ใครที่เป็นนักวิ่ง หรือวิ่งออกกำลังกาย เป็นประจำอยู่แล้วในช่วงนี้ หรือยังก็ตามที ยังมีเวลาที่จะเข้าร่วมโครงการ #TeamUnicef ช่วยน้องๆ ได้ ด้วยการวิ่งหรือการเดิน โดยการจับระยะทางผ่าน แอปต่างๆ เช่น Strava, Nike+, Runkeeper, Runtastics และ Mapmyrun แต่วันนี้ผมมีเทริคง่ายๆ ที่ช่วยให้คนที่มีอุปกรณ์วิ่งอยู่แล้วสำหรับสองยี่ห้ออย่าง Garmin และ Fitbit หรือยี่ห้ออื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปเหล่านี้ได้อยู่แล้ว เพื่อช่วยให้การวิ่งช่วยน้องๆ กับ #TeamUnicef ง่ายขึ้น โดยากรวิ่งครั้งนี้หมดเขตในวันที่ 18 กันยายน ดังนั้นยังมีเวลาอีกเกือบเดือนนะ
เป็นทริคง่ายๆ สำหรับคนใช้งาน Garmin และ Fitbit ซึ่งผมเองใช้งานอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นเลยมีทริคสำหรับคนใช้งานสองยี่ห้อนี้ ล่ะครับ จริงๆ เคล็บไม่ลับเลยก็คือ การซิงค์ข้ามแอปนั่นเอง โดยปกติแล้ว สองค่ายนี้จะรองรับแอปที่สามารถส่งข้อมูลออกไปยังแอปต่างๆ ที่เราเคยใช้งานหรือลงทะเบียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ ผมเชื่อเลยว่าก่อนหน้าที่จะคิดซื้ออุปกรณ์แทรคการวิ่งหรือการออกกำลังกายของเรา ทุกคนจะต้องมีแอปใช้งานอย่างน้อย 1 แอป ก็ต้องถือ Smartphone ติดตัวไปด้วยระหว่างการออกกำลังกาย ในที่นี้ผมก็คงหมายถึงการวิ่งนั่นล่ะ ซึ่งพอไปๆ ก็อยากได้ความสะดวก หรืออยากจะได้ข้อมูลมากขึ้น ก็จะไปหาอุปกรณ์ต่างๆ มาเพิ่มเติม สำหรับผมก็คือ #Forerunner235 และ #FitbitSurge ณ ปัจจุบันนี้
สำหรับ #Teamunicef หมดเขต 18 กันยายน ผมเห็นว่ายังมีเวลา เลยมาบอกเป็นบทความสั้นๆ เผื่อใครที่ยังไม่รู้ และมีบรรดา Garmin หรือ Fitbit ในข้อมืออยู่แล้ว จะได้สะดวกมากขึ้น
บน Unicef กดเข้าไปที่ MyApplication และอย่าลืมกด VALIDATE ด้านล่างเพื่อตกลงซิงค์ข้อมูลนะครับ
เริ่มด้วย Strava แอปสำหรับนักวิ่งและนักปั่น
เริ่มจาก Garmin ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ เราต้องเชื่อมต่อกับ Garmin Connect ซึ่งทุกคนที่ใช้งานคงมีแอคเค้าท์อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? ถ้ายังล่ะก็ลงทะเบียนสมัครเลย ส่วนคนที่สมัครเรียบร้อยแล้ว จริงๆ แล้วแอปที่แนะนำให้ซิงค์กับ Garmin ก็คือ Strava ซึ่งก็ไม่แน่ใจส่วนใหญ่ได้ใช้งานกันหรือเปล่า ง่ายๆ เลยก็เข้าไปบนเว็บ Strava จากนั้นก็ login ปกติ แล้วเข้าไปที่ Upload Device ตามลิงค์นี้ https://www.strava.com/upload/device จากนั้นก็เลือก Connect อุปกรณ์ หรือยี่ห้อที่เราใช้งานได้เลย ซึ่งหลักๆ คือ Garmin และยังมี Fitbit ด้วย
