รีวิว OnePlus 6 สุดยอดนักฆ่าเรือธงที่เค้าว่ากัน

เค้าว่ากันว่าเจ้า OnePlus 6 นี่คือนักฆ่าเรือธงในตำนาน คือมันแจ่มและลื่นขนาดนั้นเลย ผมก็ไม่รู้หรอก แต่ก็ค่ายนี้แบรนด์นี้ เค้าออกมาปีละรุ่น รู้แค่ว่าซื้อมาไม่มีตกรุ่นแน่นอน ในระยะเวลา 1 ปี ล่ะนะ งานนี้จับมือกับ AIS เปิดตัวกันไปเรียบร้อย ดังเปรี้ยงปร้าง เพราะไม่คาดฝันว่าจะเปิดตัวมากับโอเปอเรตเตอร์รายใหญ่ หลังจากที่มีข่าวลือมานานว่าจะเข้าไทยอย่างเป็นทางการ ไหนๆ ก็ได้โอกาสจับเครื่องแล้ว เอามาลองเล่นและบอกความรู้สึกกันหน่อยละกันนะ

ก่อนอื่นขอเอาสเปคจาก AIS มาแปะไว้หน่อยละกันครับ


รุ่นที่ได้มาทดสอบคือ เป็นรุ่น 64GB RAM 6GB ราคาอยู่ที่ 17,999 บาท ถ้าต้องการราคาดีกว่านี้ก็ต้องสมัครพร้อมแพ็กเกจกันไป รายละเอียดเพิ่มเติมไปดูกันได้ที่เว็บ ais นะ

มาดูรูปร่างหน้าตาเปิดกล่องกันก่อน

อุปกรณ์ที่มีในกล่องก็มีให้ครบนะครับ แถมติดฟิล์มที่หน้าจอมาให้เรียบร้อย มีเคสให้ พร้อมใช้งาน


ส่วนตัวอะแตปเตอร์คือรองรับการชาร์จแบบเร็ว กับแบตเตอรี่ 3300 mAh ใช้งานได้แบบว่าประทับใจ

ตัวเครื่องด้านหน้า มีรอยบากตามสมัยนิยม ซึ่งจริงๆ พอใช้งานแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าใช้งานลำบากแต่อย่างใด เพราะด้านบนคือบาร์การแสดงโนติต่างๆนั่นเอง หน้าจอขนาด 6.28 นิ้วที่ต้องบอกว่าใหญ่ใช้ได้เลย แต่กลับจับถนัดมือ ปกติเครื่องส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5.99 นิ้ว แต่มาเจอ OnePlus 6 นี่ไปซะ 6 นิ้วกว่า สมกับชื่อรุ่นจริงๆ กว้างกว่า OnePlus 5T ซะอีก แถมการแสดงผลก็สวยสดงดงามอีกต่างหาก โดยตัวเครื่องสเปคคงไม่ต้องพูดถึง เพราะว่าจัดเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็น CPU ที่ Snapdragon 845 ที่น่าสนใจก็คือ RAM ขนาด 6GB ที่มีส่วนช่วยให้การใช้งานลื่นไหลมาก ส่วนพื้นที่ก็แล้วแต่เลือกตามราคา อยากได้มากก็จ่ายมาก ใช้งานกันไปยาวๆ และแน่นอนว่าตัวเครื่องใส่เมมโมรี่เพิ่มเติมไม่ได้นะ


ด้านหน้ามีกล้องมาให้ 16 ล้านพิกเซลจัดเต็ม พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีสแกนใบหน้าสำหรับเข้าใช้งานตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งรุ่นก่อนหน้าเค้าก็ทำได้ดีอยู่แล้ว


สีเป็นสีดำกระจก ถ่ายภาพตัวเครื่องยากเหมือนกันแฮะ ตัวเครื่องคือสวยงาม สมกับที่เค้าออกมาปีละรุ่นจริงๆ อาจจะมีเรื่องของรอยนิ้วมือ ซึ่งอาจจะเลอะง่าย แต่ก็เช็ดออกได้ง่ายเช่นกัน

