รีวิว เครื่องปรับอากาศ Smart Home LG Air Conditioner IP10C

มาแล้วจ้า นับเป็นครั้งแรกที่จะมารีวิวเครื่องปรับอากาศ ซึ่งปกติเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะไม่ค่อยตรงคอนเซ็ปท์สักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเทคโนโลยีทุกอย่างทำให้เกิดการควบรวมเอาการสื่อสารไร้สายบวกกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ แน่นอนเลยครับว่าทำให้มันฉลาดขึ้นกว่าเดิม และผมเรียกเจ้านี่ว่าเป็น Smart Air Conditioner หรือจะเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ Smart Home ชิ้นนึงในบ้านในยุคนี้ที่เกิดขึ้นแล้ว ในยุคถัดๆ ไปจะแพร่หลายมากขึ้น โดยงานนี้พอดีอากาศร้อนมาก ก็เลยอยากจะหาเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศเย็นลงเอาไว้สักตัวนึง และก็ได้ LG รุ่น IP 10C ที่ใช้เทคโนโลยี Dual Inverter ประหยัดไฟ พร้อมกับการสั่งงาน Online ผ่าน แอป SmartThinQ ได้อีกด้วย ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นอีกเพียบ

เครื่องปรับอากาศ หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ติดปากว่า “แอร์” ซึ่งเป็นคำย่อนั่นล่ะครับ จริงๆ คือ แอร์คอนดิชั่นเนอร์ หรือแปลตามภาษาไทยๆ ก็เครื่องปรับอากาศ จะปรับให้ร้อนหรือเย็นก็ได้ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เราตั้ง แต่บ้านเราคงจะปรับให้เย็นน่ะครับ เพราะแต่ละวันนี่ร้อนเสียเหลือเกิน ขณะเขียน ณ ตอนนี้คืออยู่ในช่วงหน้าหนาว แต่อย่างที่รู้ว่าหน้าหนาวเมืองไทยในยุคนี้แทบไม่มีจริง คือหนาวได้ไม่กี่วัน ที่เหลือก็ร้อนตามระเบียบ เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน ก็เลยจัดไป เอาแอร์สักตัวมาติดห้องทำงานสักหน่อย ปกติเปิดแต่พัดลม ก็ได้แต่ไอร้อน โชยมา นั่งปั่นงานก็เหงื่อท่วมตัว เหมือนอบซาวน่าไปในตัว จริงๆ ก็น่าจะดีเน๊อะ แต่ว่าไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ ก็เลยเป็นที่มาของการจัดแอร์ LG IP10C รุ่นนี้มา โดยห้องผมมีขนาดประมาณ 3×3 เมตรหรือเล็กกว่านั้น ก็เลยจัดแค่ 9400 BTU มาก็พอ ราคาก็ 26,900 บาท โปรโมชั่นก็หาเอาตามงาน โดยงานนี้จัดที่บริษัท good deal ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรายนึงของทาง LG หรือจะลองหาโปรโมชั่นตามร้านค้าชั้นนำก็ได้ แถวๆ บ้านหลายๆ คนน่าจะมีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่อีกเพียบ แล้วแต่สะดวก ลองหาโปรโมชั่นเรื่องผ่อนก็แล้วกันครับ ผมว่าก็คุ้มนะ ถูกกว่า Smartphone สมัยนี้ แถมยังได้ใช้งานกันทั้งบ้านอีกต่างหาก จะว่าไปวันนี้จะพามาดูเรื่องการติดตั้ง รวมถึงการใช้งานด้วยเลย ว่าเป็นยังไงบ้าง สำหรับใครที่กำลังจะทำให้บ้าน หรือห้องเรากลายเป็น Smart Home ก็ตามอ่านกันได้เลย