ส่วนใครที่ใช้ Fitbit ก็กด strava.fitbit.com/ เพื่อเชื่อมต่อได้เช่นเดียวกัน ง่ายมากๆ โดยอุปกรณ์ที่ผมมีคือสองยี่ห้อนี้นะครับ ส่วนอื่นๆ นั้นลองกดตามลิงค์ในหน้าลิงค์ตามภาพเลย เพราะเชื่อมอต่อได้ทั้ง SUUNTO, POLAR, TOMTOM ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนก็ใช้งานแตกต่างกันตามความชอบ ซึ่งผมขอยกยอดไม่บอกวิธีการนะครับ บางยี่ห้อก็ต้องเข้า login ของตัวเองแล้วไปกดเชื่อมต่อกันอีกทีนึง
Runkeeper แอปสำหรับนักวิ่ง
ซึ่งแรกๆ ผมก็ใช้เจ้านี่เป็นหลัก เพราะค้นหาจาก google play store ล่ะครับ เห็นชื่อว่า run ก็เก็บมาใช้งานตั้งแต่เริ่มวิ่งแรกๆ เมื่อสองปีที่แล้ว ก็เก็บข้อมูลเรื่อยๆ มา แอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับ Fitbit ได้อย่างเดียวเลย โดยไป log in ตามปกติบนหน้าเว็บ => ไปที่ Account Setting => เลือกที่ Apps จากนั้นก็กด Connect Fitbit ซะให้เรียบร้อย จบครับ ง่ายมาก
Runtastics
ผมว่าแอปนี้ก็มีจำนวนคนใช้งานไม่น้อยเลย log in ใช้งานบนหน้าเว็บตามปกติ เข้าไปที่ setting=> Devices และกด connect กับ Fitbit ล่ะครับ ส่วนตัวผมก็ใช้งานเพราะมีคนจำนวนนึงที่เป็นเพื่อนๆ กันใช้งาน
Nike+ แอปตัวโปรด
สำหรับแอปนี้เป็นแอปตัวโปรดผมเพราะน่าจะมีเพื่อนมากที่สุดแล้ว และมีการ Challange กันในวงอย่างเยอะเลย ก็เลยติดไปโดยปริยาย ซึ่งการเชื่อมต่อสามารถใช้งานได้กับ Garmin อย่างเดียว วิธีการคือเข้าไปที่แอปบนมือถือ แล้วกดไปที่ Account Settings => Partners => เลือก Garmin ครับ พอดีผมเข้าหน้า setting บนเว็บไม่ได้นะครับ เลยต้องทำบนมือถือแทน
ส่วนแอปสุดท้ายผมไม่ได้ใช้งานก็เลยไม่แน่ใจว่าซิงค์กับอะไรได้นะครับ ไม่ได้ลองด้วย ขอข้ามไปเลยก็แล้วกัน
ทั้งหมดนี้ก็น่าจะพอช่วยให้คนที่รักการออกกำลังกาย หรืออยากจะหันมาออกกำลังกาย ได้ประโยชน์ทั้งตัวเอง และยังช่วยน้องๆ ในโครงการของ #TeamUNICEF ได้อีกด้วย จำนวนเงินอาจจะไม่มากมายนัก ถ้ามีกำลังก็บริจาคต่อเดือนได้ โดยในแคมเปญจ์นี้มีให้เลือกบริจาคต่อเดือน และได้คะแนน 450 คะแนนด้วยนะครับ ใครที่อยากบริจาคโดยไม่ได้วิ่งล่ะก็ ทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ Team UNICEF Champion certificate. ซึ่งต้องได้คะแนนมากกว่า 1,000 คะแนนขึ้นไป ดังนั้นถ้าอยากได้ล่ะก็ต้องออกวิ่งกันล่ะ
You must be logged in to post a comment.