พรีวิว Samsung Galaxy Note 7 สมุดโน้ตพกพาที่ดีที่สุดพร้อมใช้งานทุกขณะไม่กลัวน้ำ

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับสุดยอด Phablet เรือธงตัวใหม่จากแดนกิมจิกับ Samsung Galaxy Note 7 ซึ่งมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD, และความสามารถใหม่ๆ มากมายๆ ซึ่งมีที่เด่นๆ เลยคือ Iris Scanner หรือการสแกนม่านตา แน่นอนว่าทางทีมงานได้มีโอกาสจับเครื่องหลังจากจบงานเปิดตัวจึงนำพรีวิวตัวเครื่องมาให้ชมกันก่อนเช่นเคย

Join PDAMobiz on Telegram

Samsung Galaxy Note 7 Specs:
– หน้าจอ Super Amoled ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2K)
– Octa core (2.3GHz Quad + 1.6GHz Quad), 64 bit, 14 nm process
– Ram 4GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB
– รองรับ Micro SD Card หรือการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– กล้องหลัง: Dual Pixel 12MP OIS (F1.7), กล้องหน้า: 5MP (F1.7)
– LTE Cat 12
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), MIMO(2×2) 620Mbps,
– Bluetooth® v 4.2 LE, ANT+
– USB Type-C
– NFC
– กันน้ำมาตรฐาน IP68
– Iris Scanner (สแกนม่านตา)
– Fingerprint Scanner
– Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, HR Sensor, Iris Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor
– ขนาดตัวเครื่อง 153.5 x 73.9 x 7.9mm.
– น้ำหนัก 169 กรัม
– แบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับ Fast Wireless Charging
– Android 6.0.1 Marshmallow
– ราคา 28,900 บาท

ตัวเครื่องที่เราได้พรีวิวในงานเป็นสีดำ ซึ่งเอาจริงๆ พอเห็นครั้งแรกแล้วก็ตกใจเล็กๆ ว่าเออขนาดมันเล็กกว่าที่คิดเยอะและเอามาถือจับมือเดียวง่ายขึ้น แม้ว่าจอมันจะโค้งก็ตาม แต่มันก็โค้งไม่เท่ากับ Samsung Galaxy S7 Edge จึงไม่ทำให้การถือตัวเครื่องที่จอขนาดใหญ๋แบบนี้เป็นเรื่องยากเลย

ด้านหลังตัวเครื่องยังคงใช้กระจกครอบเช่นเคยซึ่งยังคงส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือง่ายอยู่ แต่ก็แลกกับความหรูหรากันไป อย่างไรก็ตามหลังเครื่องจะมีความโค้งเล็กๆ พอๆกับตัวหน้าจอด้านหน้าด้วย ทำให้มันสมดุลกันเวลาจับถือตัวเครื่องเลยถนัดมือทีเดียว

ด้านบนของหน้าจอจะมีรูเหมือนมีกล้องหน้า 3 ตัวแต่จริงๆ ไม่ใช่มันคือ Iris Scanner หรือการสแกนม่านตานั่นล่ะ ซึ่งจากที่ลองทดสอบในงานมาถือว่าทำงานได้รวดเร็ว และแม้จะใส่แว่นอยู่มันก็ยังสามารถรู้ได้ว่าเป็นเราหรือไม่ ทั้งนี้ในการสแกนค่าม่านตาครั้งแรกจะต้องถอดแว่นนะ

ด้านล่างหน้าจอยังคงรักษาปุ่มมาตรฐานของแบรนด์เอาไว้คือมีปุ่ม Recent Apps, Home, Back

ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F1.7 (Dual Pixel) ซึ่งการเข้าใช้งานกล้องทำได้รวดเร็วและโฟกัสเร็วดีมากเหมือนกับบน S7 เลยล่ะ

ด้านบนตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมอยู่ซึ่งเป็นถาดซิมแบบ Hybrid คือต้องเลือกเอาว่าจะใช้งาน 2 ซิมการ์ดหรือ 1 ซิมการ์ด + Micro SD และจุดอีกด้านคือลำโพงสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านข้างตัวเครื่องทางซ้ายยังคงมีปุ่มเพิ่มลดเสียงตามสไตล์ของแบรนด์ Samsung

ด้านขวามีปุ่ม Power ซึ่งจากที่ลองกดปุ่มดูเนี่ยมันไม่แข็งจนรู้สึกกดยากหรือนิ่มยวบจนกดง่ายเกินไป และด้วยขอบปุ่มมันมนๆ ฉะนั้นไม่รู้สึกบาดมือแน่ๆ

ด้านใต้ตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์ข้อมูลแบบ USB Type-C ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ในอนาคตน่าจะปรับมาใช้เจ้าพอร์ทนี้กันหมด, ประกบด้วยช่องเสียบหูฟังทางซ้ายและลำโพงทางขวา ส่วนปากกา S-Pen อันเลื่องลืออยู่ถัดไปจากลำโพง วิธีเอาปากกาออกมาก็แสนง่าย กดปุ๊บเด้งปั๊บพร้อมใช้งาน

ที่สำคัญเลยคือปากกา Galaxy Note 7 ใส่กลับด้านไม่ได้แล้วนะจ๊ะ เค้าแก้ไขมาพร้อมแล้ว

ลองถือตัวเครื่องดู เออใช้งานมือเดียวได้จริงๆ ไม่ต้องกังวลเลยล่ะ แต่มองๆ ไปแล้วอาจดูตัวเครื่องยาวๆ น่าจะเพราะขอบจอที่โค้งลงไปมันเลยดูหน้าจอบานน้อยลงล่ะมั้ง

ตัว S-Pen ใหม่ก็มีการปรับปุ่มไปอยู่ในจุดที่กดได้ถนัดมือยิ่งขึ้นโดยใช้นิ้วโป้งนั่นล่ะ โดยรวมจับแล้วก็ถนัดดี แต่ที่น่าสนใจคือหัวของปากกาที่เล็กลงเหลือ 0.7 มม. มันขนาดเดียวกันกับปากกาจริงๆ ที่เราใช้งานเลย ซึ่งจากการทดลองเล่นต้องบอกว่าปากกาเร็วขึ้น แม่นขึ้นและแยกแยะระดับน้ำหนักได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากกว่าก่อนจริงๆ ใครที่ใช้งานปากกาเป็นประจำน่าจะยิ่งหลงรักเจ้า Note 7 ได้ง่ายเลย

และจุดเด่นอีกเรื่องของปากกาเลยคือสามารถเขียนใต้น้ำได้ด้วย อ๊ะๆ ปกติมือถือลงน้ำเราจะกดอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ แต่พอเป็น Note 7 เราก็ใช้ปากกากดแทนนิ้วเราได้ละ

ในเบื้องต้นทาง Samsung ประเทศไทยจะนำสีหลักๆ คือทอง,ดำ, เงิน เข้ามาวางจำหน่ายก่อน ส่วนสีฟ้าจะตามมาทีหลัง

เปรียบเทียบให้เห็นกันทั้ง 3 สี ใครชอบสีไหนก็ลองกันดู

ลองเทียบขนาด Samsung Galaxy Note 7 (5.7 นิ้ว) กับ Galaxy S7 Edge (5.5 นิ้ว) ดูจะเห็นว่าโน้ตมีความสูงมากกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อุปกรณ์เสริมต่างๆ ในงานก็มีให้ได้เห็นกันทั้ง Fast Wireless Charging, เคสแบบต่างๆ ซึ่งมีเคสที่เป็น Power Bank ที่ใช้ชาร์จผ่านทาง Wireless ด้วย (ตอนนี้ยังไม่รู้ราคา) แต่จากที่ลองใส่ดูคือมันหนักพอสมควรเหมือนกัน

ลองให้น้องพริตตี้ถือ Galaxy Note 7 ดู พอเห็นสาวๆ ถือมันก็ดูใหญ๋ใช่ย่อยเหมือนกันนะ

ปิดท้ายการพรีวิว Samsung Galaxy Note 7 ด้วยตัวอย่างภาพถ่ายกัน โดยภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายจากโหมด Auto ทั้งหมดมิได้มีการตกแต่งใดๆ นอกจากการย่อขนาดและใส่ลายน้ำ

บอกก่อนเลยว่าแสงในงานก็มีเพียงพอประมาณไม่ได้สว่างอะไรมากเหมือนเราอยู่ในห้องแล้วมีไฟส่องจากด้านบนหรือจัดไฟไว้บางมุมนั่นล่ะ แต่อย่างน้อยก็พอจะให้เห็นภาพตัวอย่างได้คร่าวๆ ว่าตัวเครื่องสามารถทำงานได้ดีแค่ไหนภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว

ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้ากับโหมดหน้าสวยระดับ 8 คือเนียนได้อีก เนียนได้เนียนดี ฮ่าๆๆ

สำหรับการพรีวิว Samsung Galaxy Note 7 ก็คงหมดลงที่เท่านี้ถ้าใครมีคำถามอะไรก็คอมเม้นท์กันไว้ได้ครับ เรื่องไหนที่ทดสอบลองเล่นกันในงานไปแล้วเดี๋ยวจะมาตอบให้ครับ

Join PDAMobiz facebook Group