หรือจะเถึยง? – Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ เปิดราคาแพง!

Samsung Galaxy S8

วันนี้ขอเกาะประเด็นกันนิดนึง อาจจะดราม่าเล็กๆ แต่ก็คงไม่ใช่หรอกครับ ด้วยการเปิดราคาของ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ ที่ราคา 27,900 บาท และ 30,900 บาท ตามลำดับ ซึ่งในความรู้สึกทั่วๆ ไปต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันแน่นอนว่า แพง! แน่นอนถ้าดูจากราคาเปิดตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่วันนี้ หรือจะเถียง! ขอจับเอาเจ้า Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ มาแกะดูรายละเอียดกันหน่อย ทั้งเทียบกับ Galaxy S7 edge รวมถึง Huawei P10 Plus และไม่พลาด iPhone 7 Plus

หรือจะเถียง! ว่าแพง? ถ้าดูแต่ราคาอย่างเดียว ก็แน่นอนครับ Samsung Galaxy S8 ที่ราคา 27,900 บาท  และ Galaxy  S8+ ราคา 30,900 บาท เงินสามหมื่นบาท นี่ง่ายๆ เลยว่าเทียบกับระดับ Apple iPhone เลย อย่างที่รู้กันว่า Samsung กับ Apple เป็นคู่แข่งอย่างเป็นทางการ มีประเด็นทั้งเรื่องสิทธิบัตร การแข่งขันกันด้านการตลาด และอีกเพียบ แต่ก็อย่าลืมว่าฝั่ง Android อย่าง Huawei เองก็กำลังพุ่งแรงเหมือนกัน ดังนั้นผมขอจับมาเปรียบเทียบ กับแต่ละแบรนด์ รวมถึงกับแบรนด์ตัวเองด้วยก็แล้วกันครับ มาดูกันว่า จะเถียง หรือไม่เถียงดี?

ก่อนไปเทียบกับแบรนด์อื่นๆ มาดูเลยว่าราคาของ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+  ถือว่าแพงไหม?

S8-S8 Plus

เรามาคิดกันง่ายๆ ครับ เค้าไม่ได้ขายเครื่องเปล่าๆ หากเราคิดทางด้านอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราตับต้องได้ ไม่นับรวมซอฟท์แวร์ภายในเครื่องที่ล้ำสมัยจนหาใครเทียบยาก ณ ขณะนี้แล้ว ซึ่งของแถมทั้งหมด ไม่ว่าจะมีอะไรบ้าง ก็คืตีมูลค่ามาแล้ว 6,950 บาท ถือว่าแถมเยอะเลยทีเดียว มาดูราคาของแถมแต่ละชิ้นกันหน่อย

อ่านหรือยัง =>  สิ้นสุดการรอคอย! เผยราคา Galaxy S8/S8+ พร้อมของแถม Premium Set มูลค่า 6,950 บาท !!

– Stand Wireless Charger (Micro USB Cable) + Clear Cover สีดำ ฟิล์มกันรอยด้านหน้า 2 ชิ้น มูลค่า 3,260 บาท  โดยเฉพาะ Wireless Charger เช็คจาก Lazada หาซื้อได้ถูกที่สุด 990 บาท ซึ่งจริงๆ มีหลายราคา เฉลี่ยแล้วราคาประมาณ 1,590 บาท ดังนั้น Clear Cover สีดำ ก็ราคาประมาณ 1,000 บาท (จากเว็บ Samsung)  ฟิล์มกันรอย ไม่ได้บอกว่ากระจกหรือไม่ แต่ถ้าเป็นกระจกก็ตีให้สัก 1,000 บาท ของแถมที่บอกว่าราคา 3,260 บาท นั้น ใกล้เคียงกับการหาซื้อข้างนอกเอง ซึ่งการที่เราได้ของแถมมาด้วยเลยสะดวกกว่ามากนะครับ แต่ถ้าเทียบว่าเราไม่ได้ใช้สิ่งใดสิ่งนึง ก็เริ่มจะไม่คุ้ม ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่ ได้ของแถมมาไม่ใช้ก็จำหน่ายออก ก็แค่นั้นเอง ถือว่าเอามาถัวต้นทุนตัวเครื่อง หรือจะเถียง?
– Level Box Slim มูลค่า 3,190 บ   ลำโพง Blutooth ที่เสียงแจ่มๆ ก็หาไม่ได้ง่ายๆ ด้วยราคาระดับนี้ เช่นกัน ลองๆ หาดูแล้ว อย่างมากก็ได้ราคาสองพันปลายๆ เท่านั้น ได้มาไม่ใช้ ผมซื้อต่อนะ ฮา
– คูปองส่วนลดมูลค่า 500 บาท จาก 11street ส่วนคูปองส่วนลดมูลค่า 500 บาทนี่ จริงๆ ก็ดี แต่ทว่า มันทำให้เราต้องไปเสียตังค์ต่อ แต่จะเสียตังค์ต่อเรื่องอะไรก็แล้วแต่เราเลย จริงๆ ทาง Samsung ควรจะเป็นคูปองสำหรับเลือกซื้อสินค้า Samsung ในราคาพิเศษจะดีกว่า อาทิเช่น Samsung Dex station ที่น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า หรือไม่ก็เป็นบรรดา Galaxy Gift หรือ Privilege ของ Samsung เองที่มีอยู่เพียบเลย 