มาดูเรื่องสเปคกันหน่อย

Specifications
ขนาดการทำความเย็น ( Btu/h) 9212.4
ขนาดการทำความเย็น – ต่ำสุด ( Btu/h) 2000
ขนาดการทำความเย็น – สูงสุด ( Btu/h) 12500
ค่าไฟฟ้าต่อปี (THB) 5574.05
อัตราส่วนประสิทธิภาพของพลังงานตามฤดูกาล 19.5
แหล่งจ่ายไฟฟ้า ( Ø / V / Hz ) 1 / 220 / 50
กำลังไฟฟ้า (W) 1000
กระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน (A) 3.6
อัตราการไหลเวียนของอากาศ (ตัวใน,สูงสุด) (㎥/min) 12.5
อัตราการไหลเวียนของอากาศ (ตัวนอก,สูงสุด) (㎥/min) 28
อัตราการลดความชื้น ( l/h.) 1.25
ระดับความเงียบ (ตัวใน) (dB(A)+3) 38 / 32 / 24 / 18
ระดับความเงียบ (ตัวนอก) (dB(A)+3) 49
ขนาดท่อ (ด้านของเหลว) (mm) 6.35
ขนาดท่อ (ด้านแก๊ส) (mm) 9.52
ขนาดเครื่องตัวใน (กว้างxสูงxลึก) (mm) 837X302X189
ขนาดเครื่องตัวนอก (กว้างxสูงxลึก) (mm) 720X500X270
น้ำหนักสุทธิ (ตัวใน) (kg) 8.9
น้ำหนักสุทธิ (ตัวนอก) (kg) 24.5
หน้าจอบนตัวเครื่อง Magic Display
ชนิดของคอนเดนเซอร์ Copper Tube (Gold Fin)
พลาสม่าไอออนไนเซอร์ O (3G)
แผ่นกรองไมโคร 3M Yes
ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ Yes
ลมธรรมชาติ Yes
ระดับความเร็วพัดลม ((SH/H/MH/M/ML/L/SL)) 7
การกระจายลม (ขึ้น-ลง) Auto
การกระจายลม (ซ้าย-ขวา) Auto
อุณหภูมิตั้งค่า 16-30
ควบคุมอุณหภูมิขณะหลับ Yes
ไฟแสดงสถานะ เปิด-ปิด Yes
โหมดเร่งความเย็น Yes
ไล่ยุง No
สั่งงานด้วยเสียง No
ดูแลผิว Yes
ควบคุมความชื้น Yes
ควบคุมการใช้พลังงาน Yes
ควบคุมการทำงาน ด้วย Smart Phone ผ่าน WiFi Yes

งานนี้มาดูฟีเจอร์กันก่อนดีกว่ามั้ง เทคโนโลยีแจ่มๆ เลยก็คือเรื่องของ Dual Inverter Compressor ที่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เค้าบอกไว้ว่าทำงานที่ 100-120 MHz ซึ่งเค้า (LG) ก็บอกอีกว่าเย็นเร็วทันใจมากขึ้นถึง 40% และประหยัดพลังงานได้ 70% เลยทีเดียว ส่วนตัวผมว่าประหยัดได้สัก 30% ก็ดีใจแย่แล้วล่ะ แต่ส่วนตัวของผมคือ มีแอร์อยู่ตัวนึง ติดเพิ่มก็คงเสียตังค์มากกว่าเดิมแหล่ะ แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกและความทันสมัย ไม่ร้อนอีกต่อไป

ยังมีเรื่องของการควบคุมผ่านแอป Smart ThinQ ซึ่งดาวโหลดได้ทั้งบน Android และ iOS โดยควบคุมผ่าน Wi-Fi มีข้อแม้นิดนึงคือ LG IP10C Dual Inverter  ต้องอยู่ในโหมด standby ตลอดเวลา และต้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่บ้านเอาไว้ให้เรียบร้อย พอเราออกนอกบ้านก็สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศเครื่องนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ขอให้เน็ตที่บ้านไม่ล่ม และอย่าลืมเปิดคัทเอาท์ หรือสับสวิตช์ไฟเปิดไว้ด้วยนะ

และยังมีเรื่องคอมเพรสเซอร์เซอร์ ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าพังยากนั่นล่ะ ด้วยเทคนิคที่ LG เรียกว่า Gold Fin ที่เคลือบด้วยวัสดุที่ป้องกันการผุและสึกกร่อนจากสนิมได้ เป็นลักษณะสีทอง อันนี้ก็ต้องพิสูจน์กันดูแต่จากที่เห็นโฆษณาไว้แล้ว ก็น่าสนใจอย่างมาก

