รีวิว Vivo V11 ดีไซน์งามหยดย้อย ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ สแกนนิ้วบนจอแสดงผล และกล้องที่ถ่ายได้สวยในทุกสถานการณ์ !!

 

 

 

Camera & Sample

กล้องหลังคู่ของ Vivo V11 อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แม้จะไม่มีความรู้ ความชำนาญในด้านการถ่ายรูปมาก่อนก็ตาม  เช่นฟีเจอร์ AI Scene Recognition ที่สามารถตรวจจับวัตถุหรือสภาพแวดล้อมที่อยู่หลังกล้องให้แบบอัตโนมัติ จากนั้นจะทำการแยกประเภทพร้อมปรับตั้งค่าการถ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ  เช่นเราส่องกล้องไปที่อาหาร ก็จะมีไอค่อนรูปอาหารแสดงขึ้นมาในมุมล่างซ้ายของจอแสดงผล จากนั้นตัว AI ก็จะทำการประมวลผลพร้อมปรับแต่งให้ภาพที่ถ่ายออกมาแล้วมีความสมบูรณ์ที่สุด

 

สำหรับฟีเจอร์ไฮไลท์ที่เคยมีให้ใช้งานบน Vivo V9 หรือ X21 ก็ยังคงให้มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น AR Stickers, Bokeh Portrait mode, พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาให้ใช้งานอีกด้วย เช่น AI Low Light ที่ใช้หลักการทำงานเดียวกับโหมด HDR นั่นก็คือการถ่ายภาพซ้อนแบบหลาย ๆ เฟรมจากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดนอยซ์แล้ว ภาพที่ได้ยังมีความสว่างและคมชัดที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียดจัดเต็ม 25 ล้านพิกเซล แน่นอนว่าจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถใช้ความฉลาดจาก AI มาช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความสนุกและได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจ แถมยังมีโหมด 3D Face Shaping ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด

 

ในส่วนของตัวแอปอัลบั้มบน Vivo V11 ก็มีความฉลาดล้ำด้วย AI ที่ช่วยแยกพร้อมระบุประเภทภาพถ่ายให้โดยอัตโนมัติ โดยแยกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ แกลลอรีรูปภาพ, อัลบั้ม, การระบุภาพ AI เพื่อการค้นหาในภายหลังได้อย่างสะดวกง่ายขึ้น

 

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยที่ยังไม่ใช่ AI Face Beauty ภาพที่ได้ให้ความคมชัดที่ดี และสกินโทนก็ก็ดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตาแต่อย่างใด

 

ลองเปิดใช้งาน AI Face Beauty ภาพที่ได้ดูสวยงาม ขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ

 

 

นอกจากโหมด AI Face Beauty จะให้ภาพที่ดูสวยงามมีความเป็นธรรมชาติแล้ว Vivo V11 ยังมีโหมด 3D Face Shaping ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมตา, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น

 

ฟีเจอร์ AI Selfie Lighting จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเซลฟี่ ซึ่งจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม โดยอัลกอริทึม AI ของ V11 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมาโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ Natural Light, Studio Light, Stereo Light, Loop Light, Rainbow light, และ Monochrome background

Natural Light แสงธรรมชาติ

 

Studio Light, ไฟสตูดิโอ

 

Stereo Light ไฟสเตอริโอ

 

Loop Light  ลูปไลท์

 

Rainbow light แสงรุ้ง

 

Monochrome background ภาพพื้นหลังแบบขาวดำ

 

 

AI Blacklight HDR ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดีเทลของภาพให้มีความสมดุล อีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าของเราไม่ดำเนื่องจากการถ่ายย้อนแสงอีกด้วย

ตัวอย่างภาพทางซ้ายมือจะเห็นว่าท้องฟ้าและฉากหลังนั้นสว่างจ้าจนเกินไป ส่วนภาพขวาเมื่อเปิด HDR แล้วจะมีการเกลี่ยแสงที่สมดุล อีกทั้งสามารถดึงรายละเอียดกลับมาทั้งใบไม้และท้องฟ้าที่ด้านหลัง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโหมดที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา

 

AR Stickers ฟีเจอร์เด่นจากรุ่นพี่ Vivo V9 อารมณ์ประมาณการใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคจับภาพได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย

 

ฟีเจอร์ใหม่บน Vivo V11 ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลได้สวยงามและสะดวกง่ายดายขึ้นก็คือ AI Portrait Framing นั่นเอง โดยฟีเจอร์นี้ จะตรวจจับภาพใบหน้าบุคคลที่อยู่ในเฟรม พร้อมแนะนำการหันกล้องไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการจัดองค์ประกอบของภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดนั่นเอง ตรงนี้ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพบุคคลได้ดีมาก แม้เราจะถ่ายรูปไมเก่งก็ตาม

