Review alcatel POP 4 Plus สมาร์ทโฟน 4G ครบเครื่องลงตัว ทั้งราคาและฟีเจอร์ในสไตล์ POP !!!

รับชมรีวิวรุ่นพี่ในรุ่น alcatel POP 4 https://goo.gl/Qgc0HD ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ราคาเบา ลงตัว ทั้งถ่ายรูป ทั้งฟังเพลง กันไปแล้ว วันนี้มาพบกันต่อกับรุ่น Plus ที่ได้ทำการขยายหน้อจอให้ใหญ่เต็มตาและเพิ่มประสิทธิภาพความแรงขึ้นมาอีกนิด ในราคาที่ยังจับต้องได้ สำหรับจุดเด่นของซีรีย์ POP นั้นต้องบอกว่าให้ความครบเครื่องจริง ๆ ครับ ทั้งดีไซน์ที่มีความสดใสและรองรับการเปลี่ยนฝาหลังได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานที่เน้นความเรียบง่าย แต่ก็สามารถตอบโจทย์ครบทุกการใช้งานของชีวิตประจำวัน หากชื่นชอบและประทับใจกับ POP 4 มาแล้ว เชื่อว่า alcatel POP 4 Plus ก็จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

Join PDAMobiz on Telegram

มาดูสเปคเบื้องต้นของ alcatel POP 4 Plus กันก่อนรับชมการแกะกล่องและรีวิวครับ

● หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8909 Snapdragon 210 Quad-core 1.1 GHz Cortex-A7
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 304
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16GB รองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card 32GB
● แรม : 1.5GB
● จอแสดงผล : ขนาด 5.5 ความละเอียด HD IPS 1280 x 720 pixels (~401 ppi pixel density) Full Lamination, Oleophobic coating
● การเชื่อมต่อ รองรับ 2G, 3G, 4G LTE
● GSM Quadband 850/900/1800/1900
● UMTS Quadband 1/2/5/8
● FDD LTE 4G LTE Cat 4 , B1/3/7/8/20/28A
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด Micro SIM + Micro SIM (Dual SIM Dual Standby)
● การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth 4.0 , FM radio
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0, autofocus, LED flash
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง (84°) + LED flash
● ระบบปฏิบัติการ Android™ 6.0 (Marshmallow)
● ขนาดตัวเครื่อง 151 x 77 x 7.99 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก 156 กรัม
● แบตเตอรี่ 2500mAh

ตัวฝาหลังสามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีให้เลือกใช้งานหลากหลายสีสัน

ราคาวางจำหน่าย 4,490 บาท

สเปคแบบละเอียดรับชมได้จากที่นี่ครับ >>> https://goo.gl/sKWV8q

Packaging & Accessories

รูปทรงและการดีไซน์กล่องของ alcatel POP 4 Plus จะยังคงใช้สไตล์เดียวกับรุ่น POP 4 เพียงแต่ตัวกล่องจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อย

ด้านข้างกล่องพิมพ์บอกสเปคเบื้องต้นรวมไปถึงฟีเจอร์เด่นของ alcatel POP 4 Plus มาให้อ่านกันพอสังเขป

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ alcatel POP 4 Plus จะประกอบไปด้วย

1.คู่มือการใช้งานอย่างย่อและใบรับประกันสินค้า

2. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ แบบขากลม ให้ Output มาที่ 1A + สาย Micro USB สำหรับซิงค์ข้อมูลและชาร์จไฟ

3. ชุดหูฟังสมอลทอร์คแบบ “เอียร์บัด”

Design & Hardware

ดีไซน์โดยรวมของ alcatel POP 4 Plus ยังคงมีกลิ่นอายของรุ่นพี่ POP 4 อยู่บ้าง คือเน้นความโค้งมนของมุมทั้ง 4 ด้าน พร้อมตัดขอบข้างให้มีความเป็นเหลี่ยมสันเล็กน้อยเพื่อความกลมกลืน สำหรับด้านหน้าจะมีโทนสีให้เลือกใช้ทั้งสีขาวและดำ ส่วนด้านหลังนั้นรองรับการเปลี่ยนฝาหลังได้หลากหลายสีสันตามสไตล์ของซีรีย์ POP ตรงนี้ตอบโจทย์หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความแอคทีพ โดยไม่ติดอยู่ในกรอบเดิม ๆ

