รีวิว Asus Zenfone Selfie เครื่องเดียวครบเครื่อง ในราคาเบาๆ ไม่ถึงหมื่นบาท

asus-zenfone-selfie-unbox-01

Asus ยังคงสานต่อนิกายเซนแตกรุ่นออกมาเรื่อยๆ แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่ชัดเจนพอตัวเหมือนกัน และรุ่นที่จะรีวิวนี้คือ Asus Zenfone Selfie ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วนะว่าจุดเด่นคือ Selfie เพราะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED คู่กับกล้องหน้าอีกตะหาก แต่จุดเด่นของเครื่องนี้มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ จะมีอะไรบ้างต้องมาดู

Asus Zenfone Selfie Specifications:
– หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080p)
– Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz
– Adreno 405
– Ram 2GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับ Micro SD Card สูงสุด 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED คู่และ Laser Focus ช่วยให้โฟกัสได้เร็วยิ่งขึ้น F2.0
– กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแแฟลช LED คู่
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– 4G LTE
– แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
– Android 5.0.2 Lollipop
– ราคา 8,990 บาท

1.แกะกล่อง

asus-zenfone-selfie-unbox-02

กล่องของ Zenfone Selfie จะเป็นสีขาวพร้อมบ่งบอกสีตัวเครื่องในกล่องเลย อย่างตัวที่ได้มารีวิวนี้คือสีฟ้าครับ ที่กล่องก็แสดงให้เห็นชัดเจนมาก

asus-zenfone-selfie-unbox-03

ด้านข้างกล่องมีบอกฟีเจอร์คร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรองรับ 4G LTE จอ Full HD และอื่นๆ ครับ

asus-zenfone-selfie-unbox-04

ในกล่องที่ได้มารีวิวไม่มีหูฟังมาให้นะครับ เจอแต่ Adapter กับสาย Micro USB นี่แหละ ซึ่ง Adapter ของ Zenfone Selfie นั้นจ่ายไฟที่ความแรง 2A

asus-zenfone-selfie-unbox-05

มาดูตัวเครื่องกันบ้าง ด้านหน้านี่เอาจริงๆ นะ เหมือนกันแทบทุกรุ่นล่ะ แต่รุ่นนี้จะแยกจากรุ่นอื่นง่ายหน่อยตรงที่กล้องหน้ามีไฟแฟลช LED คู่ด้วยนี่สิ

asus-zenfone-selfie-unbox-06

ด้านหลังตัวเครื่อง เป็นไปตามท้องเรื่อง เอ้ย ตามสีเครื่องสิ ก็สีฟ้านี่ล่ะครับ แน่นอนว่าวัสดุทำจากพลาสติก แต่ควาามรู้สึกเวลาจับก็แข็งแรงดีครับ

asus-zenfone-selfie-unbox-07

ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่ม Power อยู่ตรงกลาง และทางซ้ายของตัวเครื่อง (แต่ทางขวาของรุป) เป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม. ส่วนทางขวารูเล็กๆ นั่นไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน

asus-zenfone-selfie-unbox-08

เนื่องจากปุ่มไปอยู่ด้านหลังและด้านบนตัวเครื่อ่งหมดแล้ว ฉะนั้นด้านข้างเครื่องทางซ้ายและทางขวาจะไม่มีปุ่มอะไรอยู่เลยครับ

asus-zenfone-selfie-unbox-09

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จ/Micro USB และไมโครโฟนสำหรับรับเสียงสนทนา

asus-zenfone-selfie-unbox-10

มาดูตัวเครื่อง Zenfone Selfie ใกล้ๆ กันบ้าง เหนือหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว มีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED คู่อยู่ทางซ้าย และทางขวาเป็นลำโพงสำหรับสนทนา

asus-zenfone-selfie-unbox-11

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัสสุดคลาสสิคตามนิกายเซนประกอบไปด้วย ปุ่ม Back Home Recent Apps

asus-zenfone-selfie-unbox-12

ด้านหลังตัวเครื่องมีโลโก้ Asus อยู่ตรงกลาง เหนือโลโก้ไปมีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อม Laser Focus ทางซ้ายและไฟแฟลช LED 2 ดวง ทางขวา ส่วนใต้กล้องมีปุ่มเพิ่มลดเสียง

asus-zenfone-selfie-unbox-13

ด้านล่างมีลำโพงของตัวเครื่องอยู่

asus-zenfone-selfie-unbox-14

Zenfone Selfie สามารถเปิดฝาหลังขึ้นมาได้นะครับ โดยที่งัดจะอยู่ทางขวาของตัวเครื่อง

asus-zenfone-selfie-unbox-15

ว่าแล้วก็จับถอดฝาหลังซะเลย เห็นชัดเจนว่ารุ่นนี้สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ และแบตนั้นมีขนาดที่ 3,000mAh