 

คุณภาพกล้องหลังของ Vivo V11 อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมากครับ ทั้งความคมชัดและความแม่นยำของไวท์ บาลานซ์ แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่วันถ่ายจริงนั้นเกิดฝนตก อากาศครึ้ม ๆ ไม่มีแสง เลยทำให้ภาพออกมาในโทนอันเดอร์ไปบ้าง

 

รูปนี้ใช้โหมด Auto ในการถ่าย เพื่อไว้ลองเปรียบกับ Bokeh Portrait mode

 

เปิดใช้งาน Portrait mode โดยภาพที่ออกมานั้น สามารถละลายฉากหลังได้ค่อนข้างเนียนตา แถมยังเก็บดีเทลรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ  อย่างเช่นปรอยผม หรือพวกเส้นขอบของเสื้อผ้าได้ค่อนข้างดีอีกด้วยครับ

 

Auto mode &  Portrait mode

 

Auto mode &  Portrait mode

 

Auto mode &  Portrait mode

 

Auto mode &  Portrait mode

 

Portrait mode

 

  

สำหรับกล้องหลังของ Vivo V11 ก็มี AI Face Beauty มาให้ใช้งานไม่ต่างไปจากกล้องหน้าเลยครับ รวมไปถึงฟีเจอร์ Face Shaping ด้วย เรียกว่ากล้องหน้าทำได้อย่างไร กล้องหลังก็ทำได้ไม่แตกต่างกันเลยครับ

 

 

ในโหมด AI Face Beauty สามารถเปิดใช้ Portrait mode ทำให้ภาพภาพที่ออกมานอกจากความสวยงามของ Face Beauty  แล้ว ยังได้เรื่องของมิติของการละลายฉากหลังจากโหมด Portrait อีกทางหนึ่งด้วย

 

 

จากนี้ไปดูภาพรวม ๆ จากกล้องหลังของ Vivo V11 กันต่อได้เลยครับ

 

คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่


เปรียบเทียบการเปิดใช้งาน HDR off – HDR on

 

AI Low Light ที่ใช้หลักการทำงานเดียวกับโหมด HDR นั่นก็คือการถ่ายภาพซ้อนแบบหลาย ๆ เฟรมจากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดนอยซ์แล้ว ภาพที่ได้ยังมีความสว่างและคมชัดที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

 

 

สรุป Vivo V11

ข้อดี

1. เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ In-Display Fingerprint Scanning เหมือนรุ่นพี่ Vivo X21

2. ดีไซน์สวยงาม ด้วยการไล่ระดับเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ อีกทั้งตัวฝาหลังยังเป็นแบบ 3D ที่โค้งรับเข้ากับสรีระศาสตร์ทำให้จับถือได้กระชับถนัดมือดีมาก

3. ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้ามาพร้อมอินฟาเรด ทำให้ปลดล็อคได้รวดเร็วแม่นยำด้วย แม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืด

4. หน้าจอแสดงผล Halo FullViewTM Display สวยงามคมชัด และเลือกใช้ดีไซน์รอยบากทรงหยดน้ำ อีกทั้งยังมีขอบจอบางเฉียบ ส่งผลให้มีอัตราแสดงผลสูงถึง 90.8% ทำให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง Youtube หรือ Netflix และเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

5. กล้องหน้าหลัง/ ขับเคลื่อนด้วย AI อันชาญฉลาด และมีฟีเจอร์เด่น ๆ มากมาย ช่วยให้การถ่ายรูปสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ดี แม้จะไม่ได้มีความสามารถด้านการถ่ายภาพมาก่อนก็ตาม

6. การจัดสรรพลังงานทำได้ค่อนข้างดี การใช้งานทั่ว ๆ ไป สามารถใช้งานได้ครบวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว (Dual-Engine Fast Charging)

7. การเชื่อมต่อให้มาอย่างครบถ้วน รวมไปถึงรองรับ Full Netcom 4.0 และ Dual VoLTE

8. ถาดซิมแบบTriple slot  ทำให้สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ดไปพร้อม ๆ กับการใส่หน่วยความจำภายนอก MicroSD Card

 

 

สิ่งที่ต้องพิจารณา

  1. ไม่มี NFC
  2. พอร์ตชาร์จยังเป็น Micro USB

 

 

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ



ถูกใจบทความนี้  124