รีวิวแกะกล่อง iPhone 7 Plus สี Matte Black เครื่องศูนย์ไทย

iPhone 7 และ 7 Plus ก็ได้วางจำหน่ายในไทยเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2016 ซึ่งในครั้งนี้ Apple ได้เปิดตัวสีดำมาด้วยกันถึง 2 สี ได้แก่ Jet Black (ดำเงา) และ Matte Black (ดำด้าน) ซึ่งเป็นสีที่คลาสสิคและเป็นสีที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงตัวผมเช่นกัน แต่แน่นอนว่าพอเป็นสีใหม่ฉะนั้นกว่าจะหาเครื่องมาได้ในช่วงแรกก็ไม่ง่ายเลยเหมือนกัน แต่แล้วก็หา iPhone 7 Plus Matte Black มาจนได้ จึงมารีวิวแกะกล่องให้ได้ชมกันเช่นเคย

Join PDAMobiz on Telegram

Apple iPhone 7 Plus Specs:
– หน้าจอ LED-backlit IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (401ppi), 3D Touch display & home button
– Chipset Apple A10 Fusion: Quad-core 2.23 GHz
– Ram 3GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32/128/256GB
– กล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยเป็นเลนส์ระยะ 28มม. F1.8 พร้อม OIS และเลนส์ระยะ 56มม. F2.8 (2x optical zoom), และไฟแฟลช LED 4 ดวง, รองรับการถ่ายวิดีโอ 2160p@30fps, 1080p@30/60/120fps, 720p@240fps
– กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล F2.2 เลนส์ระยะ 32มม., รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps, 720p@240fps
– ลำโพงคู่สเตอริโอ
– กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
– พอร์ทหูฟังและสายชาร์จเป็นพอร์ทเดียวกันคือพอร์ท Lightning
– Fingerprint Scanner 2nd
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, hotspot
– Bluetooth 4.2
– แบตเตอรี่ขนาด 2,900mAh
– ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 77.9 x 7.3มม.
– น้ำหนัก 188 กรัม

iPhone 7 Plus ที่ผมได้มานั้นเป็นสีดำด้านหรือมีชื่อหรูๆ ในภาษาอังกฤษว่า Matte Black ซึ่งกล่องของสีนี้จะเป็นกล่องขาว เพื่อโชว์ตัวเครื่องด้านหลังสีดำด้าน

แกะกล่องออกมาต้องเจอ iPhone พร้อมอุปกรณ์ทั้งหลายดังนี้
– ตัวเครื่อง iPhone
– Adapter
– หูฟัง Earpods พอร์ท Lightning
– ตัวแปลงพอร์ท Lightning เป็น 3.5มม. (เพื่อเสียบหูฟังปกติ)
– สาย Lightning
– เข็มจิ้มซิม
– คู่มือ

Adapter จ่ายไฟของ 7 Plus ยังคงจ่ายไฟที่ 5W1A

หูฟังที่แถมมาในกล่องจะเป็นพอร์ทแบบ Lightning ซึ่งสามารถใช้เสียบตัวเครื่องได้ทันที แต่ถ้าใครจะใช้หูฟังอื่นก็มีแถมสายแปลงเป็น 3.5มม. มาให้เช่นกัน

ด้านหน้าตัวเครื่องสีดำด้านก็ต้องเป็นสีดำนี่ล่ะครับ แต่เป็นดำเงานะไม่ดำด้าน

เหนือหน้าจอ iPhone 7+ มีลำโพงสำหรับสนทนา (ใช้เป็นลำโพงคู่เวลาเปิดมัลติมีเดียด้วย) ขนาบด้วยกล่องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซลทางซ้ายมือ

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่ม Home กลมๆ ตามสไตล์ Apple แต่ปุ่มโฮมนี้เป็นแบบใหม่ซึ่งสามารถปรับระดับแรงกดได้ 3 ระดับ

ด้านหลังตัวเครื่องสีดำด้านหรือ Matte Black ที่ถึงจะบอกว่าดำด้านก็ยังเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายอยู่เช่นกัน

การวางตำแหน่งกล้องยังคงอยู่ที่เดิมคือซ้ายบนของด้านหลังเครื่อง ทว่าสำหรับ iPhone 7+ นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว โดยตัวทางซ้ายจะเป็นเลนส์ Wide 28มม. F1.8 และอีกตัวทางขวาจะเป็นเลนส์ Tele 56มม. F2.8

ด้านล่างหลังเครื่องก็บอกว่านี่คือ iPhone รุ่นอะไร ดีไซน์ที่ไหน ผลิตที่ไหนนั่นล่ะ

ด้านบนตัวเครื่องโล่งโจ้ง ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปิดเสียง(เข้าโหมดเงียบ (Silent Mode) อยู๋บนสุด ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง

ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดหน้าจอ/เครื่อง และมีช่องใส่ซิมอยู่

แน่นอนว่าซิมตัวเครื่องยังคงใช้ Nano Sim

ด้านล่างตัวเครื่องมีลำโพงอยู่ทางขวา ไมโครโฟนซ่อนทางซ้ายและพอร์ท Lightning พอร์ทเดียวใช้ทั้งชาร์จ/ซิงค์/ฟังเพลง

ลองถือตัวเครื่อง iPhone 7+ ดู ถือว่าขนาดค่อนข้างเต็มมือเลย ถ้ามือใหญ่ๆ ยังพอใช้งานมือเดียวได้สบายๆ

ลองเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง iPhone 7+ กับ Huawei P9+ ซึ่งมีขนาดหน้าจอเท่ากันดูจะเห็ฯว่า Apple มีความสูงมากกว่าเล็กน้อยนะ

ส่วนด้านหลังตัวเครื่อง การวางตำแหน่งกล้องค่อนข้างไปทางเดียวกันคือซ้ายบนของด้านหลัง เพียงแต่ iPhone จะชิดมุมมากกว่าของ Huawei

สำหรับการรีวิวแกะกล่อง iPhone 7 Plus ก็คงจบลงเท่านี้ล่ะครับ พึ่งได้เครื่องมาไม่นานเดี๋ยวขอหาเวลาไปถ่ายรูปก่อนแล้วตอนหน้าจะมารีวิวภาพถ่ายจากกล้องให้ได้ชมกัน

Join PDAMobiz facebook Group