กล้องด้านหลังเป็นกล้องคู่ 16+20 ล้านพิกเซล การใช้งานคือต้องบอกว่าชัตเตอร์อย่างไวเลย ภาพก็ค่อยมาดูตัวอย่างกัน และยังมีสแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้ตัวกล้อง ใช้งานอันล็อคได้ไวเช่นกัน

ด้านข้างจะมีแค่ถาดใส่ซิม เป็นนาโนซิม 2 ช่องเลย รองรับการใช้งานทุกค่าย และไม่สามารถใส่ micro SD เพิ่มได้ ดังนั้นตามที่บอกไว้เบื้องต้นแล้วว่า หากต้องการใช้งานพื้นที่จำนวนมากก็เลือกรุ่นขนาดพื้นที่ 128GB หรือ 256GB ก่อนตัดสินใจซื้อนะ ไม่งั้นคือซื้อมาแล้วใช้ไม่พอต้องหาทางใช้ cloud เข้าช่วย

อีกด้านนึงจะมีปุ่มสวิทช์เลื่อนสำหรับปรับโหมดเป็น silent หรือโหมดเงียบ ก็เป็นอีกหนึ่งการใช้งานนึงที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะของ OnePlus เลยล่ะ


ที่ด้านล่างยังคงมีช่องเสียบหูฟังให้มานะ เรือธงบางรุ่นตัดทิ้งไปแล้ว คือมันก็ลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะปัจจุบันเรายังใช้หูฟังแบบมีสายกันอยู่เลย จะให้เอาตัวแปลงมาต่อมันก็ไม่สะดวกเท่ากับของเดิมๆ

ด้านบนที่ออกแบบมาเรียบๆ มีเพียงไมค์ที่อยู่ตรงจุดนี้


ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าส่วนของกล้องด้านหลังยื่นออกมา อาจจะทำให้เป็นรอยได้นะ ซึ่งในกล่องมีเคสมาให้ ยังไงซะส่วนใหญ่เราคงใช้แบบใส่เคสอยู่แล้ว


ดังนั้นเจ้าเคสที่แถมมาให้ในกล่องนี่ล่ะ คีเลย


พอใส่เคสปุ๊ปพอดีเลย กันกระแทกได้ดีระดับนึงซะด้วย  ถึงแม้ว่าความสวยงามจะหายไปบ้างก็ตามที

เรื่องของซอฟท์แวร์ในเครื่อง


Oxygen OS เรียกว่าออกแบบมาให้ชาว OnePlus ใช้งานโดยเฉพาะมีเอกลักษณ์ของตัวเองในระดับนึง ฟีเจอร์ก็จะคล้ายๆ กับแบรนด์อื่นๆ นั่นล่ะครับ แต่เรื่อง ROM นี่ได้ชื่อว่าระดับเทพไม่แพ้ใครแน่นอน ลื่นปรี๊ด

ด้านตัวเลขที่เอาไว้ใช้สำหรับบลั๊ฟกัน ผมว่าก็สมกับที่เค้าชอบเรียกกันว่านักฆ่าเรือธง คือทั้งที่ใช้งานไปแล้ว แต่ก็ยังทำการทดสอบออกมาได้ดี ปกติจะต่ำกว่าค่าทดสอบมาตรฐานไปเยอะเล แต่นี่แบบว่าติดอันดับต้นๆ ของ Antutu เลยทีเดียว แจ่มจริง และการใช้งานก็รู้สึกได้เลยว่าเร็วลื่น ได้อย่างใจตลอด ไม่ขัดใจสักครั้งเดียว

พวกฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีอยู่ครบตามสไตล์ OnePlus การกดปุ่มค้าง หรือการใช้เจสเชอร์เมื่อปิดหน้าจอ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่

OnePlus 6 เมื่อมีรอยบาก ก็ต้องปิดได้ เหมือนกับบางแบรนด์ อันนี้ก็เป็นอีกไอเดียนึงที่นิยมทำกัน เพราะว่าเอาจริงๆไม่มีใครชอบรอยบากหรอก แต่เมื่อมีมาให้แล้วมีฟีเจอร์ซ่อน หลอกตาก็โอเคน่ะ