ตัววัสดุหลักโดยรวมจะเป็นโพลีคาร์บอเนตหรือพลาสติกนั่นเอง แต่ทาง alcatel เลือกใช้วัสดุเกรดคุณภาพ ที่นอกจากจะดูพรีเมี่ยมแล้วยังมีความแข็งแรงทนทาน ในด้านงานประกอบของตัวเครื่องก็แน่นหนาดูเรียบร้อยดีมากครับ

ในส่วนของ Handle การจับถือพกพา ด้วยดีไซน์โค้งมนของตัวฝาหลัง จึงทำให้มีความกระชับรับกับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี ตัวขอบจอก็ไม่ถือว่าหนาจนเกินไป สรุปด้วยวัสดุที่ไม่ได้เป็น glossy ทำให้ไม่ลื่น การจับถือใช้งานค่อนข้างกระชับถนัดมือดีพอสมควรเลยครับ

ขยายจอให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเติมเต็มการใช้งานทั้งด้านความบันเทิงและการใช้งานทั่ว ๆ ไป

alcatel POP 4 Plus เลือกใช้จอแสดงผล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พิเซล และยังมาพร้อมฟีเจอร์ Full Lamination ที่ให้สีสัน คอนทราสต์ ความคมชัด ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดตรงฟีเจอร์ Oleophobic coating ที่ช่วยให้จอของเราไม่เก็บรอยนิ้วมือได้โดยง่าย สามารถใช้งานกันแบบสบาย ๆ ใจ ไม่ต้องวิตกกังวลในเรื่องทำความสะอาดหน้าจอบ่อย ๆ

การจัดวางเลย์เอาท์ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย ไฟแจ้งเตือน LED Notification, กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมเลนส์มุมกว้างถึง 84º เก็บภาพได้กว้างครอบคลุมเพื่อน ๆ หรือวิวด้านหลังได้อย่างสบาย ๆ ถัดมาคือชุดเซ็นเซอร์ Proximity sensor และ Light sensor, สำหรับลำโพงสนทนาจะมีตะแกรงโลหะปิดทับไว้ดูแข็งแรงและสวยงาม สุดท้ายจะเป็นไฟแฟลชกล้องหน้า ที่ตอบโจทย์คอเซลฟี่ได้ทุกสถานการณ์ โดยไม่หวั่นแม้ในที่แสงน้อย

สามปุ่มนำทางจะเป็นแบบ Capacitive Buttons ที่ออกแบบดีไซน์ได้ไม่เหมือนใคร โดยตัวปุ่มนั้นจะมีไฟแบ็คไลท์มาให้ใช้งาน ถ้าอยู่ในโหมดสแตนบายไฟที่ปุ่มจะดับไปและจะซ่อนปุ่ม Recent และปุ่ม Back ในแผงสัมผัส เมื่อมีการใช้งานตัวปุ่มก็จะติดขึ้นมา ตรงนี้นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ

ด้านบนของตัวเครื่อง จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวนรวมถึงเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย

ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย พอร์ต Micro USB สำหรับซิงค์ข้อมูลและชาร์จไฟ โดยมีไมค์สนทนาอยู่ข้าง ๆ สำหรับร่องบากเพื่อใช้ในการแกะถอดฝาหลังจะอยู่ที่มุมอีกด้านครับ

ทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะเรียบ ๆ โล่ง ๆ ไม่มีปุ่มกดหรือพอร์ตการเชื่อมต่อใด ๆ

ทางฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ซึ่งเลือกใช้วัสดุรวมไปถึงโทนสีเดียวกันกับตัวฝาหลังครับ

ตัวฝาหลังนั้นมีแบบและสีสันให้เลือกเปลี่ยนใช้งานได้อย่างหลากหลายตามสไตล์ของซีรีย์ POP ครับ ส่วนตัวฝาหลังที่ผมได้มารีวิวรอบนี้เป็นสีขาว ที่ให้พื้นผิวสัมผัสแบบด้าน ไม่เก็บรอยนิ้วมือ แต่ก็เปื้อนง่ายไปหน่อย แต่ก็ตามที่เกริ่นไปว่ามีฝาหลังหลากหลายสีสันให้เลือกเปลี่ยนได้ตามใจชอบในภายหลังครับ

