วันจันทร์ มันส์เดย์

มาชวนคุยเรื่อง พรีเซนเตอร์กันครับ จริงๆ มันมีทุกยุคทุกสมัย ที่แบรนด์ต่างๆ จ้าง บุคคลดังๆ หรือคนสำคัญที่รู้จักกันกว้างขวาง มาช่วยโฆษณาสินค้า หรือถึงขั้นจับมือกันเป็น Brand ambassador หรือตัวแทนของแบรนด์นั้นๆ แน่นอนว่ามีทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะในสมัยนี้ ไม่ใช่สิ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ที่มีโอเปอเรเตอร์ค่าย AIS ที่มักจะเป็นผู้นำหยิบเอา นักร้อง ดารา ที่ได้รับความนิยมเข้ามาเป็น พรีเซนเตอร์ มีทุกสมัยจนถึงเดี๋ยวนี้คือมาเป็นชุดเลย คือไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์ แต่อาจจะเรียกว่าเป็นตัวแทนของแบรนด์ก็ว่าได้

ในที่สุดข่าวลือก็เป็นจริง ขอพูดถึง Samsaung อีกสักที เพราะว่าเค้ามาแล้ว ดูจากทิศทางที่เริ่มเอาของดีมาใส่ตัวราคาหลักหมื่นเดียว ก็ถือว่าแจ่ม เริ่มต้นด้วย Galaxy A7 (2018) ที่มีกล้องหลังมาให้สามตัว จริงๆ มันก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะกล้องหลังสามตัว ก็มีแล้ว แต่ว่าราคาก็ยังพรีเมี่ยมอยู่ แต่งานนี้ Samsung หันมาเจาะตลาดราคาระดับกลางกันบ้าง แทนที่จะรอ Samsung Galaxy S10 ที่กำลังจะมาในปีหน้า แต่กลับกลายเป็นว่า รุ่นกลางนี่ล่ะที่ได้ก่อน และไม่เท่านั้น ยังมีกล้องด้านหลัง 4 ตัว ครั้งแรกในโลกกับรุ่น Galaxy A9 (2018) อีกด้ว

มาชวนคุยกับแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักดี และรู้จักดีที่สุดในแง่ของผู้นำตลาด Smartphone บนระบบ Android ที่ช่วงก่อนหน้านั้นกว่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำได้ก็เรียกว่า ลองผิดลองถูกมาพักใหญ่ แต่ที่รู้ๆ คือช่วงนั้นยังไม่มีแบรนด์จีนมาตีตลาดเหมือนทุกวันนี้ ดังนั้นการทดสอบตลาดไปพลาง ทำตลาดไปพลาง ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากนัก ขอให้ทำออกมาโดนตลาดสักอย่างนึงก็แจ่มแล้ว และแน่นอนว่า Samsung ทำได้ ทำดี และดีขึ้นเรื่อยๆ มีหลากหลายรุ่นให้กลุ่มผู้ใช้งานเลือกใช้งาน จนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ ไม่ใช่แค่ในโลก แต่ในไทยก็ด้วยเช่นกัน

นวัตกรรมล่าสุดที่ Apple ได้จับมาใส่ใน Apple Watch 4 ที่ผมเห็นว่าว้าวหน่อย ก็คงเป็นการแทรคเรื่องของอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นด้วยการใช้คลื่นไฟฟ้า หรือ ECG ซึ่งเอาจริงๆ Smartband ในจีนนี่ทำได้นานแล้ว หลักราคาพันอยู่ แต่ทว่าก็ไม่ได้มีการใช้งานกันในวงกว้าง และคงไม่ค่อยมีใครรู้จัก อย่างเช่น Amazfit Health ซึ่งมีแต่ภาษาจีนอย่างเดียว แต่ทว่า Apple Watch 4 นั้นรับรองว่าเป็นทางการ และมันมีประโยชน์กับผู้ใช้งานที่ต้องการวัดคลื่นหัวใจโดยตรง โดยผลของคลื่นหัวใจนี้สามารถเก็บไว้เพื่อนำไปใช้งานต่อได้ เมื่อเรานำไปให้แพทย์วินิจฉัยต่อ อีกสิ่งนึงที่ Apple หยิบยกขึ้นมาก็คือ มาตรฐาน FDA Certified

