รีวิว Nokia 1 รุ่นแรก Android Go พร้อมใช้

พอเจ้า Nokia 1 จะวางแผง ผมก็เฝ้ารอ เพราะว่าเจ้า Nokia 1 เป็นรุ่นเล็กราคาเบาที่เป็น Android Go และอยากสัมผัสว่าเจ้า Android Go จะตอบโจทย์เหมือนที่ Google และ Nokia โม้เอาไว้หรือเปล่า ก็เอามาทดสอบใช้งานกันดูสักสัปดาห์กว่าๆ งานนี้มาเล่าพร้อมรีวิวสู่กันฟังก็แล้วกันครับ สำหรับใครที่ยังชื่นชอบในแบรนด์ Nokia ที่เพิ่งกลับมาไม่นานโดย HMD Global ซึ่งมีเครื่องรุ่นใหม่ออกมาตลอดปีเช่นเดียวกันแบรนด์อื่นๆ

สำหรับ Android Go เรียกได้ว่าเป็น Android  พร้อมใช้งาน นับว่าเป็นการย้อนกลับไปในช่วง Android เกิดใหม่ๆ ก็ว่าได้ ที่ยังใช้ขนาดพื้นที่ไม่มาก รวมถึงตัวแอปที่ใช้งานด้วย แต่บน Android Go สลักสำคัญก็คือแอปของ Google เอง ที่ลดขนาดลงเป็นเวอร์ชั่น Go พร้อมใช้งาน อีกนิดนึงคือ Android Go นี่เบสเวอร์ชั่นมาจาก Android Oreo 8.0 Go Edition นะครับ เรียกย่อๆ ว่า Android Go นั่นเอง

มาดูสเปคเล็กๆ ของเจ้า Nokia 1 กันหน่อย

● จอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด FWVGA
● ซีพียู MT6737M Quad Core 1.1 GHz
● แรม 1GB LPDDR3
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 8GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card สูงสุดที่ 128GB
● กล้องหลัง 5MP LED
● กล้องหน้า 2 MP
● รองรับ 3G/4G ทุกคลื่นความถี่ในไทย SIM Dual Nano SIM
● การเชื่อมต่อ 802.11 b/g/n, Bluetooth® 4.2, GPS/AGPS + เซลลูลาร์และตำแหน่ง Wi-Fi
● แบตเตอรี่ความจุ 2150mAh
● ขนาดตัวเครื่อง 133.6 x 67.78 x 9.5 มม.
● น้ำหนัก 131 กรัม
● ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) Go Edition
● เซนเซอร์  เซนเซอร์Proximity, เซนเซอร์ตรวจจับแสงล้อมรอบ, Gเซนเซอร์
● กันน้ำ IP52
● ราคาวางจำหน่าย 2,740 บาท

เสร็จแล้วก็มาดูเรื่องดีไซน์กันนะ

อุปกรณ์ในกล่องมีมาครบ แม้กระทั่งหูฟัง ที่สมัยนี้รุ่นเล็กๆ เค้ามักจะไม่แถมมาให้แล้ว แต่ Nokia 1 ยังมีให้นับว่าใจจริงๆ


ตัวดีไซน์ของเครื่องเป็นลักษณะโค้งมน รับกับมือพอดี ด้วยเครื่องที่มีหน้าจอขนาดเล็ก เพียง 4.5 นิ้ว ซึ่งเอาจริงๆ เทรนด์หน้าจอตอนนี้คือ 5 นิ้ว แต่ 4.5 ก็ถือว่าเล็กสุดแล้ว ข้อดีก็คงเป็นเรื่องการประหยัดพลังงานนั่นล่ะครับ ส่วนการแสดงผลก็มองเห็นชัดเจนดี


ลองดูที่ด้านหลัง กันบ้าง ลำโพงอยู่ด้านล่าง เสียงดังฟังชัด ซึ่งตัวเครื่องขนาดเล็กแบบนี้ สเปคก็เล็กตามไปด้วย จากสเปคด้านบน คือแค่พอใช้งาน ไม่เหมาะที่จะเอาไปเล่นเกมหนัก แต่เล่นพวกแคชชวลเกม หรือเกมแอคชั่นเบาๆ ก็ไหวอยู่นะ เอาจริงสมัยนี้เครื่อง RAM 1GB นี่หาแทบไม่ได้แล้ว แต่ Nokia 1 นี่ทำได้ และแถมใช้งานลื่นอีกต่างหาก


กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชในตัว เอาจริงๆ คือก็พอใช้งานได้ ถ้าแสงน้อยนี่ก็ต้องทำใจกันหน่อย


ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง

ด้านล่างยังคงเป็นช่องเสียบสายชาร์จที่เป็น micro USB


ด้านข้างทั้งสองด้าน มีปุ่มกดตามสไตล์ Android ซึ่งการแคปเจอร์หน้าจอ ใช้ปุ่ม power+volume down นะครับ


ถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตได้ ซึ่งเทรนด์ในยุคนี้มีน้อยเสียเหลือเกิน Nokia 1 ก็ค่อนข้างอึด ถึก ทนอยู่ระดับนึง ยังกันน้ำกันฝุ่น IP52 ด้วยนะ รองรับการใช้งาน 2 ซิม ซิมแรกรองรบั 4G แต่อีกซิมนึงจะเป็น 2G

สำหรับเรื่องดีไซน์ ส่วนตัวคิดว่าก็ดูแปลกตาดี ไม่ได้เป็นเหลี่ยมเหมือนพี่น้องที่ออกมาในช่วงนี้ แต่มีลัษณะโค้งมนดูดี แต่จากภาพฝาด้านหลังคือ อาจจะเยินไปนิด เนื่องจากใส่กับกระเป๋ากางเกงที่มีอีกเครื่องติดอยู่ คาดว่าคงถูกันในกางเกง ไม่ได้ระวัง เลยออกมาเป็นรอยขูดชัด แต่นั่นก็ก็บอกได้ว่า ฝาหลังถึงแม้จะมีรอยก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถเปลี่ยนได้ ไม่เหมือนกับเครื่องในปัจจุบันส่วนใหญ่ที่ถอดฝาหลังไม่ได้ แค่เปลี่ยนฝาหลังก็เปลี่ยนสี และทำให้เครื่องดูใหม่ขึ้นได้ทันตา ถ้า Nokia เน้นเรื่องสีสันสักหน่อย ก็อาจจะมีฝาออกมาให้เปลี่ยนสีกันให้สนุกก็ได้นะ

หลังจากนั้นก็เรื่องซอฟท์แวร์กันเลย

สำหรับ UI จะมาในรูปแบบ Pure Android พร้อมกับบริการจาก Google เต็มสูบ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าตัวเครื่องมี RAM 1GB แต่ใช้งานได้ลื่นไหลมาก สมกับการเกิดมาพร้อมกับ Android Go จริงๆ  อีกส่วนนึงก็คือพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลที่ยังเหลือให้ใช้งานอีกจำนวนนึง ก็ต้องบอกว่าหาเมมโมรี่การ์ดมาใส่เพิ่มจะดีกว่า การใช้งานอีกส่วนนึงคือหากเราใส่สองซิม ซิมที่สองจะรองรับแค่ 2G เท่านั้นนะครับ

ส่วนของแอปที่เป็น Go เวอร์ชั่นติดมากับเครื่องก็คือเป็นบริการของ Google ทั้งหมด ซึ่งดูจากขนาดแล้ว เล็กกว่าปกติ แต่ถ้าดูเวอร์ชั่นทั่วไป อาทิเช่น Chrome จะมีขนาดหลายสิบเมก แต่ถ้าเป็น Go เวอร์ชั่นจะมีจำนวนพื้นที่แค่หลักหน่วยเท่านั้น

อย่างเช่น แอป Focus Go ที่หาดาวโหลดได้บน Google Play Store ก็กินพื้นที่แค่ 4.88 MB เท่านั้นเอง


แอปอย่าง File Go ที่ติดเครื่องมาด้วย ก็ใช้งานได้อย่างรวดเร็วแถมยังมีฟีเจอร์ส่งไฟล์ข้ามเครื่องไปยังเครื่องอื่นได้ด้วย คือต้องบอกว่าแอปที่รองรับ Go เวอร์ชั่นก็ยังสามารถใช้งานได้ดี และมีฟีเจอร์พร้อมใช้ เป็นแอปที่มีขนาดเล็กและเบาเหมาะกับการใช้งานร่วมกับ Android Go

แต่ส่วนที่น่าจะต้องรอหน่อยก็คือ เรื่องของแอปที่ยังหาใน Google Play Store ไม่เจอ หรือไม่ก็ต้องทำหมวดออกมาให้ชัดเจน เพราะ ณ ปัจจุบัน ยังมีแอปให้โหลดน้อยมาก สำหรับ Go เวอร์ชั่น แต่อนาคตคงจะมีรองรับมากกว่านี้


