รีวิว กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue™ 792 รุ่นท็อป สเปคเทพ ฟีเจอร์จัดเต็ม อัดแน่นด้านความปลอดภัย !!!

Mio MiVue™ 792 เป็นกล้องกล้องติดรถยนต์ที่มาพร้อมความครบเครื่องที่สุดของวงการ ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากจะใส่สเปคทางด้าน Hardware มาแบบจัดเต็ม ทั้ง WiFi, GPS และเซ็นเซอร์  STARVIS™ CMOS sensor ตัวล่าสุดจากค่ายโซนี่ที่มาพร้อมจุดเด่ในการบันทึกวีดีโอได้ดีในที่แสงน้อย ส่วนทางด้านฟีเจอร์ต้องบอกว่าเยอะมาก ๆ ถ้าจะให้เขียนแบบละเอียดแล้วคงหลายตอน วันนี้จึงขอเขียนแบบสรุปสั้น ๆ และพาไปทดสอบคุณภาพวีดีโอที่ได้จากกล้อง Mio MiVue™ 792 ในแบบฉบับลองใช้งานจริง ทั้งในสภาพแสงปรกติ ในที่แสงน้อย และตอนกลางคืน ซึ่ง Mio MiVue™ 792 จะทำผลงานได้เป็นอย่างไรบ้าง ขอเชิญติดตามรับชมกันได้เลยครับ

SPECIFICATIONS

Display
Display size 2.7″
Video
Recording resolution Full HD 1920 x 1080p at 60 fps
Video sensor IMX 291 STARVIS™
3-axis G-sensor
Aperture F1.8
Recording format .MOV (H.264)
Lens viewing angle 140°
Audio recording
Photo mode
Night mode
Rear camera Optional
Auto power on
Lane departure warning
Safety Camera Warning
Fatigue Alert
Manual
Automatic
Motion sensor
Hardware
WiFi
GPS receiver

Memory microSD, up to 128 GB
Operating temperature -10° to +60° C
Operating humidity 5% – 85%
Height(mm) 48.8 mm
Width(mm) 90.2 mm
Depth(mm) 37.05 mm
Weight(gr) 112 g

ราคา 8,900 บาท

 

ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ

กล้องติดรถยนต์ Mio แบบมี WiFi ในตัวมาพร้อมฟีเจอร์เก็บสำรอง (Backup) ไฟล์วิดีโอแบบอัตโนมัติ ดังนี้

1. เก็บสำรองไฟล์วิดีโอแบบเรียลไทม์: ตัวกล้องจะทำการบันทึกเหตุการณ์และเก็บสำรองไฟล์โดยอัตโนมัติ สามารถเข้าดูคลิปวิดีโอต่างๆ ได้ทันทีอย่างง่ายดาย

2. บันทึกวิดีโอต่อเนื่อง: ตัวกล้องจะทำการบันทึกวิดีโออย่างต่อเนื่อง แม้ในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังเชื่อมต่อผ่าน WiFi กับโทรศัพท์มือถือ

3. สามารถตัดแบ่งไฟล์วิดีโอได้: เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ผู้ใช้สามารถตัดแบ่งคลิปวิดีโอ ณ เวลาที่เกิดเหตุได้ความยาว 20 วินาที (โดยตัวกล้องถูกตั้งค่าไว้ให้บันทึก 5 วินาทีก่อนเกิดเหตุและ 15 วินาทีหลังเวลาที่เกิดเหตุ) ทำให้ได้ไฟล์ขนาดเล็กที่เป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุจริงๆ

4. สามารถดาวน์โหลดต่อจากที่ดาวน์โหลดค้างไว้ได้ (Download Resume): ใช้งานง่ายสุดๆ ด้วยการกดคลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอต่อทันทีจากที่ดาวน์โหลดค้างไว้

5. ไม่รบกวนสายเรียกเข้า: ผู้ใช้ยังคงสามารถรับสายที่โทรเข้ามาได้ แม้ในขณะที่ทำการเก็บสำรองไฟล์วิดีโอลงในมือถือ

6. รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง: รองรับการเก็บสำรองข้อมูลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

 

ในส่วนของแพกเกจจิ้ง มาในโทนสีส้มตัดดำอันเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ โดยด้านหน้าแปะฟีเจอร์เด่น ๆ ที่เป็นจุดขายของ Mio MiVue™ 792 มาอย่างครบถ้วน เช่น STARVIS™ CMOS sensor จากค่ายโซนี่ที่มีความสว่างกว่าสายตาปรกติของมนุษย์ถึง 4 เท่า และโดนเด่นด้านการเชื่อมต่อ ชที่มีทั้ง Wifi และ GPS ในตัว ทำให้รองรับรับฟีเจอร์และการทำงานที่มีความหลากหลายกว่ากล้องติดรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาด ด้านคุณภาพไฟล์วีดีโอ Mio MiVue™ 792 รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p ที่ 60 fps ส่วนด้านหลังจะมีบอกฟีเจอร์ไฮไลท์หลักไว้อย่างครบถ้วน

