ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว Modicon M580 ePAC รุ่นใหม่มาพร้อมอีเธอร์เน็ตในตัว

M580

  กรุงเทพฯ – 26 พฤษภาคม 2559: ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ควบคุมระบบอัตโนมัติใหม่รุ่นประสิทธิภาพสูง Modicon M580 ePAC (Ethernet Programmable Automation Controller) ซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพคอนโทรลเลอร์ในตระกูล Modicon โดยมีฟังก์ชั่น Hot Standby (HSBY) หรือฟังก์ชั่นระบบสำรองฉุกเฉินในกรณีคอนโทรลเลอร์ตัวหลักเกิดปัญหา ระบบสำรองสามารถทำงานแทนได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งมีอีเธอร์เน็ตและระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ (Cyber Security) ฝังอยู่ในตัว นับเป็นคอนโทรลเลอร์ตัวแรกที่สร้างมาเพื่อรองรับการใช้งานการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) สำหรับภาคอุตสาหกรรม หรือ IIOT (Industrial Internet of Things) ที่นำมาใช้งานกับ PlantStruxure ระบบออโตเมชั่นแบบสมบูรณาการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค  ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด   

 

มร.โจส โบโนโม รองประธานฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรม ส่วนงานบริหารในการนำเสนอระบบไฮบริดของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำเสนอ Modicon M580 ePAC ใหม่ซึ่งเป็นนวัตกรรมหลักในระบบออโตเมชั่น ความ สามารถ ด้านฟังก์ชั่นการทำงานที่ล้ำหน้า ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ที่แท้จริงจากโซลูชั่นแห่งอนาคต ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายที่กดดันมากที่สุดสำหรับอุตสาหกรรม”

 

M580

ผลิตภัณฑ์ M580 ePAC ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยตอบโจทย์ตลาดในการยกระดับ และเพิ่มความสามารถทั้งเรื่องการเสริมระบบระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ (Cyber Security)  ผ่าน Achilles™ Level 2 และ มีใบรับรองจาก ISA เป็นโซลูชันที่ให้การทำงานที่เรียบง่ายและมีระบบการลงเวลาอยู่ในตัว เป็นสถาปัตยกรรมที่ต่อขยายเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนแปลงระหว่างที่มีการทำงานอยู่ และยังให้ความสามารถใหม่ในการเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารแบบใหม่ๆ ได้

 

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอ Modicon M580 ePAC ให้กับลูกค้าที่ต้องการโซลูชันที่พร้อมรองรับการทำงานได้ตลอดเวลา ในราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับแอพพลิเคชันในกระบวนการควบคุมระดับกลางไปจนถึงระดับสูง มี hot standby CPUs หรือเมื่อ CPU ใช้งานไม่ได้ จะมีการสลับไปยังตัวที่ใช้งานได้ รวมไปถึงเรื่องการจ่ายไฟสำรองด้วย นอกจากคุณสมบัติที่ให้การทำงานคู่ขนานแล้ว Modicon M580 ePAC ยังมีความสามารถในการเปลี่ยนการตั้งค่าการทำงานผ่านทางออนไลน์หได้โดยไม่ต้องหยุดกระบวนการทำงานหรือเรียกว่าฟังก์ชั่น CCOTF (Change Configuration on the Fly) นอกจากนี้รุ่นที่มาพร้อมกับพอร์ต CANopen จึงช่วยผสานเชื่อมต่อการทำงานร่วมกัน CANopen fieldbus ได้อย่างรื่นไหลไม่สะดุด

 

M580 ePAC รุ่นใหม่มาพร้อมกับ traceability ความสามารถทำการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ หรือโปรแกรมได้ มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ขึ้นและการประมวลผลเร็วมากขึ้นกว่ารุ่นทั่วไป และความสามารถด้านระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ (Cyber Security) ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม รวมถึงทำ time stamping สำหรับตัวแปรทั้งหมดในแอพพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์กระบวนการทำงานที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น

 

M580 ePAC ใหม่นี้ ช่วยยกระดับการทำงานของแพลตฟอร์มเดิมที่ใช้งานอยู่อย่าง Quantum และ Premium อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องทำการปรับเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ที http://www.schneider-electric.com/products/ww/en/3900-pac-plc-other-controllers/3950-pacs/62098-modicon-m580-epac/

 



ถูกใจบทความนี้  0