สำหรับกล้องหลักด้านหลังจะมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 จึงช่วยในเรื่องการถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีพอประมาณ ตัวเลนส์นั้นนูนออกมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย และมีเส้นกรอบโลหะล้อมคาดเอาไว้ ถัดลงมาจะเป็นที่อยู่ของไฟแฟลช LED และตามด้วยโลโก้ alcatel ที่ดูโดดเด่นเป็นสง่า

ลำโพงมีเดีย หรือลำโพงหลักจะจัดวางอยู่ด้านล่าง โดยมีชื่อซีรีย์แปะไว้ที่ด้านบน สำหรับคุณภาพของลำโพงนั้นต้องบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ ทั้งระดับความดัง และให้ซุ้มเสียงที่ทรงพลัง พร้อมด้วยระบบเสียง HiFi จึงช่วยเพิ่มอรรถรสในด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ได้เป็นอย่างดีเลยครับ

แกะฝาหลังสำรวจภายในกันต่อครับ

เมื่อถอดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่ซิมการ์ดและหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ที่จัดวางตำแหน่งอยู่ทางด้านข้างของตัวเครื่อง สำหรับชนิดของซิมจะเป็นแบบ Micro sim ทั้งซิม 1-2 ส่วนตัวหน่วยความจำภายนอกนั้นรองรับได้สูงสุดที่ 32GB สุดท้ายตัวแบตเตอรี่จะไม่สามารถถอดเปลี่ยนออกมาได้เองนะครับ

สำหรับการสำรวจทางด้าน Hardware ภายนอกของ alcatel POP 4 Plus ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ

Software & Features

alcatel POP 4 Plus เปิดตัวมาพร้อมกับ Android™ 6.0 Marshmallow ตัว User Interface หรือ Launcher มีการปรับแต่งมาจาก AOSP ทำให้หน้าตาในส่วนของ Home หลักและไอคอน จะมีความเป็นโมเดิร์นขึ้นในสไตล์ของ alcatel นอกจากนี้ยังชูจุดเด่นในเรื่องการแจ้งเตือนอีกด้วย ซึ่งรอมจีนจากหลาย ๆ แบรนด์มักจะมีปัญหาตรงนี้ แต่ของ alcatel นั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเลยครับ

บนหน้าโฮมเมื่อปัดจากซ้ายมาขวาจะเป็นหน้า onetouch STREAM ที่แสดงพยากรณ์อากาศและข่าวสารต่าง ๆ และรวมไปถึง Featured Wallpapers ที่เราสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานและติดตั้งได้ในทันที

ในส่วนของหน้า App Drawer จะจัดเรียงไอคอนในรูปแบบลิสต์เรียงตามรายชื่อ สำหรับแอพพลิเคชั่นที่ถูกบันเดิลมา จะมีทั้งโซเชียลยอดนิยม เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และเกมรวมไปถึง 3rd party บางส่วนของค่าย Alcatel ตรงนี้ถือว่าเพียงพอและพร้อมใช้งานทันทีหลังจากแกะกล่องออกมา

การจัดการด้านซิมการ์ดจะไม่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟน 2 ซิมทั่วไปในท้องตลาด สำหรับการเชื่อมต่อ 4G LTE จะเป็น Dual Standby คือสั่งแอคทีฟได้ 1 ซิม ส่วนอีกซิมจะทำงานในโหมด 2G ครับ ความเร็วในการเชื่อมต่อ 4G LTE รองรับ Cat 4 ดาวน์โหลดที่ความเร็ว 150 Mbps และอัพโหลดที่ 50 Mbps

แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดจะมาพร้อมกับ Keyboard TouchPal 2015

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ alcatel POP 4 Plus จะประกอบไปด้วย ฟีเจอร์ Gestures ที่ถึงแม้ว่าจะไม่จัดเต็มเหมือนพวก ROM จีน แต่หลัก ๆ จะเป็นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จริงและใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวันนั้นเอง เช่น การเคาะบนหน้าจอสองครั้ง เพื่อเปิดหน้าจอหรือล็อคหน้าจอ หรือการพลิกหน้าจอเพื่อปิดสายที่เรียกเข้ามาหรือเพื่อใช้ในการเลื่อนการปลุกเป็นต้น

