โมไบค์ เตรียมให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะในกรุงเทพฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ขยายเส้นทางจักรยานเพื่อส่งเสริมการการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ – 2 พฤศจิกายน 2560 – โมไบค์ ผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะรายแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเริ่มต้นการปฏิบัติงานในกรุงเทพฯ ด้วยการให้บริการที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยจับมือกับแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

 

 

 

โมไบค์นำเสนอจักรยานอัจฉริยะหลายร้อยคันทั่วพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อรองรับนิสิตมากกว่า 60,000 คนให้เป็นทางเลือกการเดินทางในระยะใกล้ได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุข ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพียบพร้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและเป็นมิตรแก่จักรยาน ที่จะให้โมไบค์สามารถดำเนินโครงการและเก็บรวบรวมข้อมูลสำคัญจากผู้ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นและดีกว่าอย่างแท้จริงสำหรับการขยายตลาดผู้ใช้โมไบค์ที่จะแผ่ขยายมากขึ้นต่อไปในอนาคตในประเทศไทยโดยร่วมมือกับพันธมิตรในไทยของเรา

ก่อนการเปิดตัวการให้บริการในวันนี้ โมไบค์ได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ โมไบค์ไทยแลนด์ กับพันธมิตรทั้งสอง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เพื่อดำเนินการให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะในกรุงเทพฯ โดยความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทั้งสามฝ่ายในครั้งนี้จะเสริมสร้างคุณค่าและประโยชน์ที่สูงยิ่งให้แก่กรุงเทพมหานครของเรา


คำบรรยายภาพ: (จากซ้ายไปขวา) ผศ. รัชด ชมภูนิช รักษาการแทนรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาเชิงยุทธิ์ศาสตร์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มาร์ก ลิน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติงานระหว่างประเทศของโมไบค์, นาย ฮัน เค็ง ลี ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่น กลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส, อาย กมลเนตร นักแสดงหญิง และเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเก้า จิรายุ นักแสดงชายชั้นนำ

มาร์ก ลิน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติงานระหว่างประเทศของโมไบค์ กล่าวว่า

“โมไบค์มีความมุ่งมั่นขยายการบริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะในตลาดเมืองไทย และกรุงเทพฯ คือเมืองในอุดมคติสำหรับการเริ่มต้นโครงการ บริการจักรยานสาธารณะยังเป็นสิ่งใหม่ในประเทศไทยและด้วยสภาพเศรษฐกิจที่มีความสดใส ประเทศไทยจึงมีศักยภาพที่จะเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด โมไบค์ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมนี้มีทั้งประสบการณ์ในการบริการและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ รวมถึงจีพีเอส (GPS) และเทคโนโลยี IoT เพื่อบริหารจัดการการขยายตลาดใหม่ที่มีความซับซ้อนและสร้างความเชื่อมั่นว่าการให้บริการจะดำเนินไปอย่างราบรื่น การดำเนินงานของโมไบค์ มุ่งเน้นไปที่การรับผิดชอบต่อความยั่งยืน และนวัตกรรมในฐานะพันธมิตรกับชุมชนที่เราร่วมงานด้วย”

โมไบค์นำเสนอรถจักรยานรุ่นคลาสสิกไว้ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จักรยานอัจฉริยะผนวกรวมกับดีไซน์นวัตกรรมใหม่เข้ากับฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่โมไบค์ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ทั้งระบบการขับเคลื่อนไร้โซ่ ยางไร้ลมที่ไม่มีวันแบน เฟรมอลูมิเนียมกันสนิมน้ำหนักเบา ดิสก์เบรกที่มีประสิทธิภาพและทนทาน รวมถึงดีไซน์ล้อแบบห้าแฉกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากล้อรถยนต์


