แกะกล่อง Oppo R9s Black Edition พร้อมตัวอย่างภาพถ่าย

Oppo R9s Black Edition สมาร์ทโฟนกล้องเทพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2017 ซึ่งแม้จะเป็นหนึ่งในรุ่นที่เปิดตัวมาได้ราวเดือนสองเดือนแล้วแต่ก็ยังถือว่าสดใหม่และน่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลางๆ ที่ทำได้ครบแบบไม่แพ้เรือธงเลยทีเดียว โดยในบทความนี้จะทำการแกะกล่องตัวเครื่องสีดำพร้อมเปรียบเทียบกับตัวเครื่องสีขาวว่าสีไหนจะถูกใจกว่ากัน แน่นอนว่ามีของแถมเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องรุ่นนี้ด้วยว่าจะทำได้ดีขนาดไหน

Oppo R9s Specs:
– หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ครอบด้วยกระจกลิง 5
– Snapdragon 625 Octa-core 2.oGhz Cortex-A53
– GPU Adreno 506
– Ram 4GB
– Internal Storage 64GB
– เลือกใช้งานได้ระหว่าง 2 ซิมการ์ดหรือ 1 ซิม+Micro SD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง (F) 1.7 PDAF พร้อมไฟแฟลช LED 1.12µm pixel size, geo-tagging, touch focus, face detection, HDR, panorama
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง (F) 1.7 phase detection autofocus
– LTE Cat6 300/50 Mbps
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
– Bluetooth 4.0, AD2P
– Fingerprint Scanner
– Fast Battery Charging (VOOC)
– ขนาดตัวเครื่อง 153 x 74.3 x 6.6มม.
– น้ำหนัก 145 กรัม
– Android 6.0.1 Marshmallow
– Color: Gold, Rose Gold, Black
– Price: 14,990 Baht

ก่อนหน้านี้ทางพี่แจ๊ค @wasan007 ได้รีวิวการใช้งานของ Oppo R9s ไปเรียบร้อยแล้วโดยสามารถติดตามอ่านกันได้ที่ รีวิว OPPO R9s กล้องหน้า-หลัง งานดีไม่แพ้กัน ความมันส์จึงบังเกิด !!! ส่วนบทความนี้อย่างที่บอกไปก่อนหน้าคือจะเป็นบทความแกะกล่องครับ

ด้านหน้ากล่องของ Oppo R9s Black Edition นั้นมาเป็นกล่องสีขาวด้านหน้าไม่ได้บ่งบอกเลยว่ามันคือสีดำ !! ซึ่งพอวางเทียบกับกล่องของตัวเครื่องสีทองแล้วไม่มีทางรู้เลยล่ะว่าอันไหนจะเป็นตัวเครื่องสีอะไร

วิธีการดูก็ไม่ยาก แค่พลิกมาด้านหลังจะเจอกับสีตัวเครื่อง อ้าวววววว แล้วทำไมไม่ทำหน้ากล่องให้เป็นสีดำไปเลยล่ะ

แกะกล่องออกมาจะต้องเจอตัวเครื่อง Oppo R9s นะครับ จะสีอะไรก็ตาม

ยกตัวเครื่องขึ้นมาจะเจอเข็มจิ้มถาดซิมที่แข็งแรงดีมาก ไม่ต้องกลัวงอกันเลย

และชั้นสุดท้ายจะบรรจุ Adapter, สายชาร์จที่รองรับระบบ VOOC Charge และหูฟัง ซึ่งเป็นสีขาวทั้งหมด

ตัว Adapter เป็นแท่งยาวๆ นิดนึง ปกติจ่ายไฟแบบ 5V 2A แต่ถ้าตัวเครื่องและสายรองรับก็จะจ่ายไฟแรงเป็น VOOC Charge ซึ่งเป็นระบบชาร์จไฟโคตรเร็วเฉพาะมือถือ Oppo เท่านั้น

ตัวสายจะมีบอกว่ารองรับ VOOC ด้วย ซึ่งหน้าตาตรงหัวจะต่างจากปกติ

หูฟังสีขาวเป็นแบบปกติไม่ใช่ in ear

ตัวเครื่องสีดำแบบดำทั้งตัวนี่ก็ดูดีไปอีกแบบ เรียกว่าเหมาะสำหรับคนชอบโทนเข้มๆ คลาสสิคๆ เลย

เหนือหน้าจะจอมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลอยู่ข้างซ้ายของลำโพงสนทนา

