ดีแทค แอคเซลเลอเรท ประกาศวิสัยทัศน์ร่วมลงนามเอ็มโอยู สานพลังประชารัฐ พัฒนาระบบนิเวศและส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย

Startup sign MOU สานพลังประชารัฐ7

  10 กุมภาพันธ์ 2559 – ดีแทค แอคเซลเลอเรท (dtac Accelerate)โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ จากบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค โดยนายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและ ดีแทค แอคเซลเลอเรท ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกลุ่มภาคี ในการสนับสนุนและพัฒนาระบบนิเวศ (Eco-System) ให้กับผู้ประกอบการใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (IDE Start-up)โดยได้รับเกียรติจาก        ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนาม ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วย  ว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานร่วมภาครัฐ คณะทำงานด้านการส่งเสริม SMEs Start-ups & Social Enterprises และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานร่วมภาคเอกชนคณะทำงานด้านการส่งเสริม SMEs Start-ups & Social Enterprises ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม ระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 60 องค์กร 

Startup sign MOU สานพลังประชารัฐ7


 นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและ ดีแทค แอคเซลเลอเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า “ภาครัฐและภาคเอกชน ต่างก็พยายามช่วยกันผลักดันในการสร้างระบบ Ecosystem ของสตาร์ทอัพไทย เพื่อสร้างโอกาส สร้าง Business Model หาแหล่งเงินทุน และเร่งรัดการเติบโตของ Startup เพื่อนำธุรกิจสตาร์ทอัพก้าวไกลสู่สากล ปัจจุบันสตาร์ทอัพไทยหลายๆบริษัทต้องไปจดทะเบียนบริษัทที่ต่างประเทศอย่างสิงคโปร์หรือมาเลเซียกันมาก ซึ่งทางภาครัฐเองสามารถเข้ามาช่วยสตาร์ทอัพไทยในส่วนนี้ได้ในแง่กรอบของนโยบายรวมถึงกรอบของกฏหมายที่จะเอื้อให้แก่ สตาร์ทอัพไทยสามารถแข่งขันกับสตาร์ทอัพ ประเทศเพื่อนบ้านได้ ตัวอย่างเช่น นโยบายทางด้าน Capital gains tax ของสตาร์ทอัพ ถ้าเกิดการ Exit หรือการขายบริษัทได้ควรจะคำนึงถึงประโยชน์ให้กับสตาร์ทอัพไทยมากกว่านี้  หรือในแง่ของนักลงทุนต่างชาติเองที่น่าจะสามารถปรับให้สามารถถือหุ้นเกิน 49% ได้ รวมทั้งเปิดช่องกฏหมายให้สตาร์ทอัพไทยมี ESOP (Employee Stock Option) ให้กับพนักงานได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันเรื่องเหล่านี้พอเป็นสตาร์ทอัพ ที่จดทะเบียนในไทยจะไม่มีช่องให้กับสตาร์ทอัพได้ทำธุรกิจไปต่อได้เท่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ มาเลเซียหรือรวมทั้งเวียดนามที่มีการปรับนโยบายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้กันไปแล้ว

 

ซึ่งในวันนี้ ดีแทค แอคเซลเลอเรท มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาสนับสนุนและร่วมมือกับภาครัฐเพื่อส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยให้มีการขยายตัวและเติบโตได้ทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยได้จัดโครงการดีแทค แอคเซลเลอเรท อย่างต่อเนื่องทุกปีมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว เราเป็นโครงการที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากสตาร์ทอัพ เนื่องจากโครงการมีจุดแข็งในหลักสูตรการเรียนการสอนสตาร์ทอัพระดับโลกจากซิลิคอน วัลเล่ย์ พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนในรูปแบบเงินร่วมลงทุนในช่วงเริ่มต้น (seed fund) และสนับสนุนในด้านพันธมิตรเชิงกลุยทธ์ (Strategic Alliance) เพื่อให้เข้าถึงฐานลูกค้าของดีแทค และ เทเลนอร์ กว่า 200 ล้านคนทั้ง 13 ประเทศทั่วโลกและส่งเสริมชุมชนสตาร์ทอัพไทยด้วยการจัดตั้ง HANGAR Co-Working Space, ซึ่งถือเป็น No.1 Community of Innovation เพื่อให้เป็นสถานที่ทำงานพบปะสังสรรค์ของสตาร์ทอัพไทย ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงาน ประชุมและกิจกรรมต่างๆของนักพัฒนาโปรแกรม (developer) ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นประจำที่ HANGAR ในปีนี้ทางโครงการดีแทค แอคเซลเลอเรท กำลังจะเริ่มรับสมัครสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการปีที่4 หรือ bath#4 ในเดือนมีนาคมนี้”



ถูกใจบทความนี้  1