คำบรรยายภาพ: ร่วมเปิดกล่องของขวัญ Mobike ณ ประเทศไทย

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า

“ผมขอขอบคุณบริษัทโมไบค์ และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) สำหรับโครงการนำร่องให้นิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กว่า 60,000 คน ได้มีโอกาสใช้จักรยานสาธารณะอัจฉริยะกับ Mobike First Ride in KU ครั้งแรกของไทย โดยมหาวิทยาลัยได้ปรับภูมิทัศน์และขยายเส้นทางเลนจักรยาน ตลอดจนติดตั้งเครื่องหมายจราจร นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการสัญจร มีจุดให้บริการจักรยานสาธารณะ 26 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ของอาคารเรียน หอพัก ห้องสมุด โรงอาหาร ฯลฯ โดยคาดหวังว่า จักรยานสาธารณะอัจฉริยะของโครงการ Mobike in KU จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้จักรยานให้มากขึ้น และสร้างการปรับเปลี่ยนวิถีการเดินทางของคนในสังคมเมือง นอกจากนี้เรายังพยายามสร้างระเบียบวินัยให้กับผู้ใช้จักรยาน โดยการจอดจักรยานให้เป็นที่ ไม่เกะกะกีดขวางการจราจร หรือทางเดินเท้า การใช้งานจักรยานร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เราจะสนับสนุนให้ผู้ใช้รถจักรยานปั่นด้วยความปลอดภัย และจอดจักรยานในสถานที่ที่เหมาะสม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับ Mobike ที่ KU ”

ด้วยนวัตกรรมเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย ของ AIS ที่เป็นตัวกลางทำให้การเชื่อมต่อระหว่างจักรยานอัจฉริยะกับผู้ใช้มีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ความสะดวก ปลอดภัย และเสถียรภาพการใช้งาน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับของการจัดการระบบ Bike Sharing ไปอีกขั้น และเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ เอไอเอส และโมไบค์ อีกทั้งยังเป็นประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้

นาย ฮัน เค็ง ลี ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่น กลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า

“ความร่วมมือระหว่างเอไอเอสกับโมไบค์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ในการผลักดันประเทศไทยให้เข้าสู่ Smart City อย่างแท้จริง ด้วยการใช้ศักยภาพเน็ตเวิร์กดิจิทัล ร่วมกับสมาร์ทโฟน และเทคโนโลยี IoT มาแก้ปัญหาการเดินทางในเมืองใหญ่ ซึ่งเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Ecosystem) ในประเทศไทย ให้มีความก้าวหน้าทัดเทียมประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเอไอเอสเตรียมนำเครือข่ายอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ด้วยอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ NB-IoT (Narrow Band Internet of Things) มาเป็นตัวกลางเชื่อมต่อ Mobike ให้ทุกคนใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และพร้อมสำหรับการขยายการให้บริการของ Mobike ไปยังสถานที่อื่นๆ ทั่วประเทศในอนาคต”

โดยมีแขกพิเศษรับเชิญ อาย กมลเนตร นักแสดงหญิง และเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมทั้ง เก้า จิรายุ นักแสดงหนุ่มผู้มากซึ่งความสามารถ เข้าร่วมงานเปิดตัวการให้บริการดังกล่าว และได้ทดลองใช้งานจักรยานโมไบค์ ซึ่งทางผู้ปั่นได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายและความง่ายดายในการใช้งานจักรยานโมไบค์ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ด้วยการใช้แอพโมไบค์


คำบรรยายภาพ: นิสิตและผู้สนใจภายในงานกำลังร่วมปั่นจักรยานอัจฉริยะโมไบค์ครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 


คำบรรยายภาพ: นิสิตเกษตรศาสตร์ร่วมงานเปิดตัวจักรยานอัจฉริยะโมไบค์ครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ในการใช้บริการของโมไบค์ ผู้ใช้สามารถทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นโมไบค์และลงทะเบียนผ่านมือถือ พร้อมชำระเงินมัดจำครั้งเดียวจำนวน 99 บาทเพื่อเป็นค่าประกันความปลอดภัยให้แก่ตัวผู้ใช้และตัวจักรยาน ซึ่งสามารถถอนคืนได้ในภายหลัง ระหว่างช่วงทดลองโครงการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคม ผู้ใช้สามารถปั่นจักรยานดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการปั่น และหลังจากสิ้นสุดช่วงทดลองนี้ โมไบค์จะคิดค่าใช้จ่ายในราคาที่คุ้มค่าเพียง 10 บาทต่อการใช้งาน 30 นาที และผู้ใช้บริการโมไบค์สามารถติดตามข่าวสารสำหรับโปรโมชั่นใหม่ๆ จากการขยายสู่พื้นที่ต่างๆ ในปี 2561
###

 