โหมดกล้องต่างๆ ก็มีให้เลือกเล่นเพียบ มีโหมดโปรที่ปรับได้เยอะพอดู ส่วนโหมดวีดีโอก็บันทึกวีดีโอแบบ 4K จัดเต็มที่ 60FPS ได้ด้วยล่ะ

โหมดโบเก้ หรือในที่นี้คือโหมดแนวตั้ง คือหลังเบลอนี่ก็จัดมาให้ใช้งานง่าย และไม่ลืมโหมดหน้าสวยตามเทรนด์มาตรฐาน และตัวกล้องเองก็สามารถซูมแบบออฟติคอลได้ 2 เท่าอีกด้วย

มาดูภาพถ่ายกันต่อ

เรื่องการถ่ายภาพก็เหมือนเคย ไม่ได้เป็นคนเล่นกล้อง อยากถ่ายก็ถ่าย ตามอารมณ์ไปเรื่อย ก็มาดูตัวอย่างของคนที่ใช้เจ้า OnePlus 6 ถ่ายเรื่อยเปื่อยหน่อยก็แล้วกัน


ภาพอาหารก็น่ากินนะ

ลองถ่ายแบบซุม 2X ดูมั่ง

ภาพถ่ายทั่วๆ ไป

ซูมได้แบบนี้เลย

ภาพถ่ายดอกไม้ และโหมดแนวตั้ง

ภาพกล้องด้านหน้า ทั้งโหมดหน้าสวยและไม่สวย และโหมดแนวตั้งที่กล้องด้านหน้าก็ทำได้นะ

เรื่องเล่นกม

เรื่องเล่นเกมนี่หายห่วง ไม่ว่าจะ ROV, PUBG, Fortnite ครบๆ สวย ลื่น มันส์แน่นอน เฟรมเรทไม่ตกชัวร์ เครื่องก็ร้อนบ้างนิดหน่อยไม่มาก แบตก็สูบไม่มากเท่าไหร่ อย่างที่บอกว่า OxygenOS เค้าทำออกมาได้ดี

สรุปทิ้งท้ายกับเจ้า OnePlus 6

สำหรับใครที่เป็นแฟน OnePlus ผมว่าเจ้ารุ่นที่ 6 นี่ตอบโจทย์ดีแท้เลยครับ สเปคแรง ผมว่ามันลงตัวตรงที่ทั้งสเปค และ Oxygen OS ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว เสถียร ลื่นไหล ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ข้อเสียเช่นไม่มีช่องใส่ micro SD ก็ลืมๆ มันไป เพราะ 64GB ก็คงพอใช้งานอยู่เหมือนกัน อันนี้ก็แล้วแต่คนแต่เชื่อว่าส่วนใหญ๋ใช้พอ ตัวเครื่อง ดีไซน์ และความสวยงามผมว่าก็ให้คะแนนเต็มยังไหวเลย การทำงาน การเล่นเกม มัลติมีเดียลงตัวหมด กล้องก็ชัตเตอร์ไวดี กล้องคู่ที่มีฟีเจอร์เบลอด้านหลัง ผมว่ามันยังไม่เนียนเท่าไหร่ แต่ก็โอเคนะ เท่าที่ดูจากภาพแล้วก็ฟินดี กับฟีเจอร์ที่ผมมองว่ามีเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องเยอะมาก ถ่ายวีดีโอแบบ 4K 60FPS จัดเต็มได้ มีโหมดสโลโมชั่นให้ใช้ด้วย ที่เหลือผมว่าถ้าจัดในราคาของโปรโมชั่นร่วมกับโอเปอเรเตอร์ได้ก็ยิ่งดี หมื่นกลางๆ สเปคและการใช้งานระดับนี้คุ้มอยู่ครับ

     ขอบคุณ OnePlus Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ



ถูกใจบทความนี้  50