ส่วนการทัชที่หน้าจอรองรับมัลติทัช 5 นิ้ว ก็ถือว่าใช้ได้เลย สำหรับเครื่องในราคาสองพันกว่าบาท ปกติราคานี้อาจจะเห็นมัลติทัช 2 นิ้วเสียด้วยซ้ำ ด้านการใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหาใดๆ การเล่นเกม ไม่แนะนำ เนื่องจากสเปคตัวเครื่องเอง ที่ค่อนข้างต่ำ เล่นเกมพวกแคชชวล หรือเกมที่ใช้กราฟิคไม่หนัก ใช้ฆ่าเวลาก็พอไหว แต่ถ้าจะเล่นแอคชั่นหรือที่ใช้กราฟิคเยอะๆ นอกจากพื้นที่ไม่พอแล้ว เล่นยังไม่สนุกเนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องการเรนเดอร์ภาพอีกด้วย เพราะขนาดใช้ Antutu ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องยังรันตัว 3D ทดสอบไม่ไหวเลยครับ

เรื่องกล้องถ่ายรูปก็สำคัญ

 


เรื่องของกล้อง ก็มีฟีเจอร์มาให้พอสมควร ต้องบอกเลยว่าหากเป็นภาพในที่แสงน้อยถ่ายได้ออกมาไม่ดี เนื่องจากทั้งสเปคกล้องและตัวเครื่องนั่นเอง แต่ฟีเจอร์เค้าก็ให้มาไม่น้อยนะ อย่างน้อยก็มีโหมดหน้าเนียน พาโนราม่า และตั้งค่าเองได้

ซึ่งกล้องด้านหน้าก็เช่นเดียวกัน สามารถปรับแบบแมนวลได้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย (ย่ออย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม)

เซ็ททั่วๆ ไป แสงสว่างเพียงพอ

ภาพแสงสว่างน้อยหรือกลางคืน

 

ภาพจากกล้องด้านหน้า พร้อมโหมดหน้าเนียน

สำหรับการถ่ายภาพผมว่าอันนี้คือยากสำหรับผมเลย เพราะมือผมwไม่นิ่งซึ่งภาพหากแสงน้อยจะค่อนข้างมีปัญหาเหมือนกันครับ และระยะโฟกัสที่ค่อนข้างฟิกซ์ไปหน่อย ถ้าจะเอามาใช้งานจริงจังต้องรู้ใจกันพอสมควรเลยล่ะ

 

สรุปทิ้งท้ายกับการใช้งาน Nokia 1 Android Go

บอกเลยว่าเจ้า Nokia 1 มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีเอกลัษณ์ของ Nokia ในเจนเนอเรขั่นใหม่ วัสดุอะไรนี่ยังรักษามาตรฐานได้ดี แข็งแรง ถอดฝาหลังได้ เปลี่ยนแบตได้เอง คาดว่าคงอึดไม่แพ้รุ่นพี่ๆ ที่ทำชื่อเสียงเอาไว้ก่อนหน้านี้ ใช้งานกันไปยาวๆ เหมาะกับเป็นเครื่องที่ใช้งานโทรศัพท์และเล่นเน็ตเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องลงแอปเยอะ เพราะสเปคแบบนี้ถ้ามาพร้อมกับ Android ปกติล่ะก็ รับรองว่าแป๊ปเดียวเครื่องจะหนืด แต่นี่ใช้านได้ลื่นไหลได้อย่างที่เค้าคุยไว้นะ UI ก็เพียวตามสไตล์ของ Nokia เรียกว่าตอบโจทย์ คนที่เปิดกล่องมาไม่ต้องอะไรมากพร้อมใช้งานทันที และแบตเตอรี่ก็อึดสมกับความเบาของตัวเครื่องใช้งานกันยาวๆ 1 นึงไม่หมด ส่วนฝาหลังเปลี่ยนได้ก็เป็นอีกจุดดีนึง ที่อาจจะเบื่อสีฝาหลังแล้วก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ (ถ้าเขามีออกมาขายเพิ่ม) ล่ะนะ

แต่มีจุดดี ก็มีจุดด้อยเช่นกัน เรื่องกล้อง อย่าคาดหวังมากนัก มีฟีเจอร์พอใช้งาน แต่คุณภาพในที่มีแสงเพียงพอ ก็พอไหว แต่ถ้าแสงน้อยล่ะก็ลำบากเลย ต้องมือนิ่งมากเลย กับเรื่องยองแอปที่ตอนนี้แอปที่รองรับ Go เวอร์ชั่นยังมีน้อย หรือแทบไม่มีเลย ซึ่งใน Google Play Store ควรจะมีหมวด Go Edtion แยกต่างหาก เพราะการค้นหาก็ไม่เจอเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าเป็นช่วงแรกในการทำตลาดคงต้องรอสักพัก คงจะมีให้ใช้งานกันมากขึ้น เพราะถ้าลงแอปตามปกติก็จะไปเจอข้อจำกัดสเปคเครื่องด้านพื้นที่และ RAM ที่มีให้น้อยตามราคาที่จ่าย 2,740 บาท นั่นเอง

ขอบคุณ Nokia Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ



ถูกใจบทความนี้  26