Plasmaster  Ionzier PLUS และการดักจับเชื้อโรค  หมดกลิ่นไม่มีแบคทีเรีย อันนี้ก็สำคัญไม่น้อย นอกจากดักพวกฝุ่นต่างๆ การกำจัดเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย ทำให้อากาศที่เป่าออกมาสะอาด ก็เป็นอีกฟีเจอร์นึงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง  พอเห็นบรรดาฟีเจอร์ที่เค้าโฆษณาเอาไว้ก็ตัดสินใจได้เลยล่ะ โฆษณาชวนให้เชื่อ และผมก็เชื่อคนง่ายซะด้วย สรุปจัดมาแล้ว และลองใช้งานจริงๆ มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันดีกว่า

 

ผมขอพามาดูตั้งแต่การติดตั้งเลยก็แล้วกันครับ อาจจะยาวสักนิด แต่ผมว่าน่าจะมีข้อมูลที่มีประโยชน์บ้างล่ะ เพราะปกติเราคงไม่ได้ติดตั้งแอร์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ต้องมีช่างจากบริษัท หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ไม่ว่าจะซื้อที่ไหน ยกเว้นแต่เป็นข่างแอร์ติดตั้งเอง อันนั้นก็จบ แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะครับ ถ้าเราไม่ได้ทำเป็นประจำ ไหนจะเรื่องมือ ไหนจะเครื่องอัดน้ำยา อีกเยอะเลย สรุปผู้ใช้งานบ้านๆ อย่างเราๆ ท่านๆ ก็คงต้องเลือกทางเดียวกับผมแน่นอน

คงไม่ได้บอกว่าแกะกล่องมีอะไรบ้าง คงมีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งานนั่นล่ะครับ มีทั้งตัวแอร์และคอมเพสเซอร์ และรีโมทคอนโทรล

ตัวกรองฝุ่น ตรงนี้ที่เราคงต้องเอามาบ้างบ่อยๆ บ้านผมฝุ่นเยอะมากเลย ถอดล้างเองได้ไม่ยากครับ อันนี้แนะนำให้สังเกตและล้างเป็นประจำ

ด้านหลังเป็นแผ่นเหล็กสำหติดตั้งและยึดเข้ากับผนัง

ซึ่งมีรายละเอียดตำแหน่งน๊อต ต่างๆ บอกเอาไว้ละเอียด ตัวแผ่นเหล็กสำหรับรองเพื่อยึดกับผนัง

บรรดาวัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพลาสติก ทำให้ตัวแอร์มีน้ำหนักเบา แต่ก็ปัญหานึงที่จะเกิดขึ้นเมื่อใช้เป็นนานๆ ตัวพลาสติกทั้งหลายอาจจะกรอบได้ แต่คงจะนานพอดูล่ะ ที่กังวลเรื่องนี้ก็เพราะจุดที่ติดนี่โดนความร้อนแะมีแสงแดดโดนค่อยข้างบ่อย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องพิสูจน์กันยาวๆ


สายไฟที่ใช้ก็มีหุ้มฉนวนมาอย่างดี และไฟที่ใช้คือ 3 เส้น ก็จะมีกราวต์ เส้นนึงป้องกันให้กระแสไฟวิ่งลงพื้นดินตามปกติ

อีกโหมดนึงที่สำคัญสุดๆ ก็คือการประหยัดพลังานได้ 70% เลยนะครับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Dual Inverter Compressor นั่นเอง ยังรับประกันตัว Inverter นานถึง 10 ปีเลยทีเดียว

และฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่เราลืมไม่ได้เลย อันนี้คือรับประกันว่าประหยัดไฟจริงจัง ซึ่งปัจจุบันคงไม่มียี่ห้อไหนหรือรุ่นไหนที่ไม่มีฉลากนี้แล้วล่ะมั้ง

