Dyson Supersonic Hair Dryer หรือเรียกภาษาบ้านๆว่า ไดร์เป่าผม ดีไซน์ล้ำสมัยที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์เลยก็คือ ไม่มีใบพัดให้เห็น แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้นในตัวเครื่องยังมี Digital Micro Processor เฉพาะที่ช่วยในการตรวจวัดอุณหภูมิ และสำหรับการออกแบบตัวไดร์นั้นมีความสมดุลของน้ำหนักด้วยการวางตัวมอเตอร์ที่ออกแบบใหม่อยู่ตรงด้ามจับ ไม่เพียงเท่านั้นในชุดอุปกรณ์ยังมีหัวไดร์ให้เลือกใช้หลากหลายแบบเหมาะสำหรับสาวๆ ในการทำผมทรงต่างอีกด้วย
Qualifications:
– ช่วยป้องกันเส้นผมถูกทำลายเนื่องมาจากความร้อนเพื่อมิให้สูญเสียความเงางามตามธรรมชาติ: มีการวัดอุณหภูมิของอากาศ 20 ครั้งในแต่ละวินาที และทำให้อุณหภูมิอยู่ในการควบคุม
– เป่าผมแห้งเร็ว (ลมมันแรงมาก)
– ปรับแต่งเพื่อความสมดุล: ตัวเครื่องมีการปรับปรุงหัวเป่า และวางมอเตอร์ไว้ที่มือจับเพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้กับน้ำหนัก และรูปทรงของเครื่องเป่าผม
– หัวไดร์เป่าผมหลายแบบ: ทั้งแบบตรงและแบบกระจายทั่วทุกทิศทาง โดยประกบติดง่ายด้วยแม่เหล็ก
– ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ: เป่าแห้งเร็ว, เป่าแห้งแบบปกติ และการแต่งทรง
– ปรับความร้อนได้ 4 ระดับ
100°C เป่าแห้งเร็วและแต่งทรง
80°C เป่าแห้งแบบปกติ
60°C เป่าแห้งแบบนุ่มนวล
28°C ความเย็นคงที่
– สายไฟสำหรับร้านทำผม ความยาว 2.7 เมตร
– ไอออนประจุลบช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์
– กำลังไฟ 1600 วัตต์
– การไหลเวียนของอากาศ 41 ลิตรต่อวินาที
– น้ำหนัก 618 กรัม
– ขนาด (มม.) 245 x 78 x 97
– ราคา 14,900 บาท
กล่องของ Dyson Supersonic มีขนาดใหญ่ตามขนาดตัวเครื่องและอุปกรณ์ทีให้มาในกล่องนี่ล่ะครับ ตัวกล่องออกแบบเรียบง่ายใข้สีขาวเป็นพื้นหลักเพื่อให้เห็นตัวเครื่องชัดเจนว่ามีหน้าตาเช่นไร
ด้านข้างและด้านหลังกล่องนี่บอกสเปคและการใช้งานต่างๆ ได้ครบเลย
เปิดกล่องออกมาจะต้องเจออุปกรณ์วางไว้ครบทุกชิ้นเรียงแบบนี้ล่ะ ที่ชอบคือมีการทำโฟมมาดันให้พอดีกับอุปกรณ์ด้วย เพื่อป้องกันแรงกระแทกแม้ขณะขนส่งหรือหลังจากเราซื้อมาแล้วถือไปมาก็ตาม
อุปกรณ์ในกล่องมีดังนี้
1.Dyson Supersonic
2.หัวไดร์เป่าผม 3 แบบ ประกอบด้วย หัวฝักบัวสำหรับผมดัด, หัวไดร์ขนาดเล็กและหัวไดร์ขนาดใหญ่สำหรับคนผมตรง แต่มี 2 ขนาด แล้วแต่ถนัดละกัน
