OPPO Mirror 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่เข้ามาทำตลาด Mid-range หรือตลาดระดับกลางตัวล่าสุดของทางค่าย OPPO สำหรับจุดเด่นที่ชูออกมาเป็นจุดขาย ก็คือเรื่องของดีไซน์และวัสดุงานประกอบ อีกทั้งสเปคโดยรวมก็ถือว่ายอมรับได้กับราคาเปิดตัวที่ไม่เกิน 8,000 บาท มารับชมกันครับ ว่า OPPO Mirror 5 นั้นมีความน่าสนใจตรงไหนกันบ้าง
ขอขอบคุณ OPPO Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ
สเปคเบื้องต้นแบบย่อ ๆ ของ OPPO Mirror 5
~ OS : เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) ครอบทับด้วย ColorOS V2.1.0i
~ ชิปเซ็ต : CPU Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 (Quad-core) ความเร็ว 1.2GHz
~ หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : GPU Adreno 306
~ ROM 16GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 128GB
~ RAM 2GB
~ จอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด qHD 540 x 960 พิกเซล
~ การเชื่อมต่อ 2G : GSM 800/900/1800/1900MHz
~ การเชื่อมต่อ 3G : WCDMA 850/900/1800/2100MHz
~ การเชื่อมต่อ 4G LTE: LTE Bands: 1/3/5/7/8/20/TD-40
~ รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด
~ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n , Bluetooth V. 4.0 , GPS/A-GPS/Glonass/ IR remote
~ กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง, รูรับแสง F/2.2
~ กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
~ ขนาดตัวเครื่อง 143.4 x 71.2 x 7.65 มิลลิเมตร
~ น้ำหนัก 160 กรัม
~ แบตเตอรี่ Li-polymer ความจุ 2420mAh
สเปคโดยละเอียดสามารถดูได้จาก Official page OPPO Mirror 5 Specification
ราคาวางจำหน่าย 7,900 บาท
OPPO Mirror 5 ในด้านดีไซน์งานออกแบบจะมีจุดเด่นตรงที่ การออกแบบภายในของตัวเฟรมจะเป็นโครงสร้างที่เสริมด้วยวัสดุกึ่งโลหะสองชั้น ช่วยให้ตัวเครื่อง OPPO Mirror 5 มีความแข็งแกร่งและทนทานเป็นพิเศษ สำหรับวัสดุหลักจะเป็นโพลีคาร์บอเนต + วัสดุโลหะ และในส่วนของขอบตัวเครื่อง จะเป็นขอบโลหะสองชั้นมีเส้นตัดด้วยวัสดุอลูมิเนี่ยมแวววาวอีกหนึ่งเส้น ตรงนี้ช่วยเสริมความเด่นและสวยงามได้อย่างลงตัวเลยครับ
และ จุดขายหลักอีกอย่างของ OPPO Mirror 5 ก็คือการออกแบบฝาหลัง ด้วยพื้นผิวคล้ายคริสตัล พร้อมลวดลายเหลี่ยมเพชร แต่มองตรง ๆ อาจจะไม่เห็นเท่าไหร่ครับ เมื่อขยับเครื่องในแง่มุมต่าง ๆ จึงจะเห็นการสะท้อนของตัว Texture ลายเหลี่ยมเพชร ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์และสร้างความโดดเด่นให้กับ OPPO Mirror 5 ได้เป็นอย่างมาก
พื้นผิวคริสตัล และลวดลายเหลี่ยมเพชร (รูปตัวอย่างจากเว็บ OPPO)
OPPO Mirror 5 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ใช้พาเนล IPS แต่ให้ความละเอียดมาน้อยไปหน่อย เพียง qHD 540 x 960 พิกเซล
ด้าน บนของส่วนหน้าจะประกอบไปด้วย กล้องหน้าความละเอียด 5 ด้านพิกเซล, ลำโพง earpiece และชุดเซ็นเซอร์์ ส่วนไฟแจ้งเตือน LED Notification จะมีขนาดเล็กและอยู่ที่มุมขวาสุดครับ
ด้าน ล่างของส่วนหน้า ปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive Button ตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ ประกอบไปด้วย ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ แต่ทั้งสามปุ่มนี้ไม่มีไฟแบคไลท์มาให้ใช้งานนะครับ
ด้าน บน มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ Infrared port สามารถใช้งานร่วมกับ Smart Remote เพื่อเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายอุปกรณ์เลยครับ
ด้านล่างจะมีพอร์ตไมโครยูเอสบี ซิงค์และชาร์จไฟ ข้าง ๆ ก็คือไมค์สนทนาของตัวเครื่อง
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง จะมีปุ่ม เพิ่ม-ลดระดับเสียง
ด้านขวามือของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power เปิด – ปิดเครื่อง
ในส่วนของฝาหลังก็ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับ มีความโดดเด่นด้วยพื้นผิวคล้ายคริสตัล พร้อมลวดลายเหลี่ยมเพชร
ตัวกล้องหลักด้านหลัง มาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จัดวางตำแหน่งอยู่มุมซ้ายบน และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง
ส่วนลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักจะจัดวางตำแหน่งอยู่มุมซ้ายของด้านล่าง
OPPO Mirror 5 สามารถถอดฝาหลังได้ครับ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เองนะครับ ตรงนี้เป็น แบตแบบ Built in ครับ
ช่อง ซิม 1 อยู่มุมซ้าย ใช้ไมโครซิม ส่วนช่องซิม 2 จะอยู่ตรงกลาง ใช้นาโนซิม ส่วนช่องไมโครเอสดีจะอยู่ที่มุมขวามือ รองรับความจุได้สูงสุดถึง 128GB
ดูกันต่อในส่วนของ Software อีกนิดหน่อยครับ