asus-zenfone-selfie-unbox-16

และยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมโดยใช้ Micro Sim รวมถึงใส่ Micro SD Card เพิ่มได้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องจริงๆ

asus-zenfone-selfie-storage

Zenfone Selfie มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB

asus-zenfone-selfie-ram

Ram 2GB เหลือใช้จริงราวๆ 1GB ถือว่าเริ่ดนะ

asus-zenfone-selfie-version

น่าเสียดายที่ยังมาพร้อม Android 5.0.2 Lollipop แต่คิดว่าไงๆ อนาคตก็ได้อัพเดทกันแน่นอน

2.User Interface & Feature

Asus Launcher

asus-zenfone-selfie-launcher

User Interface ของ Zenfone นั้นเรียบง่ายคลาสสิคมากครับโดยแบ่งออกเป็นหน้า Home และ App Drawer ซึง Asus launcher นั้นบางทีก็ฉลาดมากเกิน คือมันจัดการแอพประเภทต่างๆ เข้า Folder ให้เสร็จสรรพทันทีที่เราโหลดแอพเสร็จเลย ยกตัวอย่างเช่นผมโหลดเกมส์มาเกมส์นึง พอโหลดเสร็จมันจับโยนเข้าโฟลเดอร์เกมทันที เอ๊อะ จะฉลาดไปไหนล่ะครับท่าน ซึ่งผมว่าก็ดีนะ ไม่ต้องให้แอพกระจายๆ กันเยอะๆ หลายๆ หน้า แบ่งเป็นประเภทนี่ล่ะง่ายดี หรือใครขี้เกียจหาโฟลเดอร์ประเภทต่าง ๆ อีก ก็สามารถค้นหาโดยพิมพ์ชื่อแอพเลยก็ทำได้

Notification Bar

asus-zenfone-selfie-statusbar

Notification Bar ของ Zenfone Selfie จะเหมือนกับแอนดรอยด์ที่หลายๆคนคุ้นเคยคือลากลงมาชั้นนึงเป็นแถบการแจ้งเตือนต่างๆ และถ้าลากซ้ำลงมาครั้งที่สองจะเจอกับแถบทางลัดต่างๆ ในการปรับความสว่างหน้าจอ และเปิดปิด Wi-Fi, Bluetooth, ฯลฯ ครับ

Touch Gesture

asus-zenfone-selfie-gesture

Zenfone Selfie มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Touch Gesture ด้วยซึ่งเป็นการจับความเคลื่อนไหวต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น หากหน้าจอดับอยู่ เราก็สามารถเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อให้หน้าจอติดขึ้นมาได้ หรือจะเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอก็ทำได้ครับ (แต่ต้องอยู่ที่หน้าโฮมนะ) รวมถึงยังมี Gesture หลายๆ อย่างอีกที่ใช้ ณ ตอนหน้าจอดับโดยการเขียนตัวอักษรอีกดังนี้
– C เพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป
– W เพื่อเปิดเว็บบราวเซอร์
– S เพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป (กล้องหน้า)
– e เพื่อเปิดอีเมล
– Z เพื่อเปิด Asus Boost
– V เพื่อเปิดหน้าโทรออก

One Hand Mode

asus-zenfone-selfie-one-hand

เนื่องด้วยคัวเครื่อง Zenfone Selfie มีขนาดค่อนข้างใหญ่คือหน้าจอก็ปาไป 5.5 นิ้วแล้ว ฉะนั้นคนมือเล็กอาจใช้งานมือเดียวไม่ค่อยสะดวกจึงได้ใส่ฟีเจอร์ One Hand Mode มาให้ด้วยเพื่อทำการย่อหน้าจอลงมา จะได้ใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ

File Manager

asus-zenfone-selfie-filemanager

แอพจัดการไฟล์ต่างๆ ของตัวเครื่องใช้งานเหมือนทั่วๆ ไป แบ่งออกเป็นหน่วยความจำภายในตัวเครื่องและ Micro SD Card ชัดเจน ซึ่งจะเข้าไปดูไฟล์ส่วนไหนก็กดที่แถบทางขวาออกมา รวมถึงยังเข้าดูพวก Cloud Storage ต่างๆ ในแอพนี้ได้ด้วยนะ