อีกหนึ่งฟีเจอร์ก็คือการปรับรูปแบบการแสดงผลหน้าจอให้ตรงกับสไตล์ของผู้ใช้งาน เช่นบางคนชอบสีหน้าจอแบบสดใส หรือบางคนอาจจะชอบความเป็นธรรมชาติให้สีที่ตรงกับตาเห็นก็สามารถปรับแต่งได้ที่ Screen mode สุดท้าย ฟีเจอร์ล็อคหน้าจอของทางค่าย Alcatel จะมีชื่อเรียกว่า Func โดยเราสามารถกำหนดแอพและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ให้แสดงในหน้าล็อคสกรีนได้ตามที่ต้องการ

Color Catcher เป็นแอพที่ดึงลวดลายจากภาพถ่ายในเครื่อง หรือจะถ่ายสด ๆ จากกล้องก็ย่อมได้ จากนั้นตัวแอพจะแปลงรูปถ่ายให้เป็นธีมในสไตล์ของเราที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ดูเก๋ไก๋ POP กันสุด ๆ ไม่มีเบื่อ ด้วยธีมที่ปรับเปลี่ยนได้แบบไร้ขีดจำกัด

การจัดสรรพลังงาน ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 2500mAh ถ้าเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป ก็เพียงพอใช้จนครบวันได้สบาย ๆ หากใช้งานหนัก ๆ ก็อาจจะต้องพึ่งโหมดประหยัดพลังงานกันบ้าง โดยเมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงานจะมีการแจ้งเตือนด้วยแถบสีส้มบน Notification Bar ครับ

Multimedia

Onetouch Music ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของทางค่าย alcatel โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้งานอันเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสะดวกสบาย เช่นการเรียกตัวแอพได้ทั้งจากหน้าจอล็อคสกรีน รวมไปถึงการคอนโทรลการเล่นเพลงโดยที่ไม่ต้องเสียเวลามาปลดล็อคแต่อย่างใด

นอกจากนี้ในหน้า Home หลัก เราสามารถแตะที่ตัวแอพแล้วรัน Onetouch Music ได้ในทันที โดยไม่ต้องเข้าสู่โหมดเรียกใช้งานเริ่มต้นเหมือนตามปรกติ อธิบายให้เห็นภาพเหมือนการเรียกใช้งานผ่านทาง Widget นั่นเอง ซึ่งตรงนี้เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดีเลยครับ

สุดท้ายมี วิทยุเอฟเอ็มมาให้ใช้งานกันด้วย โดยเป็นแบบทศนิยมสองจุด รูปร่างหน้าตาสวยงาม ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ถือว่าครบเครื่องนะ แต่ไม่สามารถบันทึกไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้เท่านั้น ส่วนภาครับสัญญาณจัดว่าชัดเจนใช้ได้เลยครับ

Performance

สำหรับชิปเซ็ต Snapdragon 210 MSM8909 ถึงแม้จะเน้นในเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่ในการใช้งานทั่ว ๆ ไป ก็ไม่ช้าหรือหน่วงให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด แถมการที่ alcatel POP 4 Plus ให้แรมเพิ่มจากตัวรุ่นพี่ POP 4 มาเป็น 1.5 GB ก็ช่วยให้การใช้งานนั้นยิ่งลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ส่วนภาครับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่จับสัญญาณได้ค่อนข้างไวดีครับ

Camera & Sample

เมนู Inter face กล้องยังคงเหมือนกับ POP 4 โดยมีโหมดมาให้ใช้งาน 5 โหมด ประกอบไปด้วย Auto, HDR, Pano, Scanner และ Face beauty ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

โหมด Face beauty ปรับสกินโทนและพื้นผิวในรูปแบบของสเกลไล่ระดับ

การปรับตั้งค่าของกล้องนั้นค่อนข้างจะเบสิคครับ เพราะคอนเซ็ปต์กล้องนั้นจะเน้นการใช้งานให้โหมด Auto เป็นหลัก สำหรับการบันทึกวีดีโอนั้นรองรับความละเอียดสูงสุดที่ HD 720P