ส่วนประกอบต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกขึ้นรูปมีความหนาและแข็งแรรงในระดับนึง แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่า ถ้าหากติดตั้งในที่ๆ มีความร้อนหรือโดนแดดก็มีโอกาสกรอบ หรืออายุการใช้งานก็จะสั้นลง

มอเตอร์ที่ใช้สำหรับขยับส่วนควบคุมทิศทางลม ที่พัดซ้ายชวาหรือขึ้นลงตัวเล็กนิดเดียวเอง

ตัวคอมเพรสเซอร์ ที่ดูแล้วอึดถึกทน แต่รู้ไหมครับว่าน้ำหนักไม่มากอย่างที่คิด จำไม่ได้ว่าน้ำหนักเท่าไหร่ แต่เคลื่นย้ายได้ไม่ยาก ผมจำได้ว่าแอร์รุ่นก่อนๆ โน้น ตัวคอมเพรสเซอร์นี่อย่างหนัก แต่สมัยนี้เค้าพัฒนาแล้วจริงๆ

ตัวรังผึ้งสำหรับระบายความร้อน และกรองฝุ่น ก็เป็นสารสีทองที่ LG เค้าการันตีว่าพังยากกว่าเดิม สนิมไม่จับ หรือไม่ก็ยากกว่าเดิม เพราะปกติคอมเพรสเซอร์จะต้องวางไว้ด้านนอก ทำให้ส่วนใหญ่เราจะเจอเจ้ารังผึ้งขึ้นสนิมหรือมีออกไซด์เกาะค่อนข้างง่าย

มาดูเรื่องกรติดตั้งกันบ้างครับ

งานนี้ได้ช่างมาจากบริษัทกู้ดดีล เบ็ดเสร็จในตัว ก็มีการวางแผนการ และมีการจัดการที่ดีเลยครับ มีการจัดเตรียมสถานที่เป็นอย่างเดี มีผ้าคลุมฝุ่น รองพื้น คือแบบว่ามือโปรจริงๆ โดยผมเลือกจุดที่จะติดตั้งเป็นจุดที่โดนความร้อนเต็มๆ แต่คุยกับช่างแล้วตรงนี้น่าจะสะดวกสุด และเหมาะสมที่สุด

เอาจุดนี้ล่ะ


ว่าแล้วก็ลงมือเจาะผนังกันเลยละกัน

มีการเจาะกำแพง ตรงนี้คือฝุ่นบานครับ แต่เค้าจัดการได้ดีจริงๆ สำหรับรอยท่อออกไปเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ด้านนอก

ใช้เวลาไม่นานนักแร์ก็ถูกติดตั้งเสร็จเรีบบร้อย  แต่ยังไม่เสร็จ เพราะยังต้องมีการเดินสายไฟ พร้อมกับติดตั้งคอมเพรสเซอร์อีก แต่นิดนึงก่อนติดตั้ง ก็ต้องคุยกันให้ดีว่าจะเจาะตรงไหนบ้าง วางแผนเดินสายไฟยังไง เดินท่อน้ำทิ้งยังไง ให้เหมาะ เพราะปกติเค้ามีข้อจำกัดเรื่องของความยาวท่อนะครับ ถ้าหากเกินที่กำหนดจะมีค่าใช้จ่าย อันนี้ก็คงเป็นปกตินั่นล่ะ ซึ่งอันนี้ทางช่างติดตั้งก็มีคำแนะนำดีเลยล่ะ คือมีการคุยกันเรื่องจุดต่างๆ ว่าดีเสียยังไง ตรงไหนถึงจะเหมาะ จะเย็นทั่วห้องไหม สายไฟเดินไกลไหมยังไง ประมาณนี้ครับ รายละเอียดแต่ละบ้าน แต่ละจุดติดตั้งไม่เหมือนกันอันนี้ขึ้นอยู่กับห้องของเราเลย

ตรงจุดนี้คือจุดเดินสายไฟ มีการต่อคัทเอาต์เอาไว้ด้วย หรือใครอยากเดินตรง แล้วมีเซ็นเซอร์ที่เป็น Smart Home อีกชั้นนึงก็แจ้งช่างเขาได้นะ แต่เอาจริงๆ LG Airconditioner IP10C ก็มีในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเวลาใช้งานคือตั้งเปิดสวิทช์คัทเอาต์ไว้ตลอด