3.แผ่นยางกันลื่นไว้วางเครื่อง
4.คู่มือและการรับประกัน
ตัวเครื่องนั้นจะเป็นสีเทาที่แกนและสาย ส่วนตรงที่ลมออกนั้นฝั่งด้านหลังเป็นสีชมพู ด้านหน้าเป็นสีเทา
ปุ่มต่างๆ มีไม่มาก ใช้งานง่ายๆ แค่กดแหละ (แน่ล่ะ ปุ่มมันก็ต้องเอาไว้กดดิ) คือไล่ตามนี้นะ
– ปุ่มเล็กๆ ทางซ้ายรูปพัดลม อันนี้ไว้ปรับแรงลม มี 3 ระดับ ซึ่งระดับที่แรงสุดนี่แรงชิบหาย แรงแบบหัวปลิวอะ
– ปุ่มเล็กๆ ทางขวาที่เป็นจุดแดงๆ ไว้ปรับระดับความร้อนตามที่บอกไปข้างต้นว่ามี 4 ระดับ ใครผมหนาๆจัดระดับเต็มไปเลย หัวไหม้กันแน่นอน ฮ่าๆๆ ส่วนความร้อนก็ตามนี้
ระดับที่ 4 มีไฟ 3 ดวง100°C เป่าแห้งเร็วและแต่งทรง
ระดับที่ 3 มีไฟ 2 ดวง 80°C เป่าแห้งแบบปกติ
ระดับที่ 2 มีไฟ 1 ดวง 60°C เป่าแห้งแบบนุ่มนวล
ระดับที่ 1 ไม่มีไฟ 28°C ความเย็นคงที่ (ลมเย็น)
– ปุ่มบนที่เลื่อนได้ อันนั้นเป็นปุ่มเปิดปิด
– ปุ่มจุดสีฟ้าใช้กดค้างเพื่อเอาลมเย็นออกมา
เห็นมั้ยวิธีใช้งานไม่มีอะไรเลยแค่กดๆ เลื่อนๆ ง่ายนิดเดียว เวลาปรับระดับลมหรือแรงพัดมันจะไปแบบ 1>2>3>2>1
ด้านนี้เป็นฝั่งที่ลมออกมา ซึ่งดูเหมือนไม่มีใบพัดแต่จริงๆ แล้วใบพัดซ่อนอยู่ที่ตัวแกนเครื่อง
หัวไดร์ยังมีให้เลือกใช้อีก 3 แบบ โดยวิธีใส่ไม่ยาก แค่เอาไปประกบใกล้ๆ มันก็จะใช้แรงแม่เหล็กดึงเข้าหากันเอง ซึ่งหัวแปลงนั้นมีด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้
– Styling concentrator หรือหัวบีบใช้สำหรับจัดแต่งทรงผม
– Smoothing nozzle หรือหัวแบนเล็กใช้สำหรับเป่าผมแห้งและทำให้ผมตรง
– Diffuser หรือหัวกลม อันนี้ไว้กระจายลมได้กว้างมากที่สุดเหมาะกับผมลอนที่เป่ายุ่งยาก
สรุป: จากที่ทดสอบใช้งานมาก็ต้องบอกว่าสำหรับผมเองเนี่ยมันเป่าง่าย สะดวก และแห้งไวดีนะ แต่ผมผู้ชายปกติไม่ได้เซ็ตอะไรมากเลยไม่ได้ทดสอบใช้หัวแปลงไดร์แบบต่างๆ จนครบจะใช้ก็แค่ตัวที่ทำให้ผมตรงเท่านั้นล่ะ ซึ่งจุดที่ชอบเลยคือน้ำหนักและความสมดุลในการถือที่ง่ายต่อการใช้งาน ไม่เอียงไปข้างไหนข้างนึง และเวลาเป่าลมก็แรงสะใจ จะชอบแบบแรงเบาก็เลือกได้หลายระดับ แน่นอนว่ารวมถึงระดับความร้อนของลมด้วย ซึ่งใครที่ผมหนาๆ ก็มีแบบร้อนจัดๆ ให้ใช้เช่นกัน และเวลาใช้นานๆ ตัวเครื่องก็ไม่ร้อนเพราะมี Heat Shield เคลือบเอาไว้ เรียกได้ว่าดีสมราคาที่ขายจริงๆ ล่ะสำหรับเจ้า Dyson Supersonic ตัวนี้
You must be logged in to post a comment.