Instant Camera

asus-zenfone-selfie-instantcamera

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่เวลาต้องการถ่ายรุปด่วนๆ จะชอบกดปุ่มบนตัวเครื่องเพื่อเรียกแอพกล้องถ่ายรูปขึ้นมามากกว่าการจะไปวาดเป็นตัวอักษรหรือการใช้ Gesture เพราะมันเร็วดีครับ ซึ่งโดยปกติของ Zenfone Selfie จะถูกปิดฟีเจอร์นี้เอาไว้ต้องมาเปิดใน Setting > Lock Screen > Instant Camera จากนั้นเวลาหน้าจอดับอยู่แล้วต้องการเข้ากล้องถ่ายรูป ก็แค่กดปุ่มเพิ่่มหรือลดเสียงสองครั้งตัวเครืองก็จะเปิดแอพกล้องขึ้นมาทันทีครับ

Benchmark

asus-zenfone-selfie-benchmark

ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องจากแอพต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 36061
– Quadrant: 22995
– Geekbeench: Single Core 647, Multi Core 2426

 

3.กล้องถ่ายรูป

asus-zenfone-selfie-camera-001

Asus Zenfone Selfie มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Laser Focus ช่วยให้การโฟกัสเร็วขึ้นและมีไฟแฟลช LED ให้อีกสองดวงด้วยกัน

asus-zenfone-selfie-camera-002

โหมดการถ่ายรูปของ Zenfone Selfie ครับ เยอะมาก จะเยอะไปไหนเนี่ย ฮ่าๆๆ ดังนี้เลย
– Auto
– Manual
– HDR
– Beautification
– Super Resolution: เป็นโหมดถ่ายภาพหลายๆ ช็อตแล้วนำมารวมกันให้ได้ภาพความละเอียดที่สูงขึ้น
– Low Light
– Night
– Depth in field: เป็นการถ่ายรูปเสร็จแล้วจัดการปรับภาพให้ฉากหลังเบลอตามความสะใจของเราครับ ฮ่ะๆ ผมว่าเอาไว้ถ่ายสิ่งของมันแจ่มมากเลยนะ
– Effect: เอฟเฟคต์สีต่างๆ
– Gif Animation
– Panorama
– Miniature
– Time Rewind
– Smart Remove
– All smiles
– Slow Motion
– Time Lapse

มาดูการถ่ายรูปโหมด Manual กันดีกว่าว่าปรับค่าอะไรได้บ้าง

asus-zenfone-selfie-camera-003

ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 50 – 800

asus-zenfone-selfie-camera-004

ปรับ Speed Shutter ได้ตั้งแต่ 2 – 500/s

asus-zenfone-selfie-camera-005

ปรับ EV ได้ตั้งแต่่ -2 ถึง +2

asus-zenfone-selfie-camera-006

ปรับ White Balance ได้ระดับค่า K แต่มีแผนภาพให้ชัดเจน ง่ายดีนะ จะเอาสีฟ้าก็ปรับลงมา โทนร้อนก็ปรับขึ้นไป

asus-zenfone-selfie-camera-007

ทั้งนี้หากใช้งานโหมด Auto แล้วสีสันหรือค่าแสงไม่ถูกใจก็สามารถมาปรับได้ในการตั้งค่าของกล้องนะครับ

asus-zenfone-selfie-camera-008

ปรับได้ยัน Saturation, Contrast, Sharpness, Noise Reduction, Backlight

asus-zenfone-selfie-camera-009

เดิมกล้องของ Zenfone Selfie จะถูกตั้งค่าความละเอียดมาที่ 10 ล้านพิกเซลแล้วอัตราส่วนจะพอดีกับหน้าจอตัวเครื่องพอดี (16:9) ทั้งนี้ในการรีวิวครั้งนี้ผมปรับเป็น 13 ล้านภาพจึงออกมาในอัตราส่วน 4:3 ครับ

asus-zenfone-selfie-camera-010

มี Burst Mode ด้วยนะ วิธีใช้ไม่ยากครับ จิ้มค้างเวลาถ่ายรุปนั่นล่ะ เดี๋ยวมันยิงเอง

asus-zenfone-selfie-camera-011

ส่วนเรื่องการถ่ายวิดีโอสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD (1080p)

 

ต่อไปมาดูเโหมด Depth in field กันบ้าง โหมดนี้เป็นโหมดถ่ายรูปแล้วปรับชัดตื้นทีหลังได้ครับ โดยเมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วจะมีปรับระดับชัดตื้นให้ระดับนึงก่อน แต่หากมากหรือน้อยไปเราก็สามารถจัดการเองทีหลัง

asus-zenfone-selfie-camera-012

ลองถ่ายสิ่งของดู อ๊ะ ปรับมาระดับนึงก็เบลอสะใจแล้วนะ

asus-zenfone-selfie-camera-013

แต่ถ้าเบลอไปจะไม่เอาเบลอก็ลดลงมาได้

asus-zenfone-selfie-camera-014

หรืออยากได้ฉากหลังละลายแบบสุดๆ ก็จัดไปแบบนี้เลย

Effect: โหมดสีต่างๆ

asus-zenfone-selfie-camera-015

โหมดสีต่างๆ บน Zenfone Selfie มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ชอบแบบไหนก็ตามภาพเลยครับ

