เมื่อวันพุธที่ 5 ตุลาคม 2014 Belkin ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น Router, สายชาร์จ, Adapter และอื่นๆ อีกมากมาย ได้เชิญเหล่า Blogger และเว็บไซต์เข้าไปพูดคุยทักทายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับอุปกรณ์การชาร์จสมาร์ทโฟน (Charger) และ Bluetooth Keyboard ซึ่งผมก็ได้เก็บข้อมูลมาฝากกันครับ
อย่างที่เรารู้ๆ กันครับว่า Belkin เป็นผู้ผลิตสินค้าที่หลากหลายมากมาย ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงสินค้าของ Belkin ทั้งหมดนี่คงใช้เวลานานสุดๆ กันทีเดียว ฉะนั้นการพูดคุยกันในวันนี้ก็จะเน้นไปที่เฉพาะเรื่องของ Charger และ Bluetooth Keyboard ครับ ว่าทำไมต้องใช้ของ Belkin ล่ะ ?
เริ่มจากสินค้าตัวแรกที่จะคุยกันเป็นหลักในวันนี้เลยคือ Bluetooth Keyboard ที่ทาง Belkin สนใจที่จะลุยตลาดนี้ โดยได้ทำ Bluetooth Keyboard สำหรับ iPad ออกมาแล้ว ด้วยเหตุผลว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งาน iPad เพื่อทำงานเยอะขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับโดยปกติแล้วคนที่มี iPad ก็จะพกพาไปไหนมาไหนด้วยตลอด (แม้จะทำให้ต้องแบกของเพิ่มขึ้นก็ตาม) แต่ในการทำงานบน iPad นั้นยังมีการพิมพ์ที่ไม่สะดวกเท่าไหร่ ทำให้ Belkin ตัดสินใจทำ Bluetooth Keyboard เฉพาะสำหรับ iPad ออกมา ซึ่งก็คือภาพด้านบนที่เราได้เห็นไปนี่ล่ะ
เมื่อเอา Bluetooth Keyboard ของ Belkin ต่อกับ iPad แล้วต้องบอกว่าทำให้ iPad กลายเป็นเหมือน Laptop เล็กๆ เครื่องนึงไปทันที ทั้งยังสามารถตั้งใช้งานแบบ Laptop หรือจะวางแยกกันระหว่างคีบอร์ดกับ iPad ก็ได้ (แต่ต้องมี Dock เพิ่มนะ) ซึ่ง Belkin บอกว่า Keyboard ของเค้าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของอักษรใดๆ (จากบน Mac) ทั้งส้น ทำให้เวลาใช้งานคีบอร์ดของ Belkin นั้นจะให้ความคุ้นมือที่เราชินกันอยู่นั่นเอง แตกต่างจากหลายแบรนด์ที่สลับปุ่มโน่นนี่นั่นไปวางตรงอื่น
จากที่สัมผัสดูต้องบอกว่าตัวคีบอร์ดนั้นแข็งแรงพอดูเลยครับ และทำจากวัสดุอย่างดีเหมือนกับเราจับคีบอร์ดของ Mac เลย (ตัวที่สัมผัสนะ แต่ตัวที่จะวางขายก็จะมีหลายแบบและหลายราคาอีกเช่นกัน)
แน่นอนว่าจากภาพจะเห็นเลยว่าไม่มีภาษาไทยทำให้หลายๆ คนในงานถามขึ้นมาทันทีว่า มีสกรีนภาษาไทยมั้ย ? คำตอบก็คือไม่มีครับ เนื่องด้วยสินค้า Belkin ขายทั่วโลก ฉะนั้นจึงมีคำถามต่อว่า แล้วมีสติกเกอร์แปะมั้ย ? ทำให้ทาง Belkin จะนำกลับไปคิดครับ เพราะถึงแม้ตัวที่ขายจริงจะไม่มีภาษาไทย แต่หากมีสติกเกอร์ก็ยังซื้อมาแปะได้ สำหรับคนที่ยังพิมพ์สัมผัสไม่ได้
ต่อกันด้วยเรื่องของ Charger ครับ ว่าทำไมต้องใช้ Charger ของ Belkin ล่ะ ของแท้ก็มี หรือของก๊อปราคาถูกๆ ก็มีให้ใช้นี่นา ?
คำตอบคือ Charger ของ Belkin ทุกตัวจะมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า MOV ที่จะคอยควบคุมและป้องกันไฟกระชากครับ ทำให้หมดกังวลแม้จะชาร์จสมาร์ทโฟนของเราในรถยนต์หากใช้ Charger ของ Belkin ทั้งนี้ราคาก็จะสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้มานั้นสำหรับผมถือว่าคุ้มค่าครับ
แน่นอนว่าคุยกันเรื่อง Charger ก็จะต้องมีเรื่องของสายขาร์จเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในจุดนี้ทาง Belkin ได้ทำสายชาร์จหลายแบบและหลายขนาดครับคือ มีทั้งสายชาร์จแบบสั้นๆ แบบแค่เสียบ Power Bank ละวางมือถือไว้บน Power Bank ได้ หรือแบบยาวๆ สุดก็สัก 3 เมตรไปเลยก็มีครับ แน่นอนว่ามีทุกหัวไม่ว่าจะเป็น lighting, micro usb ยันแบบ 30pin ก็มีครับ
อีกเหตุผลที่ทำให้สายชาร์จของ Belkin น่าสนใจและน่าใช้กว่าแบรนด์อื่นคงหนีไม่พ้นวัสดุนั้นก็มีให้เลือกกันทั้งแบบพลาสติก, ผ้าและอลูมิเนียมครับ ซึ่งวัสดุที่ใช้มีความทนทานกว่าที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป (เคยได้ยินบางคนว่าสายชาร์จ Belkin ถึกกว่าของแท้อีก)
จากภาพข้างบนจะเห็นว่ามีสายรุ่นนึงที่เป็นได้ทั้งสาย Micro USB และ Lighting ด้วย เรียกว่าใครพกทั้ง iPhone และ Android เอาสายนี้ไปอันเดียวใช้ด้วยกันได้หมดเลยครับ และไม่ต้องกลัวตัวแปลงเป็นหัว Lighting จะหายไปไหนเพราะมันถูกล็อคเอาไว้กับสายเรียบร้อยแล้ว
ในงาน Belkin ยังเอา Dock มาให้สัมผัสอีกด้วยคัรบ เห็นอันเล็กๆ นี่บอกได้เลยว่าหนักมาก ประมาณว่าถ้าเดินเตะก็มีเจ็บขาล่ะ ซึ่ง Dock ก็มีทั้งของ iPhone, Android, iPad และ Tablet เลย และด้านหลังที่เสียบจะมีปุ่มไว้เลื่อนตัวเสียบเข้าออกให้ได้จุดที่เราต้องการด้วยครับ ซึ่งปกติ Dock อันอื่นจะไม่สามารถปรับตัวเสียบไปไหนได้เลย
นอกจากนี้ทาง Belkin ยังได้บอกอีกว่าได้ทำ Wireless Display สำหรับ Android, Windows Phone ด้วยครับซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยี Miracast ในเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านตัวแปลงใดๆ เลย หรือหากตัวเครื่องไม่มีก็ยังสามารถใช้วิธีคลาสสิคด้วยการเสียบสาย MHL แปลงเป็นช่อง Micro USB เพื่อต่อผ่านทางสายแทนก็ได้ครับ
สรุปข้อมูลคร่าวๆ ประมาณนี้หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ และหากมีอัพเดทเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้สมาชิกชาว PDAMobiz ได้ทราบแน่นอนครับ
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.