้งานจะเข้าสู่หน้าจอขาวดำเพื่อใช้ประโยชน์จากหน้าจอ Super Amoled ที่จะใช้พลังงานน้อยกับการใช้พื้นสีดำจะได้ประหยัดพลังงานนั่นเอง ทั้งนี้เมื่อเปิดใช้งานแอพต่างๆ จะถูกตัดการใช้งานหมด ก็จะใช้ได้แค่เพียงการโทรออก ส่งข้อความ เข้าเว็บ และ Social Network เท่านั้น แต่ในส่วนของ Social Network รวมกับ Browser นี่เลือกได้แค่ 3 เว็บนะ ก็เลือกดีๆ ละกัน ฮ่าๆ ไม่งั้นมานั่งแอดนั่งลบ ปวดหัวแย่

Multi-gesture

เป็นการใช้ท่าทางโดยจะแยกเป็น 2 นิ้วกับ 3 นิ้ว แล้วจัดการลากบนหน้าจอครับซึ่งก็มีหลากหลายคำสั่งล่ะ เช่นลากนิ้วขึ้นสองนิ้วพร้อมกันเพื่อเข้าสู่แอพ Message เป็นต้น ทั้งนี้จากที่ลองใช้งานดู ผมว่ามันตอบสนองไม่ค่อยตรงเท่าที่ควร และ Gesture นี้ก็ยากเกินจำไปใช้งานจริงด้วย

Schedule power on & off

IQ X Pro สามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ด้วยนะ ปกติสมาร์ทโฟนนี่ตั้งไม่ได้หรอก ถ้าเครื่องดับแล้วก็ดับ นาฬิกายังจะไม่ปลุกเอาเล้ย

i-search

IQ X Pro มีแอพเว็บบราวเซอร์ที่ทาง i-mobile จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยล่ะ จะดีก็ตรงที่ตอนออกจากแอพเราสามารถล้างประวัติได้เลยนี่ล่ะ ไม่มีใครจับได้ว่าเราไปดูอะไรมาบ้าง ฮ่าๆๆ

Benchmark

ทดสอบ Benchmark ด้วยแอพต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 26197
– Geekbench: Single Core 363, Multi Core 2054
– Quadrant Standard Edition: 12039
– Multitouch: 10 จุด

3.กล้องถ่ายรูป

IQ X Pro มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED 1 ดวง หน้าตาของแอพกล้องก็มาตาม Mediatek Style ครับ ก็ใช้ Chipset ของเค้านี่นา ฮ่าๆๆ หากใครเคยใช้สมาร์ทโฟนที่ใช้ Chipset ของ Mediatek ก็จะคุ้นเคยดีเลยล่ะ

แถบซ้ายจะเป็นโหมดในการถ่ายรูปครับ ประกอบไปด้วยโหมด Auto, Beauty, Live Photo Mode และ Panorama

ยืนยันด้วยภาพว่ามาพร้อมกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซลจริง

รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ความละเอียด Full HD แต่ค่าเดิมจะถูกตั้งไว้เพียง HD ฉะนั้นก่อนจะใช้งานก็มาเช็คกันก่อนนะ ว่าความละเอียดอยู่ที่เท่าไหร่

ตัวอย่างภาพถ่าย

เช่นเคยครับกับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง IQ X Pro ภาพทั้งหมดไม่ได้ตกแต่งใดๆ แค่ใส่ลายน้ำและย่อขนาดลงเท่านั้นครับ แต่ครั้งนี้ภาพเยอะหน่อยนะ ฮ่าๆๆ

เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่างโหมด Auto และ HDR ครับ

กล้องหน้า

IQ X Pro มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งชัดเหลือเกิน จะชัดไปไหน ทำร้ายกันมากครับ แต่มุมมองไม่กว้างเท่าไหร่นัก จะ Selfie เป็นหมู่คณะมากๆ คนก็อาจยากหน่อย

กล้องหน้ามีโหมดถ่ายรูปสองโหมดเท่านั้นคือ Auto และ Beauty ซึ่งในส่วนของโหมด Beauty นั้นถูกพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนๆ หน่อยตรงที่สามารถปรับได้ว่าจะเอาความสวยกี่เปอร์เซ็นต์ อั่ยย่ะ ซึ่งก็ดีครับเพราะบางคนอาจไม่ได้อยากฟรุ้งฟริ้งเกินไปก็ได้

IQ X pro ยังมีแอพฟรุ้งฟริ้งอีกแอพหนึ่งที่ทาง i-mobile นำเสนอนั่นคือ i-view ซึ่งแอพนี้จะมีโหมดให้ถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าเยอะขึ้นอีกหน่อย ทั้งยังแต่งรูปได้ด้วยครับ ที่เด็ดก็คือบอกอายุด้วยนี่ล่ะ เอาความจริงมาเผยแพร่ได้ไงเนี่ย (โกหกเห็นๆ)

และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าครับ -_-‘ ชัดไปนะ

4.การเล่นเกมส์

IQ X Pro มีสเปคที่แรงพอตัว หน้าจอชัดเหลือเฟือ เลยทดสอบเล่นเกมส์กับ Modern Combat 5 และ Line Cookie Run ก็พบว่าเล่นได้ดีไม่มีปัญหาครับ (แต่ไปปิดการจำกัด CPU ใน Setting แล้วนะ)

สรุป
ข้อดี
– ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม บาง เบา
– หน้าจอ Super Amoled สีสันสดใสมาก
– ตัวเครื่องทำงานได้รวดเร็วดี
– กล้องหน้ากล้องหลังใช้งานได้ดี เกือบทุกสถานการณ์ ให้ความละเอียดมาสูงกว่าค่ายอื่นหมด

ข้อเสีย
– แอบร้อนง่ายนิดนึง
– แบตน้อยไปหน่อย
– Gesture ใช้งานยากมาก