รีวิว Sony Action CAM FDR-X3000R ลุยทุกสถานการณ์มันส์ๆ ภาคแนะนำ

ช่วงนี้ได้เล่นเจ้า Action Cam หลายยี่ห้อ หลายแบรนด์ แต่สุดท้ายเรื่องกล้อง Sony ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกคุณภาพอยู่ดี Sony ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเลนส์ที่ Smartphone เลือกใช้ และชื่อเสียงทางด้านกล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ในด้านกล้องถ่ายวีดีโอก็เช่นเดียวกัน และมาถึงยุคของ Action Cam ทาง Sony ก็ออกเวอร์ชั่นต่อยอดของ Action Cam เป็นปีที่ 2 ด้วยรุ่น FDR-X3000R และ HDR-AS300R ด้วยเทคโนโลยีของกล้องแบบ 4K (ในรุ่น FDR-X300R) พร้อมเลนส์ ZEISS Tessar มาพร้อมกับ Live-View Remote (RM-LVR3) ช่วยให้เรามองภาพแบบสดๆ ได้เลย วันนี้ผมขอจับเอา FDR-X3000R มารีวิวให้ชมก็แล้วกันนะครับ มือสั่นไปหมดแล้ว

Join PDAMobiz on Telegram

กล้อง Action Cam ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึง Gopro กันใช่ไหมล่ะ หรือไม่ก็บรรดากล้อง Action Cam ต่างๆ ที่มีรีวิวกันในเว็บ ซึ่งคนละอารมณ์กันเลย สำหรับ Action Cam จากค่าย Sony ที่ให้ความแตกต่างของการใช้งาน จากบรรดา Action Cam ทั่วๆ ไป ไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพของเลนส์ หรือภาพถ่ายหรือวีดีโอเพียงเท่านั้น ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ใช้งานเสริมที่เติมเต็มการใช้งานได้อย่างลงตัว โดย FDR-X3000R สนนราคาอยู่ที่ 21,990 บาท ถามผมว่าแพงไหม ก็ต้องบอกเลยว่าแพงตามสไตล์ของ Sony แต่ถ้าเป็นคนที่รักจะใช้ Sony ผมว่ายอมจ่ายได้ ด้วยคุณภาพราคา และความพึงพอใจที่ได้ แบบว่าอวยเต็มเหยียด ฮาา สเปคเต็มๆ ดูที่ลิงค์นี้นะครับ

ด้วยความเป็นกล้อง Action Cam ที่มีรูปร่างไม่เหมือนใคร Sony ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกในการถือ รูปร่างคล้ายกล้องวีดีโอ แต่ถูกย่อส่วนลงมา น้ำหนักเบา ให้พกพาสะดวก รวมถึงติดตั้งยังอุปกรณ์ต่างๆ เช่นจักรยาน มอเตอร์ไซด์ได้ด้วย มาพร้อมกับ Cover หรือเคสกันน้ำ ไม่ต้องกลัวเรื่องเปียกฝนอีกต่างหาก ซึ่งจริงๆ Action Cam ทุกรุ่นควรมี และปกติก็เป็นสัญลักษณ์ของ Action CAM อยู่แล้ว

แพ็กเกจกล่องขนาดใหญ่ใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวกล่องมีบอกรายละเอียดฟีเจอร์ต่างๆ ไว้ครบ ในกล่องมีแถมอุปกรณ์มาพร้อมใช้งานไม่ว่าจะเป็น Live View พร้อม สายรัดข้อมือ อุปกรณ์สำหรับชาร์จต่างๆ

อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในกล่อง สำคัญหน่อยก็ตัว Live View Remote พร้อมสายรัดข้อมือ และที่ชาร์จ ซึ่งมี dock แยกมาให้ด้วย

มาดูตัวกล้องกันดีกว่า

จุดเด่นก็คือเลนส์นี่ล่ะ ZEISS ที่มาพร้อมกับกันสั่นไหว Balanced Optical SteadyShot ถ้าดูจากวีดีโอจะเห็นว่าภาพสมูทและสั่นน้อยมาก แถมรองรับ 4K อีกต่างหาก แต่ทว่าการอัดวีดีโอแบบ 4K ตัวกล้องจะร้อนและแบตหมดไว้กว่าปกตินะ เพราะการใช้พลังงานและประสิทธิภาพกล้องแบบเต็มสูบ เลยทำให้เกิดความร้อนและแบตหมดไวนั่นเอง ดังนั้นแนะนำให้ใช้ 1080P จะดีกว่า แค่นั้นก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วๆ ไปแล้วล่ะ ไฟล์ไม่ใหญ่ ไม่เปลืองที่เก็บด้วย

ด้านบนมีปุ่มอัด หรือ Enter กรณีที่อยู่ในโหมดเมนู ส่วนปุ่ม ปิด เปิด จะบุ๋มลงไป อันนี้คือช่วยในเวลาใช้งานจะได้ไม่โดนปุ่มปิด หรือเปิด โดยไม่ตั้งใจ แต่ปุ่มอัดต้องนูนออกมา เพื่อง่ายต่อการใช้งานนั่นเอง

ด้านข้าง มีปุ่ม Menu โดยสามารถอัดได้ทั้งวีดีโอ ถ่ายภาพนิ่งก็ได้ มี Slowmotion mode อีก ยังไม่พอ ยังแถม Live Streaming ได้ด้วยนะ แต่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น ใน Social ต่างๆ แต่ไม่สามารถ Live ผ่าน facebook บน Mobile ได้ด้วยตัวเอง และรองรับ NFC อีกด้วย ใช้จับคู่ได้ง่ายๆ ถ้าหากใช้ Smartphone ของ Sony ด้วยก็จะลงตัว มีหน้าจอแสดงผล ซึ่งเอาไว้แสดงเมนูเท่านั้น ไม่ได้แสดงภาพวีดีโอพรีวิว ซึ่งหากอยากดู พรีวิวหรือ Live ก็ต้องดูที่หน้าจอแยกที่แถมมาให้นั่นเอง