ขอพูดถึง iPhone กับเขาบ้างสักหน่อย รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกันไปเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ จริงๆ ไม่ได้ต่างจากเดิมมาก แค่เปลี่ยนชื่อเรียกตัวใหญ่รุ่น Plus กลายเป็น รุ่น Max ไป ขนาดเท่ากับรุ่น Plus เดิมแต่ได้ขนาดหน้าจอที่แสดงผลที่กว้างกว่าเดิม ตามเทรนด์ ซึ่งชาว Android เริ่มเทรนด์นี้ไปเป็นปีแล้วนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าติ่งนี่พี่ Apple เขาเป็นผู้นำนะ ทั้งหมดทั้งปวง ผมว่า iPhone XS ดูน่าใช้ครบเครื่องมากที่สุด ด้วยความใหม่และขนาดตัวเครื่องที่ใช้งานสะดวกมากกว่า แถมมีกล้องคู่อีกด้วย แต่ที่จะขายดีสุดๆ ก็คงเป็น iPhone XR

วันนี้มาสายดาร์ค นิดๆ คิดติดลบหน่อยๆ ก็เพราะว่า ไปเจอ ตามาร์คที่เคยบอกว่าจะสร้างสังคมดีๆ บลาๆๆๆ สุดท้ายตอนนี้ก็ถึงเวลากอบโกย บรรดาคนใช้งานเพจต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาหวังผลทางรายได้ล้วนแล้วแต่ลำบากกันทั้งนั้น ก็เพราะว่าถูกบีบยอดคนเข้าดู โดยที่งานนี้ไม่จ่ายก็เอาคนดูที่ไม่ค่อยสนใจ จะกดไลค์ กดเมนต์อะไรเห็นเพจเราแทน ส่วนกลุ่มที่สนใจเรื่องนั้นๆ หากอยากได้เต็มๆ ก็จ่ายตังค์ซะ แล้วเลือก target ให้ถูกด้วยนะ ซึ่งจริงๆ แล้ว Google ก็ทำคล้ายกัน แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่านี้ นั่นก็ว่ากันไป เพราะเค้าทำ faecbook มาเพื่อหวังผลทางธุรกิจและรายได้เช่นเดียวกัน จะไปว่าอะไรได้นอกจากเลิกใช้ไปซะ แค่นั้นเอง เรื่องพวกนี้เราคงรู้กันอยู่แล้ว แต่ทว่ามีเรื่องนึงที่ผมว่า faecbook มีการป้องกันเรื่องนี้แย่มาก มากซะกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะแค่มีตังค์จ่าย ก็ปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอ report ก็ถึงจะ bloc

เชื่อว่าช่วงนี้ เรือธงช่วงปลายปี อย่าง Galaxy Note 9 ได้อยู่ในมือใครหลายๆ คนแน่นอน ช่วงเปิดตัวและสั่งจอง ของแถม และส่วนลดเพียบ แต่ว่าต้องดู Thailand Mobile Expo เดือนนี้ ว่าจะมีโปรลด แลก แจก แถมมากแค่ไหน นั่นล่ะครับ คือว่าเมื่อ Galaxy Note 9 จาก Samsung ที่มีฟีเจอร์ปากกาอย่างแจ่ม แต่งานนี้มีหลายคนเจอปัญหาเรื่องหน้าจอ OLED มีแสงลอด ซึ่งเอาจริงๆ ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ Galaxy ทั้ง S8 และ Note 8 แล้วล่ะ และตั้งแต่ปีที่แล้ว มีคนไปทดสอบด้วยว่าน้ำไม่เข้าแน่นอน ถ้าทดสอบแล้วน้ำไม่เข้าและตัวเครื่องใช้งานได้ปกติทุกฟังก์ชั่น

