ทรูมูฟ เอช ประกาศความพร้อม พาไทยก้าวล้ำสู่เทคโนโลยีการสื่อสารแห่งอนาคตครั้งแรกของโลก!

กรุงเทพฯ 24 กรกฎาคม 2561 – ทรูมูฟ เอช ตอกย้ำความตั้งใจจริงในฐานะโทรคมนาคมของคนไทย เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายและเทคโนโลยีที่ดีและทันสมัยที่สุด เพื่อการสื่อสารที่พร้อมรองรับทุกการเชื่อมต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดได้เตรียมความพร้อมนำเครือข่ายสู่ 5G ที่ให้ความเร็วได้สูงถึงระดับกิกะบิต โดยเปิดให้บริการเทคโนโลยีมาตรฐานโลก FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก และยังทดสอบเทคโนโลยี LAA (Licensed Assisted Access) ที่ใช้จริงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดสุดแห่งความเร็วแรง โดยมีแผนจะเปิดให้ทดลองในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่นทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศเร็วๆ นี้

หากมองย้อนกลับไป จุดเปลี่ยนแห่งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดครั้งนี้ เป็นผลมาจากความร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างไชน่า โมบายล์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความเชี่ยวชาญและศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย ส่งต่อความรู้และความเชี่ยวชาญจากการทำงานอย่างใกล้ชิด ขับเคลื่อนให้กลุ่มทรูก้าวเป็นผู้ให้บริการแถวหน้าในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

ทั้งนี้ทรูมูฟ เอช ได้ประกาศการลงทุน 57,000 ล้านบาทในด้านเน็ตเวิร์ก และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เปิดให้บริการ FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ 5G และมีความก้าวหน้าอย่างมาก เนื่องจาก FDD ทำให้สามารถแบ่งช่วงความถี่ของคลื่นส่ง (downlink) และคลื่นรับ (uplink) ออกจากกัน ส่วน MIMO ทำให้สามารถรับ-ส่งคลื่นหลายชุดได้พร้อมกันในช่องความถี่เดียวกัน

โดยสรุปเทคโนโลยีนี้จะกระจายช่องสัญญาณออกไป รองรับการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนได้เสมือนมีช่องสัญญาณส่วนตัว เพิ่มสมรรถนะในการใช้งานได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า ดังนั้นเมื่อมีการนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้ในอนาคต เครือข่ายจะสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานได้อีกมหาศาล ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น ซึ่งตอนนี้ทรูมูฟ เอช ได้ทดลองเปิดให้บริการบริเวณมหาวิทยาลัยสยาม ถนนเพชรเกษม และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ถนนรามคำแหง

สำหรับเทคโนโลยี LAA (Licensed Assisted Access) อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ทรูมูฟ เอช เปิดให้ทดสอบนั้น เป็นการนำคลื่นความถี่แบบ Unlicensed มาใช้งานด้วยเทคโนโลยี LTE (Long Term Evolution) หรือนำ WiFi มาใช้บนเทคโนโลยี 4G นั่นเอง เพิ่มแบนด์วิธให้กว้างขึ้น จากการทดสอบ สามารถดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1050 Mbps โดยขณะนี้เปิดให้ลูกค้าทรูทดลองใช้บริการก่อนใครที่ร้านทรูสเฟียร์ ทุกสาขา

ในส่วนของโทรศัพท์มือถือ ได้มีการพัฒนาและเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นเรือธงต่างๆ ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง เทคโนโลยี FDD Massive MIMO 32T32R ซึ่งกลุ่มรุ่นที่เป็นเรือธงจะรองรับเทคโนโลยีนี้เรียบร้อยแล้ว และเทคโนโลยี LAA ก็มีหลายรุ่นที่รองรับ ได้แก่ Sony XZ2 Premium, Asus Zenfone 4 Pro, Moto Z2 Force และ Samsung S9 เป็นต้น

 

มาถึงจุดนี้ทรูมูฟ เอช ก้าวขึ้นมาเป็นเครือข่ายอันดับหนึ่งของคนไทยที่มีครบทุกย่านความถี่ ทั้ง 900/850/1800 และ 2100 MHz ด้วยแบนด์วิธที่กว้างที่สุด และ มีการขยายสัญญาณสถานีฐาน 4.5G ครอบคลุมมากที่สุดในไทย รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีในอนาคต พาคนไทยก้าวล้ำสู่การสื่อสารแห่งโลกอนาคต ตอกย้ำจุดยืนและความมุ่งมั่นในฐานะโทรคมนาคมของคนไทยที่มีวิสัยทัศน์ “ไกลกว่าความเร็ว มากกว่าแค่ความแรง” ไม่เคยหยุดพัฒนาและพร้อมทำเพื่อคนไทยเสมอ ทั้งวันนี้และพรุ่งนี้



ถูกใจบทความนี้  4