Unboxing แกะกล่อง & รีวิว ไมโครโฟน Saramonic รุ่น Vmic !!

Saramonic Vmic

 รับชมในฉบับวีดีโอกันไปแล้ว วันนี้มาอ่านในรูปแบบขีด ๆ เขียน ๆ และภาพนิ่งกันต่อครับ กับรีวิวไมโครโฟนจากแบรนด์ยอดนิยม Saramonic ในรุ่น Vmic และสำหรับคนที่ชื่นชอบการบันทึกวีดีโอ ไม่ว่าจะเป็นจากกล้อง Mirrorless, DSLR รวมไปถึง Camcorders ต่าง ๆ  ถ้าอยากอัพเกรดคุณภาพที่ดีให้กับวีดีโอ ยังไงก็อย่าลืมใส่ใจกับระบบเสียงด้วยนะครับ เพราะถ้าเรามีระบบบันทึกเสียงที่ดี ก็จะส่งผลให้วีดีโอของเรามีความสมบูรณ์และน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ  

 

สเปคเบื้องต้นของ Saramonic รุ่น Vmic

Saramonic Vmic

Saramonic Vmic 2

Saramonic Vmic 3

ราคาวางจำหน่าย 4,800 บาท

 

Saramonic Vmic 4

ตัวกล่องแพ็กเกจดูเรียบร้อยแข็งแรง โดยมาในโทนสีขาวตัดดำและมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก

 

 

Saramonic Vmic 5

ด้านหลังของตัวกล่องมีสเปคและฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์พิมพ์แปะมาให้เกือบครบถ้วนเลยทีเดียว เรียกว่าไม่ต้องเปิดดูคู่มือก็พอรู้เลยว่า Saramonic Vmic นั้นมีจุดเด่นและจุดขายตรงไหนบ้าง

 

จากนี้มาเริ่มแกะกล่องสำรวจกันเลยนะครับ ว่าภายในกล่องของ Saramonic Vmic จะมีอะไรให้มาบ้าง

 

Saramonic Vmic 6

Saramonic Vmic 7

เปิดกล่องออกมาจะพบกับ

1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ

2. ใบรับประกันสินค้า

3. สาย Mini-pin plug (3.5 มม.)

ปล. ไม่สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้นะครับ เพราะขั่วจะเป็นคนละประเภท แม้จะใช้คอนเนคเตอร์แบบ 3.5 ก็ตาม

 

 

Saramonic Vmic 15

ตัวไมโครโฟน Saramonic Vmic รูปร่างหน้าตาประมาณนี้แหล่ะตามสไตล์ของไมค์ประเภท Shotgun

วัสดุโครงสร้างหลัก – ตัวบอดี้ของไมค์จะเป็นโพลีคาร์บอเนต หรือพลาสติกนั่นเอง แต่ค่ายนี้เลือกใช้เกรดคุณภาพนะไม่ต้องเป็นห่วงครับ ในภาพรวมงานประกอบเรียบร้อย-แข็งแรงดี สมราคาค่าตัว ส่วนเรื่องน้ำหนักก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายเพียง 196 กรัมเท่านั้น

 

 

Saramonic Vmic 8

มาพร้อมกับ Hot Shoe ขนาดมาตรฐาน สามารถใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless, DSLR รวมไปถึง Camcorders ต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมีเกลียวเพื่อต่อเข้ากับขาตั้งกล้องได้อีกด้วย ตรงนี้ถือว่าให้ความยืดหยุ่นที่ดีมาก ๆ ครับ

 

 

Saramonic Vmic 9

Saramonic Vmic 10

สำหรับตัวฐานที่ยึดระหว่างบอดี้กับ Hot Shoe จะเป็นแบบ shock mount system หรืออธิบายง่าย ๆ ให้เห็นภาพ มันก็คล้าย ๆ โช๊คที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนของรถนั่นเองครับ โดยรองรับซับแรงกระแทกได้ทั้ง 4 ทิศทาง และประโยชน์ของ shock mount ก็คือเวลาที่เราเดินหรือเคลื่อนไหวกล้องไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว มันจะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและไม่ส่งเสียงรบกวนเข้าไปที่ไมค์ ส่งผลให้วีดีโอเราจะไม่มี Noise จากการสั่นสะเทือนของตัวไมค์นั่นเองครับ

 

 

Saramonic Vmic 11

ด้านหลัง คือโซนที่ใช้ในการปรับตั้งค่าต่าง ๆ  อาทิเช่น ปุ่มเปิด-ปิดการทำงานของตัวไมค์, ไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงาน สำหรับปุ่มต่าง ๆ มีหน้าที่การทำงานอย่างไรบ้าง ผมขออธิบายสั้น ๆ ดังนี้

ไล่จากด้านบนสุดตรงสกรีนชื่อแบรนด์และรุ่น ถัดลงมาคือไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงานของตัวไมค์ ถ้าไฟสีเขียวติด คือเปิดการทำงานแล้ว ถ้าเป็นไฟสีแดงกระพริบ ๆ หมายถึงถ่านเริ่มอ่อน

