Motorola กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งโดยนำสมาร์ทโฟนราคาประหยัดสุดคุ้มค่ามาขายในไทยกับรุ่น Moto G4 Plus ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นแต่จัดเต็มในเรื่องสเปคตัวเครื่องพร้อมด้วยซอฟต์แวร์เพียวๆ ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลได้อีก และในส่วนของกล้องถ่ายรูปยังให้มาเต็มความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมค่ารูรับแสง F2.0 ฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าการถ่ายรูปแม้ในที่แสงน้อยก็ยังสามารถหวังพึ่งพาได้แน่นอน แต่จะดีแค่ไหนลองมาอ่านกันต่อดูครับ
Moto G4 Plus Specifications:
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
– Chipset Qualcomm MSM8952 Snapdragon 617 Octa-core (4×1.5 GHz Cortex-A53 & 4×1.2 GHz Cortex-A53)
– GPU Adreno 405
– Ram 3GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 พร้อมไฟแฟลช LED 2 ดวง, ถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ Full HD 30fps
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F2.2
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot
– Bluetooth 4.1
– A-GPS, GLONASS, BDS
– FM Radio
– Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมพร้อมกันแบบ 4G/3G
– แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
– Fast battery charging
– ขนาดตัวเครื่อง 153 x 76.6 x 9.8มม.
– น้ำหนัก 155 กรัม
– ราคา 8,900 บาท
1.แกะกล่อง
กล่องของ Moto G4 Plus เป็นกล่องขาวเผยให้เห้นด้านหน้าและด้านข้างเล็กน้อย แต่แอบมีแบรนด์แม่ Lenovo ติดป้ายชื่ออยู่ทางแถบซ้ายเพื่อให้รู้ว่าเป็นบริษัทในเครือนะ
ด้านหลังกล่องบอกสเปคเบาๆ
เปิดกล่องมาจะมีของในกล่องทั้งหมดดังนี้
– ตัวเครื่อง G4 Plus
– Adapter Fast Charge
– สาย Micro USB
– หูฟัง
– คู่มือการใช้งาน
Adapter ของ G4 Plus รองรับ Fast Charge แต่บนเต้าจะเขียนว่า Turbo Charge ครับ
หูฟังที่แถมเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่ in-ear
ด้านหน้าตัวเครื่องโล่งๆ มีปุ่มโผล่มาปุ่มนึงคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนปุ่มอื่นๆ ไปอยู่บนหน้าจอหมด
ด้านหลังตัวเครื่องเป็นลายตารางเล็กมาก ช่วยให้การจับถือไม่ลื่นหลุดมือ พร้อมโลโก้ Motorola เด่นชัด
ด้านบนตัวเครื่องมีลำโพงตัวเดียวใช้งานมันทั้งเป็นลำโพงโทรศัพท์และ Speaker ถูกขนาบด้วยเซ็นเซอร์ proximity และกล้องหน้า
ด้านล่างมีปุ่มสำหรับสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) ซึ่งกดไม่ได้นะ ไม่ใช่ปุ่มโฮม และมีไมโครโฟนสำหรับสนทนาอยู๋ใกล้ๆ
ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องหลังอยู่ตรงกลางพร้อมไฟแฟลช LED คู่
ด้านล่างของหลังตัวเครื่องโล่งมาก เพราะลำโพงไปใช้ตัวเดียวหมดนี่ล่ะ
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม.