จริงๆ ช่วงนี้ฝั่ง Smartphone น่าจะมาแรง แบรนด์ที่สองเริ่มมา แต่ไม่ได้เป็นแผนจากแบรนด์ใหญ่ แต่เป็นแบรนด์ย่อย ที่ฟาดฟันกับแบรนด์ใหญ่ กลับแยกตัวแบรนด์ที่สองออกมาเพื่อมาทำตลาดเพิ่ม จริงๆ การทำตลาดลักษณะนี้ก็คล้ายกับที่เราเห็นมาก่อนหน้านี้ของ dtac ที่แยก Line Mobie ออกมาทำตลาดอีกกลุ่มนึง ที่เน้นความสะดวก ความใหม่ของแบรนด์ ซึ่งมาฝั่ง Smartphone ความชัดเจนเริ่มจาก Huawei จริงๆ มีข่าวของ OPPO ด้วย และเอาจริงๆ คือก่อนหน้านี้ก็คือ กลุ่มของ OPPO vivo OnePlus ที่ต้นขั้วแล้ว บริษัทแม่ก็เรียกได้ว่าเป็นที่เดียวกัน พี่น้องมาทำตลาดกันเองก็ว่าได้

ในที่สุดคลื่นความถี่ 1800MHz ก็แบ่งเค้กกันไปเรียบร้อย ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่า มีผู้ประมูลสองค่าย ก็คือ dtac และ AIS ส่วนค่าย TrueMove H บายไปนั่นเอง งานนี้จึงเป็นไปตามคาด ก็คืดแบ่งกันไปคนละ 5 MHz หลังจากที่ซออยย่อยกันไป ซะ 9 ใบอนุญาต ใบละ 5MHz ซึ่ง ก็จัดกันไปคนละใบ ได้ตังค์ไป 25,022 ล้านบาท ซึ่งถ้าเทียบกับรอบที่ผ่านๆ มา ว่ากันง่ายๆ ก็คือก็ได้เงินน้อยแหล่ะ เพราะซอยย่อยมากเกินไป และตอนแรกคือตั้งไว้แพง ไม่มีคนเข้า ครั้งนี้ก็ต้องตั้งให้มีคนร่วมประมูล ไม่งั้นคือก็เสียหายอีกอยู่ดี เอาง่ายๆ งานนี้ กสทช. คือยังไงก็โดนมองภาพลบแน่นอน เพราะเห็นๆ เลยว่างานนี้โอเปอเรเตอร์ที่เข้าประมูลก็รู้อยู่แล้วล่ะว่า ยังไงก็ได้แน่นอน ไม่ต้องเหนื่อยและลงทุนมาก เพราะอีกรายนึงไม่เข้าร่วม และอีกเหตุผลนึงที่ ประมูลกันไปเพียงคนละใบ หรือคนละ 5MHz ก็เพราะว่า ที่มีอยู่ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้ว กลายเป็นว่างานนี้โอเปอเรเตอร์เหมือนแบ่งเค้กกันไปนิ่มๆ เพราะมีใบอนุญาตเยอะ คนเข้า 2 คน ก็ไม่ต้องเคาะแข่งกัน ยังไงก็ได้แน่นอน

สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung นั่นก็คือ Galaxy Note 9 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ด้วยราคา 33,900 บาท สำหรับรุ่น 6GB+128GB และราคา 39,900 บาท สำหรับรุ่น 8GB+512GB เปิดจองอย่างไว มีโปรโมชั่นมากมาย ทั้งลดราคาจากโอเปอเรเตอร์ 12,000 บาท หรือจะเพิ่มความจุในขณะที่จ่ายเท่าเดิมกับการสั่ง Online แล้วแต่จะเลือก งานนี้ต้องชมทีม Samsung ที่เตรียมการมาดีมาก เปิดตัวปุีปโปรโมชั่นมาปั๊ปพร้อมขายทันที หรืออีกมุมนึงคืออาจจะต้องรีบชิงพื้นที่ก่อน ก่อนที่จะมีแบรนด์อื่นเปิดตัวและขายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ไม่ Huawei ก็ Apple เชื่อว่ายังมีคนอีกกลุ่มนึงที่รอดูสองค่ายนี้เปิดตัวแล้วค่อยเลือกเปลี่ยนเครื่อง แต่เจ้า Samsung Galaxy Note 9 มีข้อดีมากมายตามที่เห็นกันตามสื่อต่างๆ ตอนนี้ ทั้งสเปค รูปร่างหน้าตา ฟีเจอร์กล้อง เป็นที่รู้กันว่าไม่ต่างจากที่คาด และไม่ต่างจาก Galaxy S9+ สักเท่าไหร่นัก