ปุ่มทางฝั่งขวา คือปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดการทำงานของตัวไมค์ ทางซ้ายจะเป็นปุ่มปรับที่ใช้ในการบู้ท Level การบันทึกเสียงของตัวไมค์ ซึ่งเราสามารถปรับบู้ทเพิ่มได้ถึง 20 เดซิเบล และลดระดับของเสียงลงมาได้อีก 10 เดซิเบล ตรงนี้สะดวกในการใช้งานจริงมาก ๆ  เพราะเราไม่ต้องเสียเวลสาเข้าไปปรับการตั้งค่าที่ในตัวกล้อง

ส่วนปุ่มกลม ๆ แถวสุดท้าย ทางฝั่งซ้ายคือ High pass filter (150 Hz) ที่มีหลักการทำงาน คือการกรองสัญญาณที่มีความถี่ต่ำกว่า 150 Hz เพื่อลบเสียงดังก้องหรือเสียงรบกวนที่มีความถี่ต่ำ ๆ ขณะบันทึกเสียงครับ

ส่วนปุ่มกลม ๆ  ทางขวาคือ High frequency boost (+6dB) เพื่อช่วยให้การบันทึกเสียงสูงทำได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่นปลายเสียงแหลมที่ที่มีความแผ่วพริ้วบางทีไมค์ปรกติไม่สามารบันทึกไว้ได้ เมื่อเปิดโหมดนี้ก็จะเป็นการบู้ทเพื่อให้สามารถบันทึกคลื่นความถี่เสียงสูงได้อย่างครบถ้วนแม่นยำขึ้นนั่นเอง

 

Saramonic Vmic 12

ดูกันต่อที่ด้านหน้า จะมีพอร์ต 3.5 มม. อยู่ 2 พอร์ต ซึ่งมีไอคอนกำกับไว้ โดยช่องบนจะเป็นการเชื่อมต่อจากไมค์ไปยังกล้อง ส่วนช่องล่างจะเป็นการเชื่อมต่อกับหูฟังภายนอก เพื่อใช้มอนิเตอร์หรือเช็คการทำงานของตัวไมค์ครับ

 

Saramonic Vmic 13

Saramonic Vmic 14

ถัดลงมาก็จะเป็นช่องใส่แบตเตอรี่  โดยแหล่งพลังงานที่ใช้กับ Saramonic Vmic ก็คือถ่าน AA จำนวน 2 ก้อน ที่เราสามารถซื้อหาได้ง่าย ๆ ตามร้านค้าทั่ว ๆ ไปนั่นแล

 

 

Saramonic Vmic 16

ตัว Wind shield ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจะเป็นวัสดุที่ผลิตจากฟองน้ำครับ เมื่อถอดออกมาจะเห็นรูปร่างหน้าตาจริง ๆ ของตัวไมค์ Saramonic Vmic 

 

 

Saramonic Vmic 1 

Saramonic Vmic 2 

Saramonic Vmic 3 

ลองประกบกับกล้องจริง ๆ  ก็ไม่ได้ดูเทอะทะอะไรมากมาย แต่อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับไมค์ Rode ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านั้นนะครับ https://goo.gl/As82Lb เพราะ Rode เป็นไมค์แบบไม่ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟจากภายนอก จึงส่งผลให้การออกแบบนั้นได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว

แต่จากการใช้งานจริงของผมไมค์ Saramonic Vmic ก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดนะ เพราะผมยังสามารถใช้งาน Viewfinder ได้ตามปรกติ (แต่ตาจะไม่แนบไปกับยาง)

 

จากนี้ไปดูภาคทดสอบใช้งานจริงกันครับ

 

 

สรุปกันเลยดีกว่า

Saramonic Vmic เป็นไมค์น้องเล็กสุดในซีรีย์ Vmic ซึ่งผมมองว่ามีความคุ้มค่าในแง่ราคาและการใช้งานจริง ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มา ทั้งการบู้ทและคัท  Level การบันทึกเสียง ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปปรับตั้งค่าจากภายในตัวกล้อง รวมไปถึงฟีเจอร์ High pass filter (150 Hz) และ High frequency boost ที่ช่วยให้การทำงานภาคสนาม หรือในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยของเรานั้นสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น

และทั้งหมดทั้งปวง เป็นการอัพเกรดคุณภาพการบันทึกวีดีโอของเราให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นในงบประมาณที่ไม่บานปลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ควรรู้และทำความเข้าใจก่อนจะนำไปใช้งาน นั่นก็คือคุณสมบัติของไมค์ประเภท Shotgun และตัว pattern ของไมค์ที่เป็นชนิด cardioid polar จะเหมาะกับงานบางประเภท เช่นการบันทึกเสียงที่เน้นแหล่งกำเนิดเสียงมาจากทางด้านหน้าเป็นหลัก ถ้าซื้อไปใช้งานได้ตรงประเภท ขอบอกเลยว่า Saramonic Vmic เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ เพราะยังไง Super-cardioid polar ของตัว Saramonic Vmic ก็เหนือกว่า cardioid polar ทั่ว ๆ ไปในท้องตลาดอยู่แล้วครับ  

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Saramonic Thailand https://goo.gl/y4BD84 บริษัท The Digital STM https://goo.gl/XsUziR , และ smartcam1988 ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการรีวิว

หากเพื่อน ๆ สนใจสินค้าของแบรนด์ Saramonic สามารถแวะเวียนไปเยี่ยมชมกันได้ที่นี่ครับ >>> https://goo.gl/K3zyfS



ถูกใจบทความนี้  1