ส่วนตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์ ก็แล้วแต่สถานที่แต่ละบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งอันนี้เค้ามีรางเก็บสายเอาไว้เรียบร้อยเช่นกัน


ซึ่งสำหรับการติดตั้งที่บ้านผมจะมีเรื่องของบัวที่มีรอบๆ ตัวบ้าน อันนี้ก็ต้องเจาะ และช่างก็เก็บงานไว้ได้อย่างสวยงาม


ซึ่งตัวคอมเพรสเซอร์นี่วางในซอกได้พอดี ตอนแรกก็กังวลเรื่องระบายความร้อน แต่พอดีตรงพัดลมดูดระบายความร้อนออกอยู่ตรงช่องระเรียงพอดี และจุดนี้ก็ไม่เกะกะทางเดินอีกด้วย ถือว่าเสร็จละ โดยใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมง (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งผมว่าก็ไม่นานมากตั้งแต่ต้นจนจบ

คราวนี้มาดูเรื่องใช้งานบ้างดีกว่า

สำหรับ LG Airconditioner IP10C รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทปกติ หรือจะควบคุมผ่านการสั่งงานผ่านทาง Internet ก็ได้ โดยตัว LG Airconditioner IP10C เองเค้ามีการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับเน็ตเวิร์กภายในบ้าน หากมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ก็สามารถควบคุมไม่ว่าเราอยู่ที่ไหนก็ตามในโลก แต่ประโยชน์จริงๆ ก็คือ สามารถสั่งงานเมื่อระหว่างก่อนเรากลับบ้าน กรณีห้องผมร้อนๆ โดนแดดทั้งวัน กลับมาผนังกำลังคลายความร้อน ส่วนใหญ่จะค่อนข้างร้อน ก็ระหว่างกลับบ้านก็คำนวณเวลาเลยครับ อาจจะสักก่อนแค่ 10-15 นาที ก็ํสั่งเปิดรอเอาไว้เลย มาถึงที่ห้องหรือที่บ้านก็เย็นทันใจ ซึ่ง LG Airconditioner IP10C เรื่องระบบทำความเย็นนี่ไม่ต้องห่วง ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็เย็นแล้ว


หากยังใช้งานไม่เป็นคู่มือติดตั้งและการตั้งค่าที่ใช้ฟังก์ชั่นสมาร์ทก็มีบอกไว้ละเอียดนะ


ตัวรีโมทคงไม่ต้องอธิบายกันมากครับ ปรับอุณหภูมิเป็นหลัก มีโหมดต่างๆ ตั้งค่า ตั้งเวลาได้ โหมดเลือกความเย็นระดับต่างๆ มีครบ

มาถึงเรื่อง รายละเอียดการใช้งานผ่านแอปกันครับ อย่างที่บอกว่า LG รุ่นนี้เป็นแอร์ที่ทำให้บ้านเราฉลาดขึ้นอีกนิดนึง ประโยชน์ก็บอกไปแล้วข้างต้น อำนวยความสะดวกในชีวิตเรามากขึ้น ซึ่งแอปที่ใช้งานก็คือ SmartThinQ สามารถดาวโหลดได้ทั้ง Android และ iOS ใช้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าของ LG ได้หลายอย่าง รวมถึงเจ้า LG Airconditioner IP10C รุ่นนี้ด้วย

หน้าตาแอปทั้งบน Android และ iOS เหมือนกันนะครับ วิธีการใช้งานครั้งแรก คือต้องสร้าง account ก่อนเลย เพื่อการใช้งานออนไลน์ ขณะอยู่ข้างนอกบ้านก็สั่งงานได้ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะสร้าง account ด้วยอะไร มีทางเลือกให้หลายทาง และเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการเชื่อมต่อด้วย ซึ่งในที่นี้ก็ LG Airconditioner IP10C