ใต้หน้าจอมีปุ่มสัมผัสสามปุ่มประกอบด้วย Recent Apps, Home (ฝัง Fingerprint Scanner ไว้), Back

ส่วนด้านหลังตัวเครื่อง Black Edition เป็นสีดำด้านซึ่งก็ดีตรงที่เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากและทำความสะอาดง่ายกว่าสีดำเงาเยอะเลย

ด้านบนทางซ้ายของหลังเครื่องจะมีกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F1.7 พร้อมไฟแฟลช LED

ด้านบนตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนอยุ่ทางซ้ายของตัวเครื่อง

ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่มลดเสียง ซึ่งอยู่บนของเครื่องที่บางๆ นี่ล่ะ

ด้านขวาจะมีปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดปิดหน้าจอและเปิดปิดเครื่อง พร้อมช่องจิ้มถาดใส่ซิมออกมา

ถาดซิมจะเป็นแบบ Hybrid ซึ่งต้องเลือกใช้งานระหว่าง 2 ซิมหรือ 1 ซิม + Micro SD Card

ใต้ตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์แบบ Micro USB และมีลำโพงตัวเครื่องทางซ้าย ส่วนทางขวามีไมโครโฟนตัวแรกสำหรับสนทนาและช่องเสียบหูฟัง

ถือตัวเครื่องดู ขนาด 5.5 นิ้ว ขอบบ๊างบาง ใช้งานมือเดียวสบายมาก (แต่แรกๆจะลื่นหน่อย ยังไม่ชินมือเท่าไหร่มั้ง)

เปรียบเทียบตัวเครื่องสีดำซึ่งดำทั้งตัวกับสีทองซึ่งด้านหน้าเป็นสีขาวดู

จากรูปข้างต้นแล้วน่าจะพอทำให้ใครก็ตามที่เล็งๆ รุ่นนี้อยู่ตัดสินใจกันได้นะว่าจะซื้อสีอะไรดีเนาะ

ปิดท้ายการแกะกล่องด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องกันหน่อย ภาพทั้งหมดมิได้ปรับแต่งใดๆ นอกจากย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้นครับ แต่เสียดายช่วงที่ได้เครื่องสีดำมาทดสอบดันเจอฝนตกทุกวันทำให้ไม่มีภาพสวยๆ เท่าไหร่เลย

สภาพมีแสงแบบฟ้าหลังฝนกันดู

ภาพนี้เปิด HDR

ลองดูการไล่แสงเงาเมื่อมีแดดส่องมาจากทางหน้าต่าง

พาไปล่องเรือวันฝนตก

งานกลางคืนกันบ้าง มาดูว่าค่ารูรับแสงกว้าง F1.7 จะทำงานได้ดีแค่ไหน

มีเพียงแสงไฟส่องถนนก็ยังพอถ่ายได้สบายๆ

อันนี้ในคอนเสิร์ตลาบานุน เลือกล็อคแสงที่เวที เพราะไม่งั้นภาพจะสว่างจนเละ

ลองลากไฟกันด้วย Expert Mode ภาพนี้ตั้งค่าโดยใช้ ISO100, EV-2, Speed 16sec สว่างไปหน่อยละก็สั่นนิดเพราะวางขาตั้งกล้องกับถนนเวลารถวิ่งมามันก็สั่นแหละ เพราะมันมาเร็ว

ลองถ่ายอาหารกันบ้าง อันนี้ในร้านมอสเบอร์เกอร์

เรื่องถ่ายอาหารหรือวัตถุใกล้ๆ นี่แสงน้อยหรือแสงประหลาดก็ยังพอคุมโทนได้

ลองถ่ายคนกันบ้าง เอาแบบแสงเข้าด้านนึงละกัน โดยให้เพื่อนสาวมาเป็นแบบให้ ภาพนี้จากกล้องหลัง สีผิวถูกใจกันมั้ยลองดู

ส่วนภาพนี้จากกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F1.7 เช่นกัน พร้อมโหมดบิวตี้ ซึ่งใช้แล้วก็บิวตี้ขึ้นจริงๆ หลายคนน่าจะชอบเลยล่ะ

สำหรับการรีวิวแกะกล่อง Oppo R9s Black Edition พร้อมตัวอย่างภาพถ่าย ก็หมดลงเท่านี้ล่ะครับ ถ้าเครื่องสีดำถูกใจใครก็สามารถไปจับจองกันได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2017 ซึ่งเริ่มวันนี้ได้เลยนะครับ ไปงานอาจจะได้เจอพรีเซนเตอร์คนใหม่อย่างน้องเจมส์ จิรายุ ด้วยก็ได้นา