ของแถมตรงส่วนนี้ถือว่าคุ้มกับมูลค่าเคลมหรือเปล่า ผมว่าก็ใกล้เคียงนะ ไหนๆ ก็แถมมาแล้ว หากไม่ได้ใช้จริงๆ ล่ะก็ จำหน่ายจ่ายแจก ขายเพื่อนๆ หรือไม่ก็ ลงขายในเว็บ PDAMobiz.com ก็ได้นะคร้าบ 

ถ้าสรุปเบื้องต้นล่ะก็ สำหรับคนที่ไม่ต้องการของแถมเหล่านี้เลย ซึ่งจริงๆ แล้วยังไงก็ต้องไปซื้อเพิ่ม เชื่อสิ เช่น ฟิล์มกันรอย หรือไม่ก็ cover อันนี้เป็นหลักๆ ที่เราต้องใช้งานอยู่แล้ว ส่วนอื่นๆ หากมองว่าไม่จำเป็นตีกลับมาเป็นเงินล่ะก็ อาจจะสัก 4,000 บาท ได้ ซึ่งหากคิดจาก Galaxy S8+ ก็จะเหลือตัวเครื่องจริงๆ 26,900 บาท ซึ่งเป็นราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S7 edge พอดิบพอดี คงไม่ต้องบอวก่าถ้าคนชอบของแถม ยังไงราคา 30,900 บาทก็คุ้มครับ ยังไม่จบมาต่อกันอีกหน่อย

เทียบกับ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge 

Unbox-Samsung-Galaxy-S7-edge-021

เมื่อตอนเปิดตัว Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge เปิดตัวในราคา 23,900 บาท และ 26,900 บาท ซึ่งหากเทียบกันแล้ว แพงกว่า? แน่นอนว่าสเปคเรือธงนั้น ทาง Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ มีสเปคที่สูงกว่าตามยุคสมัย แต่เรื่องของความจุที่ต้องบอกว่าเพิ่มขึ้น ดังนั้นการขึ้นราคาของ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ อีก 4,000 บาท ถ้าเทียบกับรุ่นเรือธงเมื่อปีที่แล้วล่ะก็ ถือว่าแพงใช้ได้เลยล่ะ เพราะยังไงก็ตามเทรนด์ของพื้นที่ภายใน ขนาด 32GB ก็กลายเป็นเครื่องที่อยู่ในระดับกลาง ยังไงเครื่องระดับเรือธงก็ต้องมีพื้นที่ภายใน 64GB หรืออาจจะมีรุ่น 32GB ก็ได้แต่ก็ต้องมีราคาค่าตัวถูกกว่านี้ ซึ่งราคานี้ คงไม่เอามาเทียบกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ อัดมาให้เพียบเลย เอาไว้จะมาเหลาเรื่องการเลือก เรือธงของค่ายนี้ระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อีกรอบก็แล้วกัน แต่สรุปว่า ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ ถือว่าแพง? แต่ก็ยังไม่แน่ เพราะว่าหลังจากนี้ Samsung อาจจะปล่อยรุ่นที่มีความจุภายใน 32GB ออกมาทีหลัง ตามข่าวที่ว่าจะมี Galaxy S8 mini ออกมานั่นเอง

อ่านหรือยัง => How to: ย้ายเครื่องมาใช้ Samsung Galaxy S7 edge ง่ายๆ ด้วย Smart Switch mobile

เทียบกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus

iPhone 7 red store TH

สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ซึ่งเปิดตัวมาราคาคือ (Product) Red ซึ่งมีราคาค่าตัว 30,500  และ  35,500 บาท ที่ความจุ 128 GB คงไม่ต้องบอกว่าเป็นความแตกต่างของระบบ ชอบอันไหนใช้อันนั้น แต่สำหรับ Samsung แล้วมอง Apple เป็นคู่แข่งมาตั้งแต่ต้น ชนได้เป็นชน ซึ่งงานนี้อีกเหตุผลนึงที่ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ เปิดราคามาแตะ 30,900 บาท ก็คงหนีไม่พ้นจะมาชนกับ Apple นั่นเอง ซึ่งเทียบชั้นในสินค้าเกรดเดียวกัน ซึ่งหากเทียบกับ iPhone 7 Plus (Product) Red แล้ว ก็ยังถือว่าราคาถูกกว่า? ก็ไม่เชิงนะ เพราะ (Product) Red มีความจุ 128GB ในขณะที่ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ มีความจุอยู่ที่ 64GB เท่านั้น หากมีความจุดหรือพื้นที่ใช้งานระดับเดียวกันล่ะก็ ไม่แน่ว่า Samsung เองอาจจะกำหนดราคาเท่ากับ Apple เลยก็ได้

iphone7-gallery1

Apple iPhone 7 และ  iPhone 7 (Product) Red ความจุ 128GB  ราคา 30,500 บาท   เทียบกับ Samsung Galaxy S8 ความจุ 64GB ราคา 27,900 บาท

มีเรื่องของความต่างตรงความจุใช้งาน ชัดเจนในรุ่น iPhone 7 รุ่นปกติ คิดง่ายๆ เลยคือ ต่างกันตรงความจุภายในที่ให้มา Apple มากกว่า 64GB โดยมีราคาต่างกันที่ 2,600 บาท ถ้าเทียบกับ Apple แล้ว Samsung ก็ถือว่าราคาระดับเดียวกัน หากมีรุ่นความจุดเท่ากันออกมาที่ 128 GB ก็ไม่แน่ว่า Samsung อาจจะแพงกว่าก็ได้ แต่เนื่องจาก ความจุเริ่มต้นของ Apple อยู่ที่ 32 GB ซึ่งมีราคาที่ 26,500 บาท หากคิดว่าใครจ่ายตังค์ถูกกว่าในการได้เครื่องรุ่นใหม่ของแบรนด์ตัวเองก็ต้องเป็น Apple แต่ก็ได้ความจุมา 32GB ถ้าจะใช้รุ่นใหม่เรือธงของ Samsung ก็ต้องจ่ายถึง 27,900 บาท ในที่นี้ขอยกเอาเรื่องฟีเจอร์ และประเด็นอื่นๆ ออกไป เพราะหากเอามารวบด้วย ก็ต้องบอกเลยว่า Samsung มีฟีเจอร์ให้เล่นเยอะกว่า ก็อาจจะมองว่าไม่แพงก็ได้เช่นกัน ทางฝั่ง Apple ก็จะบอกว่าระบบดีกว่าเสถียรกว่า และอื่นๆ อีก ก็ได้เช่นกัน ทุกคนล้วนแต่มีเหตุผลของตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่ชี้ให้เห็นเลยก็คือ ราคาที่จ่ายออกกระเป๋าก้อนแรกได้ครอบครองเรือธงของ Apple ได้ง่ายกว่า หรือจะเถียง?

อ่านหรือยัง => ม้วนเดียวจบ! สรุปโปรโมชั่น iPhone 7 และ 7 Plus สีแดง (PRODUCT) RED จาก AIS, dtac ,TrueMove H

Apple iPhone 7 Plus ความจุ 32GB ราคา 31,500 บาท   และ iPhone 7 Plus (Product) Red 128 GB ราคา 35,500 บาทเทียบกับ Samsung Galaxy S8+ ความจุ 64GB ราคา 30,900 บาท

แต่ถ้าหากเทียบกับ iPhone 7 Plus อันนี้ชัดเจนมาก เพราะความจุของ Apple iPhone 7 Plus 128GB มากกว่า Samsung Galaxy S8+ 64GB ในขณะที่ จ่ายตังค์ต่างกันถึง 4,600 บาท ค่าความต่างเรื่องความจุดูแล้วอาจจะไม่คุ้ม แต่ถ้าเทียบกับรุ่น iPhone 7 Plus 32GB ล่ะก็  Samsung Galaxy S8+ 64GB ถูกขึ้นมาในทันที ในขณะที่จ่ายถูกกว่า 600 บาทอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเพียบเรือธงที่เป็นเรือธงจริงๆ ก็ต้องเป็นรุ่น Plus ซึ่งบอกเลยว่า Samsung ถูกกว่าอย่างแน่นอน หรือจะเถียง?

