ช่วงนี้ชื่อของ i-mobile กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง หลังจากเปิดตัวเป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับแบรนด์ดังอย่าง Xiaomi ไปเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 60 ที่ผ่านมา สำหรับสมาร์ทโฟนภายในค่ายของตัวเองก็ไม่ได้เลิกทำตลาดแต่อย่างใดนะครับ เพราะล่าสุดไอโมบายก็ส่งรุ่น Y1 ออกมาสู่ตลาดระดับผู้ใช้งานเริ่มต้น ซึ่งผมได้ทำการแกะกล่องและพรีวิว https://goo.gl/aS0GrR ให้ได้รับชมในรูปแบบวีดีโอไปแล้ว วันนี้มารับชมกันต่อกับ Full Review ของเจ้า i-mobile Y1 กันครับ
i-mobile Y1 Specifications
● ระบบปฏิบัติการ: Android OS, v6.0.1 (Marshmallow)
● จอแสดงผล: ชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 pixels
● หน่วยประมวลผล: Spreadtrum SC9832 Quad-core 1.3GHz
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Mali-400MP
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง: 8GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 32GB
● แรม: 1GB
● การเชื่อมต่อ: 2G: GSM 900/1800 mHz
●3G: 850/900/2100 MHz
●4G LTE: 850/900/1800/2100 MHz
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด Micro SIM + 1 Normal SIM
● การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/, Bluetooth V. 4.0, FM radio,
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + แฟลช LED 1 ดวง
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชกล้องหน้า
● ขนาดตัวเครื่อง: 155 x 78.6 x 8.85 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก: 190 กรัม
● แบตเตอรี่: Lithium-polymer 3000 mAh
● สีที่มีวางจำหน่าย: ดำ,ขาว,น้ำตาล
ราคาวางจำหน่าย 3,490 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ i-mobile Y1 จะได้รับบ็อกซ์เซ็ตของแถมซึ่งประกอบไปด้วย
เสื้อยืด i-mobile Y1 , หูฟัง Sony , เมมโมรี่การ์ด 16 GB, แหวนยึดและขาตั้งโทรศัพท์
แถมหูฟังในตำนาน Sony ในรุ่น MDR-EX71SL
แง้มกล้องออกมาดูกันหน่อยว่าภายในกล่องมีอะไรให้มาบ้าง
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ i-mobile Y1 จะประกอบไปด้วย
1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อและใบรับประกันสินค้า
2. ฟิลม์กันรอย
3. อแดปเตอร์ชาร์จ Output 1A. + สาย Micro USB
4. หูฟังสมอลทอร์คแบบเอียร์บัด
5. แบตเตอรี่ รุ่น Y1 ความจุ 3000mAh
i-mobile Y1 ตัวเครื่องวัสดุหลักจะเป็นโพลีคาร์บอเนต หรือพลาสติกนั่นเองครับ โดยตัวเครื่องออกแบบในโทนเรียบขรึมสไตล์เดิม ๆ ของไอโมบาย ไม่ได้ฉีกแนวไปจากเดิมแต่อย่างใด และตัววัสดุนั้นจะเป็นแบบ glossy มันเงาที่เก็บรอยนิ้วมือได้ง่ายมาก ๆ ส่วนความแข็งแรงแน่นหนาของงานประกอบอยู่นระดับกลาง ๆ ครับ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นด้วยตัวเครื่องนั้นสามารถถอดฝาหลังได้นั่นเองครับ
ต่อกันที่จอแสดงผลของ i-mobile Y1 นั้นให้สีสันและความสว่างอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ โดยเป็นจอพาเนลชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 pixels แต่น่าเสียดายที่รองรับมัลติทัชแค่ 2 จุดเท่านั้น
สำหรับ 3 ปุ่มนำทางจะเป็นแบบ capacitive button แต่ไม่มีไฟแบล็กไลท์มาให้ใช้งานนะครับ
กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งานเวลาที่เซลฟี่ในที่แสงน้อยอีกด้วย
ช่องเสียบหูฟังและพอร์ต Micro USB จะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของลำโพงและไมค์สนทนา
ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์จะอยู่ทางฝั่งขวามือของตัวเครื่อง ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ โล่ง ๆ ไม่มีพอร์ทหรือปุ่มใด ๆ
ฝาหลังดำเงา นอกจากเก็บรอยนิ้วมือได้ง่ายแล้วพวกรอยขนแมวก็ไม่รอดเช่นกัน ยังไงก็ควรใส่เคสป้องกันไว้เป็นการดีที่สุดครับ
ถอดฝาหลังเปลี่ยนแบตได้ ยุคนี้เริ่มเหลือน้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะออกแบบมาในสไตล์ unibody เสียเป็นส่วนใหญ่ครับ
สำหรับซิม 1 ใช้ซิมชนิด Micro SIM ส่วนซิม 2 จะเป็นแบบรุ่นเก่า Normal SIM ซึ่งยุคนี้ก็แทบจะไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่รองรับกันแล้วครับ
Software & Feature
เปิดตัวมาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่น 6.0 ตัวรอมพัฒนามาจาก AOSP และมีแอพคอนเทนต์จากทางค่าย i-mobile และ Third party ติดตั้งมาให้นิดหน่อยครับ
จริง ๆ ตัวรอมนั้นมาในสไตล์ pure android ครับ ในส่วนของฟีเจอร์ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เอาที่เป็นจุดขายจริงๆ ก็คือการที่รองรับ VoLTE เสียมากกว่า ส่วนพวกฟีเจอร์ Gesture motion คงต้องบอกว่าเป็นของแถมครับ
Benchmarks & Performance
ด้วยสเปคของของ i-mobile Y1 ก็คงต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ทำตลาด Beginning เรื่องความแรง ความลื่นไหล หรือการรองรับฟีเจอร์ต่าง ๆ นั้นจะเอาไปเปรียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ๆ ก็คงไม่ไหว ในภาพรวมผมอยากบอกว่า i-mobile Y1 เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่ไม่เน้นเรื่อง Performance มากนัก
Camera & Sample
เมนูอินเทอร์เฟซกล้องของ i-mobile Y1 ค่อนข้างจะเรียบง่าย ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมโหมดบิ้วตี้ที่ปรับได้ 10 ระดับ นอกจากนี้หากถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะว่ากล้องหน้าของ i-mobile Y1 นั้นมีไฟแฟลชมาให้ใช้งานกันด้วย
จากนี้มาดูคุณภาพกล้องหลังจาก i-mobile Y1 กันต่อได้เลยครับ
Normal Mode
HDR Mode
โดยรวมกล้องหลังของ i-mobile Y1 จะติด warm tone เล็กน้อย โดยสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนในสภาพแสงกลางแจ้งครับ ถ้าวัดกันที่คุณภาพจริง ๆ ก็ต้องบอกว่า ทำได้ตามราคานั่นแหล่ะ ไฟล์ภาพสามารถนำไปใช้งานบนโซเชี่ยลมีเดียพอไหว แต่ใครที่เน้นหรือจริงจังเรื่องคุณภาพ i-mobile Y1 คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ครับ ส่วนกล้องหน้า ก็ทำได้สมราคา(อีกแล้ว) เอาเป็นว่ามันตอบโจทย์ในที่แสงน้อยและต้องใช้แฟลชมากกว่า ส่วนในสภาพแสงทั่ว ๆ ไป ผมว่ายังไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ครับ
สรุปส่งท้าย i-mobile Y1 เป็นรุ่นที่ผมรีวิวแล้วผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เพราะพยายามมองหาข้อดี และจุดขายของรุ่นนี้อยู่นาน ถ้าไม่วัดกันในเรื่องของความเป็นชาตินิยมแล้ว ต้องบอกว่า i-mobile Y1 แทบไม่สามารถสู้กับแบรนด์จีนที่ครอบงำตลาดล่างในไทยอยู่ ณ ขณะนี้ได้เลยครับ สำหรับ i-mobile Y1 ผมมองว่าเหมาะกับการเป็นเครื่องสำรอง เหมาะกับการให้เด็กหรือผู้สูงอายุใช้งานมากกว่า คือเน้นในเรื่องการโทร ที่ต้องบอกว่านี่คือจุดขายหลักของรุ่นนี้ ตรงที่รองรับ VoLTE นั่นเอง เอาเป็นว่าถ้าไม่ซีเรียสเรื่องสเปคและองค์ประกอบปลีกย่อย ก็ขอฝากแบรนด์ไทยไว้ในอ้อมใจกันอีกสักครั้งนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันะครับ
ถูกใจบทความนี้ 2
You must be logged in to post a comment.