 

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะประกอบไปด้วย

  1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
  2. Car Charger ที่ชาร์จในรถยนต์ (หัวคอนเนคเตอร์ชนิด Mini USB)
  3. mounting bracket ตัวยึดจับกล้อง

สำหรับตัวยึดจับกล้องเวอร์ชั่นที่ขายในไทยจะให้มาเป็นแบบกาว 3M ไม่ได้เป็นแบบยางตัวดูดสูญญากาศ ส่วนหนึ่งคือบ้านเราเป็นเมืองร้อนหากใช้แบบยางอาจจะไม่ทน วันดีคืนดีก็อาจหลุดออกมาได้นั่นเอง

 

บอดีหลักของตัวกล้องเลือกใช้วัสดุจากโพลีคาร์บอเนตเกรดคุณภาพสูง ในด้านงานประกอบนั้นเรียบร้อยแข็งแรงสมราคาค่าตัวครับ ด้านหน้าจะเป็นที่อยู่ของเลนส์กล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ STARVIS™ จากค่ายโซนี่ มีมุมกว้าง 140 องศา โดดเด่นด้วยค่ารูรับแสงกว้าง F/1.8 ซึ่งช่วยให้การบันทึกวีดีโอในที่แสงน้อยได้ดี

 

ไมค์โครโฟนจะอยู่ที่ด้านซ้ายมือของจอแสดงผล ส่วนไฟ LED แจ้งเตือนสถานะการทำงานจะอยู่ที่มุมขวาบน สำหรับ Mio MiVue™ 792 มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 2.7 นิ้ว ให้ภาพสว่างสดใสคมชัด แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่จอทัชสกรีน ส่วนปุ่มสีส้มที่เห็นนั้นคือปุ่ม Event หรือจะบอกว่าเป็นปุ่มบันทึกฉุกเฉินก็ย่อมได้ เมื่อกดปุ่มนี้ จะเป็นการบันทึกเหตุการณ์เฉพาะหน้า  ประโยชน์ของโหมดนี้ คือจะแยกการบันทึกจากโหมดปรกติออกมาต่างหาก เป็นการตัดแบ่งไฟล์วิดีโอเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ผู้ใช้สามารถตัดแบ่งคลิปวิดีโอ ณ เวลาที่เกิดเหตุได้ความยาว 20 วินาที (โดยตัวกล้องถูกตั้งค่าไว้ให้บันทึก 5 วินาทีก่อนเกิดเหตุและ 15 วินาทีหลังเวลาที่เกิดเหตุ) ทำให้ได้ไฟล์ขนาดเล็กที่เป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุจริง ๆ

 

ด้านหน้าฝั่งซ้ายจะเป็นลำโพงและมีไฟ LED ของ Car Mode อยู่ตรงกลาง

 

ปุ่มพาวเวอร์เปิด/ปิดการทำงานของตัวกล้องจะอยู่ที่ฝั่งขวามือ

 

ปุ่มคอนโทรลการทำงานต่างๆ จะอยู่ฝั่งซ้ายครับ โดยปุ่มบนสุด จะเป็นปุ่มสำหรับการเข้าเมนู และย้อนกลับออกจากเมนู ถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Enter เพื่อยืนยันการตั้งค่า และสองปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่มเลื่อนเมนู(ขึ้น/ลง)

 

ด้านบนของตัวกล้อง จะเป็นที่อยู่ของพอร์ตชาร์จ โดยตัวพอร์ตการเชื่อมต่อจะเป็นแบบ Mini USB ส่วนรูเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านข้างคือรูที่ใช้สำหรับการรีเซ็ตตัวกล้องนั่นเอง

 

Mio MiVue™ 792 รองรับหน่วยความจำชนิด Micro SD Card และรองรับความจุได้สูงสุดที่ 128GB แนะนำให้ใช้การ์ด Class 10 เพื่อให้เการบันทึกมีความสมูทลื่นไหล

 

 

หน้าตาของ User Interface หรือเมนูกล้องเริ่มต้นจะเป็นลักษณะตามภาพตัวอย่าง โดยด้านบนมีการแสดงสถานะการบันทึก การเชื่อมต่อไวไฟ เวลา และ GPS

ส่วนด้านข้างจะเป็นเมนูหลักของตัวกล้อง

 

เมนูหลักจะแสดงเป็นลิสต์รายการ ซึ่งมีทั้งหมด 3 หน้า เป็นเป็นการตั้งค่าต่าง ๆ เช่นการบันทึก การตั้งค่าไวไฟ GPS ระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัย ฯลฯ