OPPO Mirror 5 มาพร้อมกับ Android 5.1.1 (Lollipop) และครอบทับด้วย user interface ” ColorOS v2.0.1i ” สำหรับพื้นที่ของ ROM 16GB จะเหลือให้ใช้งานจริงราว ๆ 8GB
ColorOS เป็นจุดขายของค่าย OPPO มานาน มีใช้งานในสมาร์ทโฟนของทางค่าย จึงมีรีวิวออกมาเยอะมาก ผมไม่ขอลงรายละเอียดในเชิงลึก มาดูเฉพาะส่วนที่น่าสนใจเป็นบางส่วนไปก็แล้วกันนะครับ
OPPO Mirror 5 มี Infrared port มาให้ใช้งาน จึงสามารถใช้งานร่วมกับ Smart Remote เพื่อเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้ง Set Top Box , เครื่องเล่นดีวีดี, ทีวี, เครื่องปรับอากาศ และโปรเจคเตอร์
ฟีเจอร์ เด่นสุดและเป็นจุดขายก็คือ Gesture & Motion แต่รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจาก Device ของทางค่าย OPPO ครับ อย่างเช่นการวาดหน้าจอเพื่อเรียกใช้งานแอพ, การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อ wake on, wake off หรือ Smart call ที่จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เป็นต้นครับ
Securit Center เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัยและการใช้งานของเรา ทั้งลบไฟล์ขยะ เคลียร์แรม ควบคุมปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ต บล็อคเบอร์ที่ไม่พึงประสงค์ การประหยัดพลังงานเป็นต้น เรียกว่าเป็นแอพ Manager ที่รวมการจัดการสิ่งสำคัญ ๆ ไว้ในตัวแอพครับ
Hardware Test & Performance
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง OPPO Mirror 5
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 25416 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 13377 คะแนน
ผลทดสอบจาก PCMark ได้คะแนน 3492 ส่วน
3DMark ได้คะแนนที่ 56 (Bug software)
Geekbench 3 ทำคะแนนในส่วนของ Single Core ที่ 480 และ Multi Core ได้ 1450
FXBench GL Benchmark ได้คะแนน Best Score 393
ผลทดสอบความเร็ว ด้วย Velamo (Metal) ได้ 1005 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Multicore) ได้ 1232 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo Browser ได้ 1914 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Chrome Browser) ได้ 2036 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 59.4 เฟรม/วินาที
ภาครับสัญญาณของ GPS ทำได้รวดเร็วดีครับ ทดสอบการจับสัญญาณโดยที่ไม่เชื่อมต่อ Data ทั้งในอาคารและนอกสถานที่ก็ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ได้สูงสุด 5 จุด
เซ็นเซอร์หลักบน OPPO Mirror 5 เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ตรวจสอบก็จะมีดังนี้
Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Sound Sensor
Magnetic Sensor
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของ Sample Camera ครับ
OPPO Mirror 5 มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
โหมดการใช้งานรวมไปถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ผมไม่ขอเขียนในเชิงลึกนะครับ สามารถอ่านได้จากบทความเก่า ๆ ของผมครับ Android Review: ทดสอบคุณภาพรูปถ่ายจากกล้อง OPPO R5 !!!
Normal & HDR Mode
Normal Mode
HDR Mode
Normal Mode
HDR Mode
Normal Mode
HDR Mode
โหมด Ultra-HD 25 ล้านพิกเซล
ทดสอบด้วยโหมด Normal ในสภาพแสงน้อยและปิดแฟลช
ทดสอบด้วยโหมด Normal ในสภาพแสงน้อยแบบเปิดแฟลช
โหมด Color ful Night
แบรนด์นี้ขึ้นชื่อในเรื่องกล้องหน้าอยู่แล้ว ทั้งคุณภาพจากกล้องหน้าเพียว ๆ หรือจะผ่าน Beauty Mode ก็ให้คุณภาพที่น่าพอใจครับ
มาสรุปกันในส่วนของกล้องจาก OPPO Mirror 5 กันนะครับ
OPPO Mirror 5 ให้คุณภาพที่น่าประทับใจครับ ทั้งการเก็บรายละเอียด สีสัน ความคม ส่วนที่จะติก็คือ การโฟกัสในที่แสงน้อย และการถ่ายในระยะใกล้ ๆ การโฟกัสมักจะวืดวาด
สรุป คุณภาพโดยรวมไม่เสียชื่อของ OPPO ครับ คุณภาพจากกล้องนั้นหวังพึงพาได้ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
สรุป OPPO Mirror 5
ข้อดี
1. ดีไซน์โดดเด่นสวยงามด้วยฝาหลังประกายเพชร และโครงสร้างโลหะ 2 ชั้นช่วยเสริมความแข็งแกร่ง
2. รองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่ในบ้านเรา รวมไปถึง 4G LTE และสามารถสลับใช้งานได้ทั้ง 2 ซิม
3. มี Infrared port สามารถใช้งานเพื่อเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายอุปกรณ์
4. คุณภาพกล้องหลังและกล้องหน้าทำได้ดีตามมาตรฐานของทางค่าย
สิ่งที่ต้องพิจารณา
1. ความละเอียดหน้าจอเพียง qHD ซึ่งจริง ๆควรจะเริ่มที่ HD สำหรับราคาที่เปิดตัวมา
2. แบตเตอรี่ยังอึดเท่าไหร่ ใช้งานหนัก ๆ ไม่รอดวัน
ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว OPPO Mirror 5 แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ pdamobiz.com
ถูกใจบทความนี้ 1
