Samsung Gear Fit 2 ออกมาจนได้ หลังจากหายหน้าหายตาไปเกือบสองปีกับ Samsung Gear Fit ซึ่งก่อนหน้านี้รุ่นแรกได้ออกมานานมากแล้วล่ะ จนในที่สุดในปี 2016 ทาง Samsung ก็ได้คลอด ซึ่งจะมีอะไรที่ถูกปรับปรุงพัฒนาและน่าใช้งานมั้ยต้องลองมาดูกัน
Samsung Gear Fit 2 Specs:
– หน้าจอ Super Amoled แบบโค้งขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 216 x 432
– มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 4GB (เอาไว้ใส่เพลงฟังเวลาไปวิ่งไง)
– CPU Dual Core 1.2GHz
– Ram 512MB
– Sensor: GPS, HR, Accelerometer, Gyro, Barometer
– แบตเตอรี่ขนาด 200mAh
– ใช้ได้กับ Android 4.4 ที่มี Ram 1.5GB ขึ้นไป
– ราคา 6,500 บาท
เริ่มต้นก็มาดูตัวเครื่อง Samsung Gear Fit 2 กันก่อน รอบนี้หน้าตาก็ละม้ายคล้ายของเดิมอยู่บ้างคือหน้าจอยังโค้งเข้ากับข้อมืออยู่ แต่หน้าจอสีสันสวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้านหลังตัวเครื่องจะมีที่ชาร์จไฟประกบอยู่กับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเจ้าเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจบน Gear Fit 2 เนี่ยเค้าจับวัดอัตโนมัติเพื่อดูค่าในแต่ละวันเองด้วยนะ เจ๋งอ่ะ
สายตัวเครื่องถูกปรับปรุงให้มีรูเสียบเข้าไปเนื่องจากรุ่นแรกสายแอบหลุดง่ายกว่าที่คิด ฉะนั้นปัญหาดังกล่าวจะหมดไป
ด้านขวาของหน้าจอจะมีปุ่มอยู่สองปุ่มประกอบด้วย ปุ่มบนเป็นปุ่ม Back และปุ่มล่างคือ Home
สายตัวเครื่องยังคงสามารถถอดเปลี่ยนได้เช่นเคย แต่รอบนี้ถอดเป็นชิ้นๆ แบบนี้เลย จะเอาสายมาผสมกับสองสีก็ได้นะ
ส่วนข้อของสายที่ใช้เป็นแบบนี้
ถ้าพร้อมแล้วก็จับ Gear Fit 2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านทางแอพ Samsung Gear ได้เลย
แต่ก่อนจะดูว่าทำอะไรได้บ้างมาดูที่ชาร์จกันก่อน ที่ชาร์จก็ถูกพัฒนาขึ้นเช่นกันโดยกลายเป็นใช้แบบแม่เหล็กแทนตัวเดิมซึ่งใช้แบบอัตโนมือ คือแบบนี้ดีกว่าเยอะ วางใกล้ๆ ละดูดจบปิ๊ง
ต่อไปลองมาดูกันว่าเจ้า Gear Fit 2 เนี่ยมันทำอะไรได้บ้าง
Notification: การแจ้งเตือนบน Gear Fit 2 ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด คือกระทั่ง Line ยังสามารถอ่านได้ ภาษาไทยก็อ่านได้หมด ตรงนี้ดีงาม แต่ถ้าจะตอบบนนี้ล่ะก็ไม่ได้นะ เพราะมันไม่มีฟังก์ชั่นสั่งพิมพ์ด้วยเสียง
ความสามารถเดิมยังอยู่ การแทร็คก้าวเดินของเราในแต่ละวันซึ่ง Gear Fit 2 เนี่ยแม่นยำขึ้นเยอะคือเดิม Gear Fit ตัวแรกแค่นั่งรถผมก็เดินได้เป็นพันก้าวละ แต่บนตัวนี้ไม่ใช่ครับ ถ้าไม่เดินจริงๆ มันไม่นับเลย ส่วนเรื่องจับเวลาวิ่งก็ยังคงทำได้เช่นกัน (แต่ไม่มีเวลาไปวิ่งอะ)
Heart Rate: เรื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ บน Gear Fit 2 ทำได้ดีมากคือตัวเครื่องจะทำการวัดอัตราการเต้นของหัวใจในแต่ละวันและเก็บสถิติเอาไว้ด้วยนะ ไม่ต้องมานั่งกดเอง ซึ่งแตกต่างจากตัวแรกที่หากเราจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจจะต้องมานั่งกดเองละบังคับแขนให้อยู่นิ่งๆ
Watch Faces: หน้าปัดนาฬิกายังคงเปลี่ยนได้เช่นเคย มีแบบให้เลือกหลากหลายเลยล่ะ หรือถ้ายังไม่ถูกใจก็เข้าไปโหลดเพิ่มใน Galaxy Apps ได้
Font: หน้าจอตัวเครื่องสามารถเปลี่ยนแบบตัวอักษร (Font) ได้ด้วยนะ
Music to gear: อีกหนึ่งข้อดีสำหรับชาวนั่งวิ่งหรือขาออกกำลังกายคือสามารถยัดเพลงลง Gear Fit 2 ได้ ทำให้เราไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนไปวิ่งอีกต่อไป ซึ่งวิธีการก็ง่ายๆ เลือกเพลงจากในตัวเครื่องของเราแล้วโยนใส่ซะ แต่ถ้าจะฟังเพลงก็ไปหา Bluetooth Headset มาด้วยล่ะ
Fint My Phone: ฟีเจอร์นี้ก็ดีนะ สำหรับใครที่ขี้ลืมว่าวางมือถือไว้ไหน มันจะทำการค้นหาและให้ตัวสมาร์ทโฟนส่งเสียงร้องดังเหมืมอนเวลามีสายเข้าเลย
สำหรับฟีเจอร์หลักๆ ที่น่าสนใจและได้ใช้งานจริงของ Samsung Gear Fit 2 ก็มีราวๆ นี้ครับ สุดท้ายเรื่องแบตเตอรี่จากที่ทดสอบใช้งานมาดูพบว่าอยู่ได้ราว 3-4 วัน (แต่ไม่ได้ออกไปวิ่งนะ คือดูนาฬิกาปกติ Noti เข้าบ้างเรื่อยๆ ไม่รัวจัด) ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกับรุ่นแรก ซึ่งถือว่าทำได้ค่อนข้างดีอยู่ ส่วนเรื่องวิ่งเดี๋ยวรอให้พี่กิจ Happyman เป็นคนรีวิวให้นะครับ ปิดท้ายการรีวิวด้วยภาพเปรียบเทียบตัวเครื่องรุ่นแรกและรุ่นสองละกัน
ถูกใจบทความนี้ 2
You must be logged in to post a comment.