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใดๆ
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มลดเสียง
ด้านล่างมีช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB และมีช่องให้งัดฝาหลังออกมาได้
ถึงจะบอกว่าแกะฝาหลังได้แต่ก็ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้
ถาดใส่ซิมเป็นแบบ Micro Sim ในตัวเครื่องเลยมีที่แปลงซิมนาโนให้พร้อมเลย แน่นอนว่าใช้งานได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกันและ Micro SD Card ได้
ที่เด็ดคือในส่วนของการใช้งานเครือข่ายนั้นจะจับสัญญาณที่ 4G/3G ไม่ใช่ 4G/2G ซึ่งนับว่าเป็น Dual Standby Dual Active
ลองถือตัวเครื่องดู ไม่ใหญ๋มากสำหรับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แต่ขอบบนล่างตัวเครื่องอาจจะดูเยอะไปหน่อยเครื่องเลยไม่ได้ดูกว้างมากนัก
ลองเทียบขนาดกับ Huawei P9 Plus ที่มีขนาดหน้าจอเท่ากันดู ต้องบอกว่าขนาดพอๆ กันเลยล่ะ
2.User Interface, Benchmark, GPS
User Interface ของ G4 Plus จะเป็นแบบ Pure Android หรือเหมือนกันกับบน Google Nexus Phone ทั้งหลาย กล่าวคือในเครื่องแทบจะไม่มีแอพพลิเคชั่นใดๆ ติดมาให้รกหูรกตา อยากใช้อะไรก็โหลดมาใส่ได้เลย ซึ่งข้อดีมากๆ ของมันเลยก็คือเครื่องจะลื่นมากเพราะไม่มีอะไรมากินแรงในการประมวลผล นอกเสียจากแอพที่เราจะโหลดมาเพิ่มนี่ล่ะ
Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอพ Benchmark ต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 46117
– Geekbench: Single Core 705, Multi-core 2945
– Quadrant Standard: 26565
– Multitouch: สูงสุด 10 จุด
GPS
ตอนที่ได้เครื่องมาทดสอบมีแผนจะไปเที่ยวพอดี จึงได้ทดสอบการ GPS ของตัวเครื่องไปด้วย ผลปรากฎว่าค่อนข้างแม่นยำและรวดเร็วดี ไม่พาผมหลงแม้จะไปในที่ๆ ไม่เคยไป (นอกจากมีคนไปลงจุดหมายไว้ผิดที่)
FM Radio
FM Radio เป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องการ คือมีติดเครื่องไว้ก็ดีเผื่อบางทีเราก็อยากฟังวิทยุบ้าง ซึ่งบนตัวเครื่อง Moto G4+ นั้นมีครับ แน่นอนว่าการใช้งานนั้นก็มีการใช้งานหูฟังเป็นตัวรับสัญญาณไป แต่แอพที่ให้มานั้นเจ๋งกว่านั้นคือไม่ต้องใช้หูฟังก็ได้ แต่ว่าสัญญาณมันจะแย่ๆ หน่อยนะครับ คงต้องลองหาที่โล่งๆ เปิดดู และยังมีฟีเจอร์อัดเสียงวิทยุได้อีกด้วยนะ เจ๋งมาก
3.กล้องถ่ายรูป
Moto G4 Plus มาพร้อมกล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสง (F) 2.0 ซึ่งถือว่ากว้างมากสำหรับสมาร์ทโฟนราคานี้ เมนูการใช้งานก็เรียบง่ายไม่มีอะไรมากนัก และโหมดถ่ายรูปก็มีไม่เยอะดังนี้
– Photo (Auto)
– Panorama
– HDR (อันนี้เลือกตั้งเอาว่าจะ Auto, On, Off)
– Slow Motion
– Professional Mode (ปรับระยะโฟกัส Macro – Landscape, White Balance, Shutter Speed (1/3200 – 1/5), ISO(100-3200) และ EV -2 ถึง +2)
– Video (รองรับที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p @30fps)
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ไร้โหมดถ่ายรูปใดๆ หน้าสงหน้าสวยไม่มี มีแต่ HDR ที่เลือกเปิดได้ว่าจะ Auto, On, Off
ต่อไปเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องในส่วนของโหมด Auto และเปิด Auto HDR ทุกภาพ ไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมนอกจากย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้น
กล้องหน้ากันบ้าง
โดยรวมแล้วก็ถือว่าถ่ายภาพออกมาได้ดูดีเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีค่าตัวเพียง 8,900 บาท แต่กล้องหน้าถ้าใครอยากได้โหมดหน้าสวยไปโหลดแอพเพิ่มเอานะ
4.การเล่นเกมส์
ทดสอบการเล่นเกมส์บน Moto G4+ ผ่านเกมส์ Kritika และ Pokemon Go พบว่าเล่นได้ดีไม่มีปัญหา อาจจะมีบางจังหวะเรนเดอร์ภาพไม่เนียนบ้างแต่ก็ไม่ได้ขัดใจอะไรนัก และสำหรับการเล่น Pokemon Go ต้องบอกว่าสามารถเล่นได้ทุกความสามารถเพราะมี Gyroscope เซ็นเซอร์ช่วยในการจับทิศทาง คือถ้าจะเปิดกล้องจับโปเกมอนก็ทำได้แหละ แต่บางรุ่นมันไม่มีตรงนี้นะเพราะว่าไม่มีเซ็นเซอร์ที่ว่ามา
สรุุป
ข้อดี
– หน้าจอใหญ่ สีสันสวยงาม ความละเอียดสูงถึง FHD
– ไม่มีแอพฯ ติดตั้งมาให้รกเครื่อง
– Ram 3GB เยอะเหลือเฟือ
– GPS ค่อนข้างแม่นยำ
– กล้องถ่ายรูปดีระดับหาคู่แข่งในราคาเดียวกันเปรียบเทียบได้ยาก
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่องเยอะ
– รองรับการใช้งาน 4G/3G พร้อมกัน
ข้อเสีย
– ไม่มีฟีเจอร์อะไรให้เล่น
You must be logged in to post a comment.