 

เทียบกับ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus

huawei-p10-and-p10-plus-preview-cover

อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้ Huawei กำลังวิ่งมาหายใจรดต้นคอ Samsung แต่การเปิดราคาในครั้งนี้ Samsung ยังไม่เห็น Huawei เป็นคู่แข่ง เพราะราคาของ Huawei P10 ความจุ 32 GB เริ่มต้นที่ 17,900 บาท เท่านั้น และ Huawei P 10 Plus อยู่ที่ 23,900 บาท ซึ่งชัดเจน ดังนั้นการเปรียบเทียบด้านราคาเปิดตัวก็คงเป็นแค่ปัจจัยนึงในการเลือกซื้อเท่านั้นนะครับ

อ่านหรือยัง => ชน! เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S8+ และ Huawei P10 Pus

หากเทียบกันด้านราคา Huawei P10 ความจุ 32 GB เริ่มต้นที่ 17,900 บาท เราก็ได้เรือธงรุ่นประหยัดมาครอบครอบแล้ว ในขณะที่ Samsung Galaxy S8 ความจุ 64GB ราคา 27,900 บาท จ่ายต่างกันถึง 10,000 บาทเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าความจุจะมากขึ้นแต่ ผมเชื่อเลยว่า 32GB กับเงิน 10,000 บาทคงไม่คุ้มอย่างแน่นอน แต่สำหรับ Huawei P10 ความจุ 64 GB ที่ความจุดเท่ากัน อยุ่ที่ราคา 19,900 บาท ก็ยังถูกกว่า 8,000 บาท หากเทียบในแง่สเปค ก็ไม่หนีกันมาก CPU ตัวใหม่ ความจุ หรือ RAM ก็เรียกว่าเท่ากันก็ว่าได้ อาจจะความต่างแต่ก็ไม่มากนัก กับเงินที่ต่างกันถึง 8,000 บาท ยังไงซะ Huawei ก็ยังถูกกว่า และคุ้มค่ากว่าในแง่ของการใช้งาน เพราะอย่าลืมว่าปัจจุบันเราซื้อมา มักจะใช้งานฟีเจอร์ที่มีไม่ถึง 50% เสียด้วยซ้ำ บางคนซื้อมาเพื่อใช้งานกล้องเพียงอย่างเดียวก็มี  และถ้าเป็นรุ่น Huawei P10 Plus ที่ราคา 23,900 บาท ก็ชัดเจน เพราะ Samsung Galaxy S8+ ความจุ 64GB ราคา 30,900 บาท ต่างกัน 7,000 บาท ก็คงไม่ต้องบอกว่า เงินก้อนแรกที่จ่ายออกจากกระเป๋าตังค์ของใครได้ใจกว่า หรือจะเถียง?

แต่เดี๋ยวก่อน มีเรื่องของแถมครับ ที่ Samsung แถมมาให้เคลมมูลค่า 6,950 บาท ซึ่งอย่างที่แจกแจงไปด้านบน แต่ถ้าเป็น Huawei ล่ะก็แถมก็ 4,580 บาทนะ มี Case 2,590 บาท และชุด Camera box set 1,990  บาท ดังนั้น Samsung ใจกว่า Huawei อยู่หลายตังค์เลย ยังไม่รวมในกล่องที่ Samsung มีหูฟัง AKG เสียงดีๆ แบบพรีเมี่ยมมาให้ด้วย ซึ่งมูลค่าก็ 3,xxx บาทแล้ว จะว่าไป เรื่องของแถมนี่ Samsung ไม่เป็นรองใคร หรือจะเถียง?

อ่านยัง? => ม้วนเดียวจบ ! รวมโปรโมชั่น Huawei P10 – P10 Plus จาก 3 ค่ายโอเปอร์เรเตอร์ AIS, TrueMove H, dtac และ ตัวแทนจำหน่าย !!

แต่ทั้งหมดนี้ จะโฟกัสเฉพาะราคาเปิดตัวเท่านั้น หากนับเรื่องอื่นๆ ด้วยผมว่า ไม่จบแน่นอน เพราะแต่ละแบรนด์ แต่ละค่าย ก็มีจุดดีของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ตอนนี้อยู่ที่ว่ากระเป๋าเราหนักแค่ไหน แล้วเราจ่ายได้เท่าไหร่ ซื้อแล้วคุ้มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้นครับ ถ้าในมุมผู้ผลิตก็คงบอกว่าออกมาคุ้มค่าสุดๆ แล้ว แต่ถ้าผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็เรื่องราคาค่าตัวที่ต้องจ่ายนั่นล่ะเป็นอันดับแรก และประเด็นที่ว่า Samsung Galaxy S8 และ Galaxy  S8+ เปิดราคาแพง! ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราเอาไปเทียบกับอะไรครับ หรือจะเถียง?

ถูกใจบทความนี้  4