Huawei Thailand ได้จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันทีเดียวถึง 4 รุ่น ประกอบด้วย Huawei Mate 9, Mate 9 Pro, Mate 9 Porsche Design และน้องเล็ก Huawei GR5 2017 ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมกับกล้องคู่ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพของทุกคนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ทางทีมงานเองก็ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย จึงได้เก็บภาพพรีวิวตัวเครื่องทุกรุ่นมาฝากกันเช่นเคย
Huawei Mate 9 Series: Phablet เรือธงซีรีส์ล่าสุดที่ทางหัวเว่ยพัฒนาออกมาซึ่งได้ปล่อยมาทีเดียว 3 รุ่นได้แก่ Mate 9, Mate 9 Pro และรุ่นพิเศษสุด Mate 9 Porsche Design ซึ่งทุกรุ่นจะมาพร้อมกับชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด Kirin 960 พร้อมเทคโนโลยี SuperCharge ที่ชาร์จเพียง 20 นาทีก็สามารถใช้งานได้ทั้งวันแล้ว แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมกล้องคู่ที่พัฒนาร่วมกันกับ Leica แต่เป็นเจเนอเรชั่นที่สอง ซึ่งได้เปลี่ยนเซ็นเซอร์ Monochrome จาก 12 ล้านพิกเซลเป็น 20 ล้านพิกเซล ทั้งยังใส่ระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) มาอีกด้วย พร้อมด้วยระบบโฟกัส 4 ระบบที่จะทำให้การถ่ายภาพทุกภาพนั้นง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เริ่มต้นพรีวิวตัวเครื่องจากรุ่นแรกที่วางจำหน่ายกันวันที่ 8 ธันวาคม 2016 ในบ้านเราก่อนกับ Mate 9 ที่ราคา 23,900 บาท โดยตัวเครื่องจะมาพร้อมหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB และ Ram 4GB และหน้าจอตัวเครื่องจะมีขนาด 5.9 นิ้ว
ด้านหลังตัวเครื่องกล้องจะมาอยู่ตรงกลางแตกต่างกับ P9 ที่อยู่ริมขอบเครื่อง ทั้งสองด้านขนาบด้วยแฟลชและ Laser Focus ส่วนด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าอยู่ทางขวา
ใต้หน้าจอไม่มีปุ่มใดๆ เพราะใช้ on-screen button
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม.
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องไว้จิ้มถาดซิมออกมา
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มลดเสียง
ด้านล่างมีลำโพงตัวเครื่องพร้อมไมโครโฟนอยู่
ถึงจะบอกว่าตัวเครื่องขนาดใหญ่ 5.9 นิ้วแต่ด้วยขอบจอที่บางมากประกอบกับด้านหลังตัวเครื่องโค้ง ทำให้การจับถือเวลาใช้งานถนัดกว่าเครื่องเหลี่ยมๆ จนผมลองดูแล้วรู้สึกว่าการใช้งานมือเดียวกับ Mate 9 ไม่ใช่ปัญหาเลย
ต่อไปเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจาก Mate 9
Huawei Mate 9 Pro
Mate 9 Pro จะมาพร้อมหน้าจอ QHD ขนาด 5.5 นิ้วแทน และตัวเครื่องจะมีหน่วยความจำภายใน 128GB Ram 6GB ส่วนราคานั้น 27,900 บาทซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายราวๆ กลางเดือนมกราคม 2017 โดยตัวเครื่องจะโค้งมนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เหนือหน้าจอยังคงวางตำแหน่งกล้องไว้ทางขวาเช่นกัน
สำหรับตัว Mate 9 Pro จะเปลี่ยนมาใช้ปุ่ม Home แทนการใช้ on-screen button ซึ่งปุ่ม Home นี้ใช้การสัมผัสเอาได้ และเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย
การวางตำแหน่งกล้องยังคงอยุ่ตรงกลาง แต่ว่าตัวไฟแฟลชไปอยู่เหนือกล้องแทนและ Laser Focus อยู่ด้านล่าง
ช่องเสียบถาดซิมยังคงอยู่ทางซ้าย
ฉะนั้นปุ่ม Power ต้องอยู่ทางขวามือกับปุ่มเพิ่มลดเสียง
ช่องเสียบหูฟังถูกย้ายมาอยู่ด้านล่างข้างไมโครโฟนแทน ใกล้ๆ กับไมโครโฟนสนทนา
รุ่นลิมิเต็ดสุดหรูสำหรับ Mate 9 Series ได้แก่รุ่น Porsche Design ซึ่งจะมีหน้าตาคล้ายกับตัว Pro ทว่าลายและสีของตัวเครื่องจะเป็นสีเฉพาะซึ่งแสงในงานมันฟ้าๆ ม่วงๆ ผมเลยบอกไม่ถูกว่ามันดำหรือน้ำเงินกันแน่ แต่ที่แน่ๆ มันสวยอะ
ทั้งนี้ตัวเครื่องจะมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 256GB Ram 6GB ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 49,900 บาท ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงกลางเดือนมกราคม 2017 เช่นกัน
ภาพรวมตัวเครื่องและการจัดวางปุ่มจะเหมือนกับตัว Pro แต่ลายตัวเครื่องนั้นแตกต่างมาก
มีสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่านี่คือ Porsche Design พร้อมลายฝาหลังที่แตกต่าง
ปิดท้ายการพรีวิวตัวเครื่องด้วยน้องเล็กรุ่นสุดท้าย Huawei GR5 2017 ที่มีค่าตัวเพียง 8,900 บาท แต่ยังคงมาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลกับ 0.2 ล้านพิกเซลที่ทำงานร่วมกันเพื่อจับโฟกัสใน 0.3 วินาที และยังถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้อีกตะหาก ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
หน้าจอตัวเครื่องนั้นมีขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด FHD มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB (ซึ่งจะแถม Micro SD ให้อีก 32GB) Ram 3GB และแบตใหญ่ถึง 3,340mAh
รุ่นเล็ก จอใหญ่ ภาพสวยคมชัด เหมาะมือดี
เหนือหน้าจะยังคงวางกล้องหน้าไว้ทางขวาของลำโพงสนทนา
กล้องหลังวางไว้ตรงกลางเช่นเดียวกันกับ Mate 9 แต่ตัวนี้จะมีเพียงไฟแฟลชดวงเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามยังคงใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ครบครัน
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน
ถาดใส่ซิมยังรอให้จิ้มออกทางซ้าย
ปุ่ม Power และเพิ่มลดเสียงทางขวาเช่นเดิม
ด้านล่างนี่ไมค์ฝั่ง ลำโพงฝั่งนะ
ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei GR5 2017 บ้าง แสงน้อย แสงม่วงจะเป็นอย่างไร
สำหรับการพรีวิวตัวเครื่อง Huawei Mate 9 Series และ GR5 2017 ก็หมดลงเท่านี้ครับ ในโอกาสต่อไปถ้าได้เครื่องมาก็จะรีวิวให้อ่านกันต่อเช่นเคยแน่นอน
You must be logged in to post a comment.