จักรยานโมไบค์ทำงานอย่างไร
โมไบค์ คือการสร้างสรรค์จินตนาการและการนำเสนอจักรยานที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่มากมาย อาทิ ระบบการขับเคลื่อนไร้โซ่ ยางไร้ลมที่ไม่มีวันแบน เฟรมอลูมิเนียมกันสนิมน้ำหนักเบา ดิสก์เบรกที่มีประสิทธิภาพและทนทาน รวมถึงล้อแบบห้าแฉกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากล้อรถยนต์ การออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นจักรยานที่ไม่ต้องมีการบำรุงรักษา โดยมีเป้าหมายอายุการใช้งานแต่ละคันอยู่ที่ 4 ปีโดยไม่ต้องซ่อม จักรยานแต่ละคันเชื่อมต่อกับเครือข่ายโมไบค์ IoT ผ่านระบบจีพีเอสของล็อกอัจฉริยะในตัว จึงก่อให้เกิดเป็นเครือข่าย IoT ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

หากต้องการใช้บริการผู้ใช้เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันโมไบค์ ลงทะเบียน และสแกนคิวอาร์โค้ดบนตัวจักรยาน เทคโนโลยีล็อกอัจฉริยะกรรมสิทธิ์เฉพาะของโมไบค์ก็จะปลดล็อกจักรยานโดยอัตโนมัติให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทันที หลังจากเสร็จสิ้นการปั่น ผู้ใช้เพียงแค่จอดจักรยานไว้ในบริเวณพื้นที่จอดจักรยานสาธารณะที่ใกล้กับจุดหมายของผู้ใช้ที่สุดและล็อกจักรยานด้วยตนเอง แอปโมไบค์ พร้อมใช้งานในภาษาไทย และสามารถดาวน์โหลดในประเทศไทย ผ่านแอนดรอยด์สโตร์ และ แอพพลิเคชั่นแอปเปิ้ลสโตร์

เกี่ยวกับ โมไบค์
โมไบค์ คือบริษัทผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะรายแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก พันธกิจของโมไบค์คือการขยายทั้งจำนวนจักรยานและเมืองที่มีการใช้งานให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมเพื่อให้การปั่นจักรยานเป็นทางเลือกของการเดินทางที่มีความสะดวกสบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัย การใช้จักรยานที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ติดตั้งจีพีเอส และเทคโนโลยีล็อกกรรมสิทธิ์เฉพาะของโมไบค์นี้ ผู้ใช้สามารถใช้แอปสมาร์ทโฟนเพื่อค้นหาจักรยานที่อยู่ใกล้ตัวคุณที่สุด จับจอง และปลดล็อก ทุกขั้นตอนสามารถดำเนินการผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ บริษัทฯเปิดให้บริการจักรยานอัจฉริยะครั้งแรกนี้ ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 และภายในระยะเวลาปีกว่าได้ขยายการบริการไปยัง 180 เมืองทั่วโลก

ด้วยการส่งเสริมให้การปั่นจักรยานในเมืองเป็นที่ยอมรับและมีการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น ได้รับความนิยม และมีความทันสมัยที่สุด โมไบค์ได้มอบโซลูชันการเดินทางที่ยั่งยืนที่สุดสำหรับผู้คนและเมืองใหญ่ทั่วโลกเพื่อแก้ปัญหากิโลเมตรสุดท้าย ภายในกลางปี 2560 ผู้ใช้โมไบค์ปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมแล้วทั้งสิ้นกว่า 5.6 พันล้านกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ไปมากกว่า 1.26 ล้านตัน หรือลดปริมาณรถยนต์ 350,000 คันออกไปจากท้องถนนในหนึ่งปี ซึ่งเป็นการคำนวณการดำเนินงานในปีแรกของโมไบค์โดยกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประจำประเทศจีน ขณะที่ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 โมไบค์ได้รับรางวัลพิเศษผู้แก้ไขปัญหาสภาพอากาศด้วยรูปแบบการเดินทางในเมืองอย่างยั่งยืน (Climate Solver Sustainable Urban Mobility Special Award) ซึ่งเป็นการยกย่องประโยชน์ที่เกิดจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่นี้และการสนับสนุนการเดินทางขนส่งเพื่อความยั่งยืนของโมไบค์



ถูกใจบทความนี้  2