การตั้งค่าของตัวกล้องมีความละเอียดและครอบคลุมหลายฟีเจอร์ ถ้าจะเขียนก็คงยาวมาก ๆ เอาเป็นว่าขอรวบรัดตัดตอนละกัน เมื่อเทียบกับกล้องติดรถยนต์แบรนด์จีนทั่วไปในท้องตลาด Mio MiVue™ 792 จะมีฟีเจอร์ที่เยอะกว่า ทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อ Wifi กับสมาร์ทโฟน การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยแบบจัดเต็มทุกรายละเอียด เช่นขับเร็ว ขับจ่อชิดคันหน้าจนเกินไป ขับออกนอกเลนหลัก แจ้งเตือนให้เปิดไฟเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางคืน แจ้งเตือนกล้องตรวจจับความเร็ว ฯลฯ  เรียกว่าจัดเต็มมาก ๆ ลองฟังคลิปบรรยายฟีเจอร์จากวันเปิดตัวได้ที่นี่ครับ  ฟีเจอร์ Mio MiVue™ 792

 

 

รับชมคลิปแกะกล่องฉบับวีดีโอ

 

 

รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS

แอปฯ MiVue Pro มีให้ใช้งานทั้งบน iOS และ Android ส่วนฟีเจอร์ในภาพรวม สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนเป็น Live View ดูการบันทึกแบบสดผ่านทางสมาร์ทโฟน และสามารถแบ็คอัพดาวน์โหลดไฟล์วีดีโอมาเก็บไว้ที่สมาร์ทโฟน

 

สามารถแชร์ไปยังโซเชี่ยลมีเดียได้อย่างสะดวกง่ายดาย

 

ทดสอบการบันทึกวีดีโอจากกล้อง Mio MiVue™ 792

 

  1. กลางแจ้ง
  2. ช่วงเย็นแสงน้อยและฝนตก
  3. กลางคืน

นอกจากนี้ Mio MiVue™ 792 ยังสามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งได้อีกด้วย

ตัวอย่างภาพนิ่งความละเอียด 2 ล้านพิกเซลจากตัวกล้อง Mio MiVue™ 792

 

สรุป  Mio MiVue™ 792

เป็นกล้องติดรถยนต์ที่มาพร้อมสเปคทางด้าน Hardware แบบจัดเต็ม ทั้งเซ็นเซอร์ตัวล่าสุดจากค่ายโซนี่ ที่มีความโดดเด่นในการบันทึกวีดีโอในที่แสงน้อย รวมถึง GPS ที่ช่วยให้การแทรกกิ้งเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์เทพ ๆ ที่หาไม่ได้ในแบรนด์โนเนมราคาถูกทั่ว ๆ ไป เช่นการแจ้งเตือนกล้องตรวจจับความเร็ว ซึ่งสามารถแจ้งเตือนก่อนถึงระยะตรวจจับที่ 200 เมตร หากเราขับรถมาด้วยความเร็วสูง ก็จะแจ้งเตือนก่อน 300 เมตร มีระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยที่ครบเครื่องมาก ๆ ทั้งเรื่องความเร็ว ระยะห่างของรถคันหน้า การขับออกนอกเลน ฯลฯ และมี Parking Mode ที่ช่วยบันทึกวีดีโอในขณะจอดรถ (ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม) ทำให้หมดปัญหาเรื่องจอดรถอยู่ดี ๆ แล้วรถโดนชนโดยหาคู่กรณีไม่ได้ ซึ่ง Parking Mode บน Mio MiVue™ 792 สามารถตรวจจับได้ทั้งการเคลื่อนไหว เช่นมีคนเดินผ่านหน้ารถ หรือมีรถวิ่งมาชนรถของเรา ตัวกล้องจะทำการบันทึกวีดีโอให้โดยอัตโนมัติ ตรงนี้เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริงครับ

ส่วนในด้านของการเชื่อมต่อก็โดนเด่นไม่แพ้กัน ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อผ่านทาง Wifi ซึ่งเราสามารถที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนโดยตรง เพื่อดูภาพแบบ Live View หรือจะสำรองวีดีโอมายังสมาร์ทโฟนและแชร์ต่อไปยังโซเชี่ยลก็ทำได้อย่างสะดวกคล่องตัว แถมยังสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ในอนาคตได้ง่าย ๆ อีกด้วย เอาเป็นว่า Mio MiVue™ 792 เป็นกล้องติดรถยนต์ที่ครบเครื่องที่สุดของชั่วโมงนี้ มาพร้อมสเปคเทพ และฟีเจอร์อัดแน่น โดดเด่นด้านความปลอดภัยแบบที่หาไม่ได้ในคู่แข่งที่ทำตลาดในบ้านเราอยู่ ณ ขณะนี้

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ



ถูกใจบทความนี้  4