ด้านล่างเป็นที่ใส่ micro SD และ ช่องสำหรับใส่ขายึดตัวกล้องมาตรฐาน

ตรงฝาด้านหลัง จริงๆ ออกแบบมาเป็นสวิทช์เลื่อนขึ้นลงสำหรับล็อคฝาด้วย แน่นหนาดีนะ

ตรงส่วนนี้จะเป็นแบต และเจ้าแบตนี่ล่ะที่คงต้องหาซื้อสำรองเอาไว้ได้ก็จะดีมาก แบตหมดปุ๊ปเปลี่ยนและใช้งานต่อได้ทันที

ด้านข้างจะมีพอร์ทต่างๆ อยู่ครบ HDMI สำหรับต่อออกจอใหญ่ได้เลย Micro USB สำหรับ ชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และช่องเสียบไมค์ งานนี้ไม่ได้ใช้งานเป็น Action CAM ทั่วๆ ไป บางทีอาจจะเอาไปทำกล้องวีดีโอเพื่อสัมภาษณ์ หรือทำรายการเลยก็ได้นะ เพราะยังไงซะฟีเจอร์นึงก็คือ Live Streaming ก็ใช้ไมค์นอกต่อเพิ่มได้ด้วย เพื่อเพิ่มความคมชัด

มาดูตัว case หรือ cover ที่แถมมาให้กันครับ

พอใส่เคสกันน้ำแล้วดูใหญ่ขึ้นมาหน่อย ตัวเคสที่แถมให้มีฟังก์ชั่นล็อคปุ่มด้วยนะ กรณีถ่ายวีดีโอ เผื่อไปโดนปุ่มกดหยุดอะไรแบบนี้ อันนี้กดล็อคได้ด้วย หาไม่ได้กับ Action CAM ทั่วๆ ไป

การปกป้อง 100% กันน้ำได้ลึก 60 เมตร จะลงไปลึกแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว ไว้มีตัวอย่างคลิปถ่ายใต้น้ำมาฝากด้วยนะ

ถ้าไม่เห็นขนาดจริงๆ อาจจะนึกว่ากล้องวีดีโอระดับโปรเลยนะเนี่ย

ส่วนของด้านล่างเคสมีตัวล็อคเอาไว้แน่นหนาเช่นกัน

ปลดล็อคก็ไม่ยากครับ

ตัวรีโมท Live View สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบนะ ได้ทั้งใส่บนข้อมือ หรือบนขาตั้งกล้องก็ได้

แต่ขาตั้งกล้องไม่มีแถมให้ในชุดนะครับ ต้องซื้อเพิ่ม

เวลาใช้งานก็ประกอบกับขาตั้งกล้องได้ หรือจะเอา Live View แยกออกมาก็ได้ ส่วน Live View ก็จะมีปุ่มกดเหมือนกับบนตัว Action CAM เลย แต่อาจจะต้องตั้งค่าการใช้งานเริ่มแรก จับคู่กันก่อนนะครับ

ปกติที่แถมให้ก็คือ Live View Remote พร้อมกับสายรัดข้อมือนี่ล่ะครับ

ถอดใช้งานแยกก็ได้สะดวกดี

ใช้งานร่วมกับขาตั้ง (ต้องซื้อเพิ่ม) ก็ได้ด้วยนะ อย่างที่บอกเลยครับว่า Live View Remote มีประโยชน์กับการใช้งานทุกสถานการณ์จริงๆ

สรุปกันสักนิด
เจ้า Action CAM จาก Sony รุ่น FDR-X300R ผมว่าตอบโจทย์คนที่ชอบทั้งประสิทธิภาพและราคาโดนๆ เทคโนโลยีของ Sony จัดเต็ม ทั้งกันสั่น ทั้งเลนส์ ทั้งการใช้งานต่างๆ ครบถ้วน แต่เท่าที่ใช้งานคือ แบตเตอรี่ อาจจะต้องเตรียมสำรองเอาไว้นิดนึง ยิ่งถ้าถ่ายความละเอียดแบบ 4K ด้วยแล้วยิ่งหมดไว ถ้าถ่ายปกติ อยู่ได้หลายชั่วโมงนะ การเชื่อมต่อต่างๆ ของ FDR-X3000R ก็มีครบถ้วน ทั้ง Bluetooth, Wi-Fi เชื่อมต่อกับแอพได้ (ซึ่งจะรีวิวเพิ่มในตอนหน้า) เก็บภาพได้กว้างสมใจ ผมว่าแฟนๆ Sony น่าจะชอบล่ะครับ
เท่าที่ใช้งานดู ยืดหยุ่นพอสมควร เนื่องจากเจ้า Live View Remote ที่สามารถถอดแยกใช้งานได้ ใช้งานคนเดียวก็ได้ด้วย อ้อ ใครสนใจ งาน Photo Fair ที่ไบเทค บางนา ที่จะจัดขึ้นในวันพุธนี้มีให้ลองเล่นด้วยนะ ลองแวะเวียนไปดูกันได้ที่บูธ Sony

เอาไว้ตอนหน้า มารีวิวการใช้งานกันจริงๆ พร้อมภาพถ่าย และตัวอย่างวีดีโอกันครับ

ขอบคุณ Sony Thailand ที่ให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบนะครับผม