Sony Xperia XZ Premium เปิดตัวและวางจำหน่ายมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วครับ แถมมีรีวิวให้อ่านกันเพียบแปล้แบบเต็มอิ่ม ผมจึงขอฉีกแนวมาเขียนในสไตล์การใช้งานจริง เรียกว่าสวมวิญญาณยูสเซอร์ทั่ว ๆ ไป ที่มาบอกเล่าการใช้งาน Sony Xperia XZ Premium ในรูปแบบการใช้งานจริงของชีวิตประจำวัน หลังจากที่ได้สัมผัสและอยู่ร่วมกันมาราว ๆ ครึ่งเดือนครับ
สเปค… ตามที่เกริ่นไป รีวิวนี้ไม่เน้นเชิง specification แต่จะบอกเล่าจากการใช้งานจริงเป็นหลักครับ สำหรับคนที่อยากอ่านสเปคแบบละเอียด กดที่นี่ได้เลยครับ >>> https://goo.gl/zvWFZ5
เครื่องที่ได้มารีวิวครั้งนี้เป็นสี Luminous Chrome และมีเฉพาะตัวเครื่อง ไม่ใช่แบบ Full package จึงไม่มีในส่วนของการแกะกล่องเหมือนบทความอื่น ๆ นะครับ
ดีไซน์และวัสดุ
ดีไซน์ของ Sony Xperia XZ Premium ยังคงใช้แนวทาง Loop surface ที่เน้นความสมดุลและสมมาตรของมิติตัวเครื่องเครื่อง ทั้งด้านหน้า-หลัง / ขอบข้าง / มุมบน/ล่างของจอแสดงผล ในภาพรวมแล้วเป็นการปรับปรุงมาจากดีไซน์ในยุคก่อน (Omni Design) ได้ลงตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สรุป ดีไซน์ โดดเด่น ไม่ซ้ำ ไม่ลอกเลียนแบบใคร มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แต่ก็แฝงความเทอะทะไว้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างขอบบน/ล่างของหน้าจอที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ส่งผลให้มิติของตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าแบรนด์อื่น ๆ ในพิกัดเดียวกันที่ 5.5 นิ้วครับ
วัสดุ /โครงสร้างหลักภายนอกจะเป็นกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass เวอร์ชั่นที่ 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนขอบบนล่างเลือกใช้วัสดุที่เป็นโลหะขัดลาย (Brush Metal) เพียงแต่สี Deepsea Black อาจจะมองไม่เห็นลวดลาย Texture ที่ชัดเจนเท่ากับสี Luminous Chrome
และด้วยวัสดุหลักที่เป็นกระจก ทำให้เก็บรอยนิ้วมือรวมไปถึงคราบเปื้อนได้เป็นอย่างดี ตรงนี้มีทั้งข้อดีข้อเสียครับ
ข้อดีคือ วัสดุนั้นดูหรูหรา พรีเมี่ยม แต่ก็ต้องแลกในเรื่องการดูแลรักษา สำหรับด้านหลังของสี Luminous Chrome จะให้อารมณ์ประหนึ่งการส่องกระจกจริง ๆ เลยครับ
ตรงนี้สาว ๆ น่าจะชอบนะ จากการสังเกตของผม สาว ๆ หรือจะเป็นหนุ่ม ๆ (บางคน) บางทีก็อาศัยหน้าจอแสดงผล หรือกล้องหน้าจากสมาร์ทโฟนเป็นกระจกส่องหน้านั่นเองครับ
กล้องหน้าของ Xperia XZ Premium มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แม้จะได้ไม่เน้นหรือชูจุดขายเรื่องเซลฟี่เหมือนแบรนด์จีน แต่คุณภาพที่ได้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยครับ นอกจากจะมาพร้อมเลนส์มุมกว้างแล้ว ยังมีกันสั่น 5 แกนเหมือนกล้องหลักด้านหลังอีกด้วยนะ ในภาพรวมผมให้สอบผ่านครับ สามารถดูรูปตัวอย่างได้ที่ท้ายบทความ
ส่วนลำโพงที่เราเห็นตามรูป ก็คือลำโพงคู่สเตอริโอ S-Force Front Surround อันลือลั่นของค่ายโซนี่นั่นเอง การวางตำแหน่งลำโพงแบบนี้ ทำให้การใช้งานด้านบันเทิงสามารถรับฟังเสียงในรูปแบบของสเตอริโอได้ดีเยี่ยมมากกว่าการวางไว้ที่ด้านหลัง หรือขอบด้านล่างของตัวเครื่อง แต่สิ่งที่อยากจะบอกและให้เผื่อใจไว้ก็คือ ความดัง ความกระหึ่มของลำโพงจาก Xperia XZ Premium ยังไม่น่าประทับใจครับ หากใช้งานในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่ หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเสียงรบกวนก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่ถ้าเจอสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง ๆ … ขอบอกเลยว่าจบครับ
หลายคนรักโซนี่ ก็ตรงที่ความมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง สำหรับสมาร์ทโฟนของค่ายโซนี่ที่เราคุ้นเคยกันดีก็จะรู้เลยว่า ค่ายนี้ต้องมีปุ่มชัตเตอร์มาให้ใช้งาน ซึ่งเป็นการทำงานในลักษณะ 2 จังหวะเหมือนกล้องจริง ไม่ใช่มาอ้างข้าง ๆ คู ๆ ว่าปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงก็สามารใช้ทดแทนปุ่มชัตเตอร์ได้ ตรงนี้บอกเลยว่าฟิลลิ่งและประโยชน์ในการใช้งานจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ
ต่อกันด้วยเรื่องของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
โซนี่คือค่ายแรกที่นำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งในยุคแรก ๆ ก็มีความกังวลกันว่ามันจะทำงานได้ดีหรือไม่ ซึ่งเวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่ามันแทบไม่แตกต่างจากการวางไว้ที่ด้านหน้า หรือด้านหลังของตัวเครื่องเลยครับ อันนี้หมายถึงเฉพาะความเร็วในการปลดล็อคนะ เพราะหลายคนกลัวเรื่องพื้นที่อันน้อยนิดของปุ่มที่ต้องวางอยู่ด้านข้างนั่นเอง
สรุป เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Xperia XZ Premium สามารถตอบสนองในการใช้งานได้ดีมากครับ ทั้งความเร็วในการปลดล็อค และความสะดวกสบายในภาคการใช้งานจริง
ข้อดีอีกอย่างของ Xperia XZ Premium คือไม่ต้องง้อเข็มจิ้มเปิดถาดซิม แถมเจ๋งตรงที่ยังรอบรับการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68 ได้เหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็อย่าประมาณในเรื่องการปิดฝาครอบถาดซิมนะครับ ผมขอเน้นยำเลยว่าสำคัญมาก ๆ ผู้ใช้งาน Xperia XZ Premium ก่อนจะพาไปลุยหรือดำน้ำควรตรวจเช็คทุกครั้งว่าปิดฝาครอบช่องถาดซิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แล้วยังมีอะไรที่น่าขัดใจอยู่บ้าง? พอนึกทบทวนดูแล้ว คือไหน ๆ ก็ทำพอร์ตแยกออกมาซะขนาดนี้ น่าจะทำให้ใช้งานได้ 2 ซิมไปพร้อมกับการใส่หน่วยความจำภายนอกไปเลย แต่การที่ยังใช้รูปแบบไฮบริดสล็อตเหมือนเดิมตรงนี้ถือว่า fail ในความรู้สึกมาก ๆ ครับ
ปิดท้ายกันไปเรื่องจุดขายหลัก หน้าจอ 4K HDR รุ่นแรกของโลก !
หนึ่งในนวตกรรมที่โซนี่ได้เป็นผู้บุกเบิก ซึ่งรอบนี้ทำการบ้านมาดีมาก เพราะเป็นจอ 4K แท้ ๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง แม้แอพหรือคอนเทนต์จะยังไม่รองรับอย่างครบถ้วนกระบวนความก็ตามที
หากแอพหรือคอนเทนต์ไหนมี Output มาแบบ 4K ตัว Xperia XZ Premium ก็แสดงผลได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนแอพไหนยังไม่รองรับ ก็มี Software ที่ช่วยในการปรับสเกลการแสดงผลให้เหมาะสมและไม่เป็นภาระลูกหลาน เอ้ย! ไม่เป็นภาระของ CPU แถมไม่ทำให้แบตต้องหมดไวอีกด้วยนะ
เรื่องความสวยของจอแสดงผลไม่เป็นสองรองใคร แต่ความละเอียดและการรองรับเทรนด์ในอนาคต Xperia XZ Premium นั้นกินขาดครับ เพราะเป็นรุ่นเดียว ณ ตอนนี้ที่รองรับคอนเทนต์ 4K HDR บนแพลตฟอร์ม Mobile
สำหรับคนที่ติดตามเทรนด์และเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด จะรู้เลยว่าปีหน้ากระแสคอนเทนต์ของ HDR จะถาโถมเข้ามาและเราสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมครับ
Software
เรื่อง Software รวมไปถึงฟีเจอร์ของค่ายโซนี่ ผมเขียนมาเยอะมาก https://goo.gl/ECA76s แถมเคยเขียนแบบละเอียดเจาะลึกมาแล้ว สำหรับบน Xperia XZ Premium ผมจึงขอสรุปในภาพรวมดังนี้
เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ล่าสุด 7.1.1 (ณ ปัจจุบัน) ปรับแต่งรอมหรือตัว Firmware มาได้ดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย โดย Xperia launcher ยังรักษามาตรฐานในเรื่องของความเรียบง่าย และคงเอกลักษณ์ในเรื่องความเสถียรและลื่นไหลไว้ได้อย่างครบถ้วน
สิ่งที่มีความเปลียนไปก็คือ โซนี่เลือกที่จะไม่บัลเดิ้ล หรือพูดภาษาบ้าน ๆ ว่าไม่ยัดแอพเข้ามาใน System Rom มากจนล้นเหมือนในอดีต แต่โซนี่สร้างทางเลือกให้ผู้ใช้งาน สามารถดาวน์โหลดแอพของทางค่ายมาติดตั้งได้ในภายหลังจาก Play Store ซึ่งแนวทางนี้แบรนด์ดัง ๆ หลายค่ายก็เริ่มปรับตัวมาใช้แล้วเช่นกัน
มาดูจุดขายและความน่าสนใจทางฝั่ง Software กันต่ออีกนิดหน่อยครับ
เรารู้กันแล้วว่าจุดขายหลักด้าน Hardware อันยอดเยี่ยมของจอแสดงผลตามที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น ในฝั่งของ Software ของโซนี่ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันครับ
เพราะผู้ใช้งานสามารถปรับการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่นมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ซีเรียสเรื่องความสมจริง ประมาณว่าทำงานเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์หรือเกี่ยวกับด้านการภาพถ่าย สามารถปรับการแสดงผลในโหมด sRGB เพื่อให้แสดงผลได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ตาเห็น หรือถ้าชอบความจัดจ้านจนเกินจริงก็ไม่มีปัญหา สามารถเลือกปรับได้เลยตามอัธยาศัย
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับไวท์บาลานซ์ของจอแสดงผลได้อีกด้วย อารมณ์ก็ประมาณความคุ้นชินของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน บางคนชอบจอโทนฟ้า บางคนบอกว่าอมเหลือหน่อย ๆ ดูสบายตาก็ว่ากันไป และบอกเลยว่าโหมดนี้โซนี่เป็นผู้บุกเบิกเป็นเจ้าแรกของตลาดสมาร์ทโฟนครับ
วัสดุพรีเมี่ยม งานประกอบดี จอสวย ส่วนเรื่องเสียงก็หายห่วงครับ ด้วย Know-how ที่สั่งสมมาเนิ่นนานหลายสิบปี แถมยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกมิวสิคโฟนมาก่อนใคร รับประกันประสบการณ์ฟังเพลงทั้งแบบไร้สายหรือมีสายค่ายโซนี่ไม่เป็น 2 รองใครอย่างแน่นอน