กล้องหน้า

asus-zenfone-selfie-camera-selfie00

Zenfone Selfie มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED 2 ดวงทำให้หมดกังวลแม้จะต้อง Selfie ในที่มืด

asus-zenfone-selfie-camera-selfie01

กล้องหลังมีโหมดถ่ายรูปอะไรกล้องหน้ามีเกือบหมดครับ แต่ที่จะมีเพิ่มเข้ามาคือ Selfie panorama เผื่อเก็บภาพเป็นหมู่คนเยอะๆ ทั้งนี้เดิมๆ ของกล้องหน้านั้นจะมาในโหมด Beautification หรือโหมดหน้าสวยนั่นเอง

asus-zenfone-selfie-camera-selfie

โหมด Beautification นั้นสามารถปรับแต่งได้หลากหลายมากครับ ตั้งแต่เติม Brush ว่าอยากได้สีอะไร, ทำหน้าเนียน 10 ระดับ, ทำหน้าขาวได้อีก 10 ระดับ, ตาโตก็ทำได้ 10 ระดับ และสุดท้ายทำหน้าเรียวได้อีกด้วย 10 ระดับ โอ้ เรียกว่าใช้กันหมดนี่ออกมาสวยหล่อทุกคนแน่นอน ปรับได้เยอะมาก

 

ส่วนของซอฟต์แวร์จบลงก็ไปชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Zenfone Selfie กันครับ ภาพเกือบทั้งหมดถ่ายด้วยโหมด Auto และไม่ได้มีการปรับแต่งใดๆ ทำเพียงย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้นครับ

asus-zenfone-selfie-sample-001

asus-zenfone-selfie-sample-002

ภาพบนโหมด Auto

asus-zenfone-selfie-sample-003

ภาพนี้โหมด HDR

asus-zenfone-selfie-sample-004

asus-zenfone-selfie-sample-005

asus-zenfone-selfie-sample-006

asus-zenfone-selfie-sample-007

โหมด Auto

asus-zenfone-selfie-sample-008

โหมด Low Light ภาพใกล้ขึ้นมาเยอะเลยแฮะ เพราะความละเอียดเหลือ 3 ล้านพิกเซล

asus-zenfone-selfie-sample-009

asus-zenfone-selfie-sample-010

 

asus-zenfone-selfie-sample-012

asus-zenfone-selfie-sample-013

asus-zenfone-selfie-sample-014

asus-zenfone-selfie-sample-015

asus-zenfone-selfie-sample-016

asus-zenfone-selfie-sample-017

asus-zenfone-selfie-sample-018

asus-zenfone-selfie-sample-019

อันนี้ภาพจากโหมด Depth in field ครับ ละลายหลังสะใจดีครับ

asus-zenfone-selfie-sample-020

จากกล้องหน้ากันบ้าง คือหน้าง่วงมาก ว่าแต่กล้องจะชัดไปไหนครับท่าน

 

4.การเล่นเกมส์

asus-zenfone-selfie-games

Asus Zenfone Selfie มาพร้อมสเปคเครื่องที่ถือว่าแรงพอตัวเลยกับ Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz, GPU Adreno 405 และมี Ram 2GB รวมถึงหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเยอะ 32GB ฉะนั้นสำหรับคอเกมส์คงไม่ใช่ปัญหาอะไร ซึ่งผมก็ได้้ทดสอบกับเกมส์ Cookie Run และ Mission Impossible ก็พบว่าเล่นได้ลื่นดีไม่มีปัญหาครับ

สรุป
ข้อดี
– หน้าจอใหญ่ ความละเอียดสูง สีสันสดใส
– กล้องหน้ากล้องหลังจัดเต็ม ใช้งานได้เกือบทุกโอกาส
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม แถมรองรับ 4G LTE ด้วย
– แบตเตอรี่ใหญ่และอึดพอตัว

ข้อเสีย
– มีแอพบางตัวติดเครื่องมาเลย ไม่สามารถถอนการติดตั้งได้ เช่น Clean Master ที่แต่ก่อนมันดีนะ แต่ปัจจุบันมันยุ่งกับการจัดการเครื่องมากเกินไป
– แอพติดเครื่องของทาง Asus เองบางตัวไม่สามารถใช้งานได้เพราะไม่รองรับบ้านเรา ทำให้เสียพื้นที่เครื่องไปอีกนิด

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Asus Thailand ที่ให้ยืมเครื่องมาทดสอบครับ

แสดงความคิดเห็นกันได้ที่เว็บบอร์ดเดิม >>> ที่นี่



ถูกใจบทความนี้  3