ครั้งนี้มาคุยกันเรื่องการทดสอบความเร็วก็แล้วกันครับ ก็คงไม่พ้นเรื่องอินเตอร์เน็ตและผู้ให้บริการ ณ ปัจจุบัน ทั้งมีสายและไร้สาย ในปัจจุบัน ไม่ใช่สิ ตั้งแต่ในอดีตเราทดสอบความเร็วของอินเตอร์เน็ตกันด้วยความเร็วในการดาวโหลดและอัปโหลด ซึ่งพอได้เห็นตัวเลขในระดับที่ผู้ให้บริการโฆษณาไว้สักครึ่งนึง เราก็พอใจแล้ว และใช้งานต่อไปอย่างไม่ได้สงสัยอะไร จนกว่าจะมีปัญหาในการใช้งาน โหลดช้า เน็ตไม่วิ่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ เราถึงจะมานั่งเช็คกันสักทีนึง เชื่อว่ามีน้อยคนที่มีการเช็คความเร็วทุกวัน หรือทุกชั่วโมงเพื่อเช็คว่าผู้ให้บริการไม่เอาเปรียบเรา? ซึ่งเราก็รู้กันดีว่า แต่ละช่วงเวลาความเร็วที่ใช้งานก็ไม่เท่ากัน ถ้าด้านมีสายก็อาจจะคงที่หน่อย แต่ถ้าด้านไร้สายนี่ความเร็วแล้วแต่ปัจจัยต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นตัวผันแปรได้ทั้งสิ้น แล้วเราจะวัดผลกันด้วยความเร็วแกนเดียว มันถูกต้องแล้วหรือ?

ข่าวใหญ่ล่าสุด ของโอเปอเรเตอร์ ก็คงเป็นเรื่องการไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง dtac และ AIS ซึ่งทาง TrueMove H ออกตัวไปก่อนหน้าแล้ว อีกสองค่ายก็ตามมาด้วยกระแสเดียวกัน เพราะคลื่นเพียงพอแล้วกับความต้องการใช้งาน ณ ปัจจุบัน จากสถานการณ์สุดท้ายที่ TrueMove H น่าจะชัดเจนแต่แรก เพราะราคาตั้งต้นที่ว่าสูงมาก ก็อาจจะไม่สูงในแง่ของ กสทช. ที่บอกว่าเหมาะสมแล้ว

ช่วงนี้มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับโอเปอเรเตอร์ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ สองค่ายที่เกี่ยวกับการอัปเดทเน็ตเวิร์กของตัวเอง ที่น่าสนใจคือสถานการณ์ของ dtac ที่ตอนนี้ติด Turbo กับคลื่น 2300MHz เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ช่วงระหว่าเปิดให้บริการโดยรอบ ช่วงแรกนี้คงเป็นในตัวเมืองต่างๆ ก่อน แต่ก็ต้องรอการยืนยันเรื่องของการขยายพื้นที่อีกครั้ง ว่าจะไปที่ไหนยังไงบ้าง ล่าสุด (10/6) ยังไม่เห็นสัญญาณรอบนอกเมืองนนทบุรีนะครับ เช่นที่เซ็นทรัลเวสเกตต์ อาจจะมีแต่ยังไม่ทั่วก็ได้ ผมลองจับดูก็ไม่เห็น อาจจะเป็นจุดบอดพอดี แต่หลายๆ คนก็ยังไม่เจอสัญญาณเหมือนกัน