สำหรับ Xperia XZ Premium นั้นพกจุดเด่นมาอย่างครบถ้วน ทั้งการรองรับ Hi-Res AUDIO และเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพเสียงอันหลากหลาย ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของค่ายโซนี่ และผมยังยืนยันคำเดิมอีกครั้งว่าเรื่องการฟังเพลงบนสมาร์ทโฟนจากค่ายโซนี่ยังคงติด Top Three ตลอดกาลของตลาดครับ
ปิดท้ายกันไปด้วยเรื่องการจัดสรรพลังงาน เชื่อว่าหลาย ๆ คนให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ
ผมขอบอกเล่าจากการใช้งานจริงครับ ชาร์จแบตเต็ม 100% ออกจากบ้าน 10.00 น. การใช้งานก็มีถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ โซเชียลมีเดีย ไลน์/เฟซบุ๊ค ฟังเพลง / ดู Youtube นิดหน่อย และมี Live บน Facebook ประมาณ 1 ชั่วโมง
จาก 10.00 น. ถึง 19.30 น. แบตยังเหลือ 30% เท่ากับว่าผมสามารถใช้งานรอดจนกลับไปถึงบ้านได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องง้อ Power bank ครับ
แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกตัวว่าผมไม่เล่นเกมใด ๆ ทั้งสิ้นนะ การใช้งานก็โหมดปรกติ ไม่ได้ใช้โหมดประหยัดพลังงาน เพียงแต่ปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติไว้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ
สรุป Xperia XZ Premium แบตอึดน่าประทับใจ ใช้งานแบบธรรมดา ๆ ไม่เน้นเล่นเกมหนักหน่วงอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้งานได้ครบวันสบาย ๆ ครับ
แถมท้ายกันอีกนิดในจุดเด่นที่บางคนอาจจะยังไม่รู้ เทคโนโลยี Qnovo adaptive charging ของโซนี คือที่สุดของแจ้แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่อยากใช้สมาร์ทโฟนแบบยาว ๆ สัก 1.5 -2 ปีขึ้นไป รับรองว่าแบตจากค่ายโซนี่เสื่อมที่หลังค่ายอื่นอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องผลคะแนนอย่าไปซีเรียสครับ ด้วยสเปคระดับเรือธง บวกกับรอมของค่ายโซนี่นั้นปรับแต่งมาค่อนข้างดี ภาคการใช้งานจริงบอกเลยว่าลื่นไหล แทบไม่พบอาการหน่วง หรือสะดุดติดขัดให้กวนใจ
พวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วนนะ ส่วนภาครับสัญญาญ GPS นั้นทำได้ดีครับ ทั้งเรื่องความเร็วและความแม่นยำ
สเปคทางด้าน Network Hardware รองรับการเชื่อมต่อระดับ 4.5G, Cat 16, 4×4 MIMO, 1 Gbit/s (4CA) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับพื้นที่ของผู้ให้บริการเครือข่ายครับ และเอาเข้าจริง แม้จะรองรับความเร็วในระดับ Gigabit แต่ถ้าติดคอขวด ความเร็วที่ได้ก็ไต่ไปไม่ถึงอยู่ดี ฉะนั้นไม่ต้องไปซีเรียสเรื่องนี้มากนัก
Camera
สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด ว่ากันด้วยเรื่องกล้องซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์หลักของ Xperia XZ Premium
รอบนี้ Xperia XZ Premium ทำการบ้านมาดีมาก ๆ อุดจุดอ่อนที่เคยโดนบ่นมานานเป็นที่เรียบร้อยครับ เช่นเรื่องความร้อน หรือการถ่ายต่อเนื่องของ 4K ที่ไม่สามารถถ่ายได้แบบยาว ๆ รอบนี้บอกเลยว่าผู้ใช้งานจะไม่เจอความน่าหงุดหงิดแบบนั้นอีกแล้วครับ
และสิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่างก็คือ Xperia XZ Premium ลดความละเอียดของกล้องลงมาอยู่ที่ 19 ล้านพิกเซล แล้วไปให้ความสำคัญกับพิกเซลไซส์แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วครับ เพราะ Resolution นั้นไม่ใช่คำตอบของคุณภาพแต่อย่างใด จริง ๆ แล้วเรื่องนี้หลายแบรนด์เขาขยับปรับตัวกันมานานแล้ว พูดง่าย ๆ คือไม่เน้นเรื่องความละเอียด Output ของภาพ แต่ไปเน้นในเรื่องพิกเซลไซส์แทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ภาค Hardware ตั้งต้นนั่นเองครับ
ส่วนความสามารถด้านการบันทึกวีดีโอ ต้องบอกเลยว่า Xperia XZ Premium ทำได้ดีมาก ๆ ด้วยระบบกันสั่น 5 แกน แถมรองรับการบันทึกเสียงในระบบสเตอริโอด้วย ยิ่งส่งผลให้ Xperia XZ Premium เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวีดีโอได้ดีที่สุดของยุคนี้เลยครับ
บ่นส่งท้าย เมนูอินเทอร์เฟซ แม้จะใช้งานง่าย แต่ก็ยังไม่ง่ายสุด ๆ เช่นการเข้าโหมด HDR ยังคงลักลั่นเล็กน้อย หวังว่าปรับ UI รอบหน้าจะทำให้ทุกอย่างมัน Simple มากกว่านี้ครับ
จากนี้ไปชมรับภาพที่ได้จากกล้องของ Xperia XZ Premium กันต่อได้เลยครับ
โหมด Predictive capture สร้างสรรค์โอกาสให้เราได้ภาพมาใช้งานเพิ่มขึ้น ด้วยการคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้า ในภาพหรือจังหวะที่มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในขณะการโฟกัส ซึ่งฟีเจอร์นี้โซนี่ภูมิใจเสนอครับ จากกการใช้งานจริงก็ต้องบอกว่ามีประโยชน์พอตัวเลยแหล่ะ ไม่ได้เป็นแค่ฟีเจอร์ Gimmick แถมมาให้เล่น ๆ แต่อย่างใด
ในที่แสงน้อยบน Xperia XZ Premium เราจะเห็นพัฒนาการที่เด่นชัด ภาพที่ได้มีการจัดการเรื่องนอยส์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม แม้จะใช้โหมด Auto ก็เอาตัวรอดได้ไม่ต้องติดกับนิยามเดิม ๆ ที่บอกว่ามือถือโซนี่ถ้าอยากถ่ายให้สวยต้องใช้โหมด M เท่านั้น
เรื่องการโฟกัส ความคม ความแม่นยำของไวท์บาลานซ์ Xperia XZ Premium มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างชัดเจนเลยครับ แม้อาจจะมีจุดเล็ก ๆ ให้ขัดใจบ้าง แต่ภาพรวม ๆ Xperia XZ Premium ทำผลงานได้สมกับความเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงครับ
ทดสอบกล้องหน้ากันบ้าง
มาพร้อมเลนส์มุมกว้างสะใจ และแม้จะไม่โหมดรักแท้ในคืนหลอกลวง (บิวตี้) มาให้ใช้งาน แต่โซนี่ก็มีโหมด Soft Skin Effect มาให้ใช้ทดแทนครับ ซึ่งโหมดนี้ให้ฟิลลิ่งที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ fake จนเกินความเป็นจริงแบบสุดกู่นั่นเอง
ปิดท้ายกันไปด้วยการบันทึกวีดีโอ 4K และ ซูเปอร์สโลว์โมชั่น 960fps
Xperia XZ Premium เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวีดีโอได้ดีที่สุดของยุคนี้ครับ ด้วยระบบกันสั่น 5 แกน ทำให้วีดีโอนั้นมีความสมูทลื่นไหล แทบจะไม่พบการสั่นไหวให้เห็น นอกจากนี้โหมดซูเปอร์สโลว์โมชั่น 960fps ก็เป็นอะไรที่ช่วยสร้างสรรค์วีดีโอของเราได้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งหาไม่ได้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นครับ
สรุปส่งท้าย Xperia XZ Premium
สั้น ๆ ได้แต่ใจความ ซื้อเถอะ ถ้ากำลังมองหาสมาร์ทโฟนแฟลกชิปมาใช้งาน และหากชอบความครบเครื่องในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวกอารยธรรม / แฟนพันธ์แท้โซนี่ที่เคยผิดหวัง หรือไม่เคยสัมผัสกับค่ายนี้มาก่อน ผมก็คงบอกได้คำเดียวว่า Xperia XZ Premium คือสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด เท่าที่โซนี่เคยผลิตออกมา
เขียนมายืดยาวขนาดนี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ไปลองสัมผัส ไปลองจับเครื่องจริงก่อนตัดสินใจครับ เพราะโดยส่วนตัวผมเชื่อว่าด้วยดีไซน์, วัสดุ, จอแสดงผล, กล้อง, เสียง, Network และฟีเจอร์โดยรวมของ Xperia XZ Premium นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนที่ชอบความสุดของเทคโนโลยีได้อย่างแน่นอนครับ
ลากันไปแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ ในโอกาสหน้าครับผม
ถูกใจบทความนี้ 13
You must be logged in to post a comment.