จากนี้มาดูรูปถ่ายจากกล้องของ alcatel POP 4 Plus กันได้เลยครับ โดยเพื่อน ๆ สามารถคลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพในขนาดใหญ่

มาลองทดสอบโหมด HDR กันดูบ้าง

HDR OFF

HDR ON

Auto Mode Flash On

Auto Mode Flash Off

คุณภาพกล้องของ alcatel POP 4 Plus อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ถ้าเอาไปใช้งานบนโซเชี่ยลต่าง ๆ ก็ถือว่าเพียงพออยู่นะ และมีจุดเด่นตามจุดขายคือตอบโจทย์การถ่ายในที่แสงน้อยด้วย ด้วยค่ารูรับแสงที่มาพร้อมกับ f/2.0 แต่ในการใช้งานจริง การโฟกัสและการบันทึกยังไม่เร็วปรู๊ดปราด และภาพยังมีติดอันเดอร์ในบางครั้ง แต่เชื่อว่าถ้ามีเฟิร์มแวร์อัพเดตก็น่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นกว่านี้ครับ

กล้องหน้าให้ความละเอียดมา 5 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชมาช่วยเสริมจุดอ่อนในที่แสงน้อย ตรงนี้น่าจะถูกใจคอเซลฟี่ได้เป็นอย่างดี สำหรับคุณภาพกล้องหน้า ทำได้ดีสมราคาค่าตัว และมีโหมดบิ้วตี้ที่ปรับแต่งการใช้งานได้ในระดับหนึ่ง

สรุป alcatel POP 4 Plus

หากจะบอกว่า alcatel POP 4 Plus คือรุ่นที่จับ POP 4 มาขยายหน้าจอ และเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาอีกนิดก็ย่อมได้ครับ เพราะโดยฟีเจอร์และจุดขายหลัก ๆ ของตัว POP 4 Plus กับ POP 4 นั้นจะไม่แตกต่างกันมากนัก

โดยผมขอสรุปให้ฟังกันอีกรอบหนึ่งนะครับ alcatel POP 4 Plus นั้นมาพร้อมจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 นิ้ว ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานทั่วไปและด้านความบันเทิงได้เป็นอย่างดี เมื่อบวกกับคุณภาพของลำโพงที่มาพร้อมระบบเสียง HiFi จึงเพิ่มอรรถรสในด้านเอนเตอร์เทนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง นอกจากด้านความบันเทิงในส่วนของดีไซน์นั้นก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยการรองรับฝาหลังที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ เหมาะกับคนยุคใหม่ สไตล์ POP ที่ชื่นชอบความสดใส และแอคทีฟไม่หยุดนิ่งไปกับข้อจำกัดเดิม ๆ

พูดถึงคุณภาพกล้อง แม้จะไม่ขยับความละเอียดเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพโดยรวมยังถือว่าทำได้ดีสมราคาค่าตัว จุดขายหลักก็คือกล้องหน้าที่มาพร้อมเลนส์มุมกว้างและมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ได้ทุกทีทุกเวลา โดยไม่ต้องกังวลแม้ในที่แสงน้อย

ปิดท้ายกันไปด้วยเรื่อง Software ที่ใช้ในการขับเคลื่อน alcatel POP 4 Plus เปิดตัวมาพร้อมกับ Android™ 6.0 Marshmallow และมี RAM มาให้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 GB จึงทำให้การใช้งานในภาพรวม มีความสมูทลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับตัว Firmware ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Base ROM ของ AOSP นั่นเอง ส่วนฝั่งซอฟท์แวร์และฟีเจอร์นั้นไม่แตกต่างไปจาก POP 4 ครับ คือมีแอพ Onetouch Music และ Color Catcher เป็นตัวชูโรงเหมือนเช่นเคย

สรุปส่งท้าย alcatel POP 4 Plus เป็นเบสิคโฟน 4G สองซิม มีจอแสดงผลที่สวยงามและมีขนาดกำลังดีที่ 5.5 นิ้ว สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครันทั้งด้านการทำงานและความบันเทิง หากมองหาสมาร์ทโฟน 4G จอใหญ่ ๆ ใช้งานง่าย ในราคาที่ไม่เกินเอื้อม alcatel POP 4 Plus ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับผม

บทความนี้เป็นบทความ advertorial