ซึ่งเค้ามีแจ้งว่าอุปกรณ์ของเรามีสัญลักษณ์ของ SmartThinQ อยู่หรือไม่นะครับ จากนั้นก็เลือกเครือข่าย Wi-Fi ซึ่งอย่าลืมเปิดแอร์เอาไว้ก่อนนะ

ซึ่งมีวิธีการบอกด้วยครับว่าต้องเชื่อมต่อยังไง โดยงานนี้ต้องใช้รีโมทด้วย วิธีการแนะนำเป็นภาษาไทย ทำตามขั้นตอนได้ไม่ยาก

สัังเกตที่แอร์กันนิดนึงนะ ว่ามีสัญลักษณ์ Wi-Fi ขึ้นอยู่ด้วย การเชื่อมต่อใช้เวลาไม่นานครับ แป๊ปนึงก็เสร็จละ

พอเสร็จเรียบร้อยจะเข้ามาที่หน้า Dashboard และเลือกโหมดก็ได้ด้วย อันนี้แล้วแต่ว่าจะใช้โหมดไหนยังไง ตามนั้นเลย

ส่วนของการควบคุมการใช้งานต่างๆ ในแอปนะครับ สามารถ ควบคุมอุณหภูมิ ปรับได้ตามต้องการ ความเร็วพัดลม กระแสลม ว่าจะเป็นยังไง ทำได้หมด จริงๆ ก็เหมือนรีโมทแหล่ะ อันนี้เวลาอยู่บ้าน ถ้าไม่ได้ไกลจากตัวแอร์มาก ผมแนะนำให้ใช้รีโมทนะครับ เนื่องจากการเปิดแอปนี่คือใช้เวลามากกว่า รีโมทคือหยิบมาปุ๊บ กดๆ วาง ได้ละ แต่แอปคือต้องรอเปิดแอปขึ้นมา รอเลือกอีก จะช้ากว่าพอสมควรเลยทีเดียว อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกและคุ้นเคยกับการใช้งาน แต่แอปคือมีประโยชน์จริงๆ ตอนที่เราอยู่นอกบ้าน หรืออยู่ไกลจากรีโมทนั่นล่ะครับ

มาดูเรื่องการตั้งค่าบ้าง เราสามารถตั้งกำหนดเวลาเปิด และปิดได้ หากเรารู้ว่าเราอยู่ประจำช่วงไหนยังไง ก็จัดไป อ้อ อย่าลืมปิดห้องที่เราติดตั้งด้วยนะ ไม่งั้นแอร์ออกนอกห้อง เปลืองไฟแย่ นอกจากนั้นยังมีการจัดการแผ่นกรองอีกด้วย มีบอกด้วยว่าแผ่นกรองมีอายุเหลืออีกเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าแผ่นกรองนี้ก็ควรเอามาล้างบ่อยๆ เหมือนกัน

อีกอันนึงที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เวลาแอร์มีปัญหา เพราะมี Smart Diagnosis วิเคราะห์อาการเสียหรืออาการต่างๆ ได้ ซึ่งผมยังไม่เจอนะ

สุดท้ายคือเรื่องรายงาน การตรวจสอบพลังงาน อันนี้คือดีเลย เอาไว้รีเช็คได้ว่า เราใช้งานไปกี่กิโลวัตถ์ ซึ่งเราก็เอามาคำนวณได้ว่าค่าไฟที่ใช้จากแอร์ตัวนี้เป็นจำนวนเท่าไหร่ สำหรับวางแผนลดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าได้นะครับ มีทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน หลักๆ ตัวแปก็มีเท่านี้เลยครับ

มาสรุปการใช้งาน LG Airconditioner IP10C กันสักหน่อย

ผมใช้งานมาประมาณเกือบ 3เดือน ถึงได้มาเขียนรีวิวบอกเรื่องราวการใช้งานให้ฟังกันนะครับ ความรู้สึกของผมคืออุปกรณ์เหล่านี้เริ่มมีผลกับชีวิตประจำวันของเราและ LG ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกของหลายๆ คน เรื่องของ Air หลายคนก็อาจจะแนะนำเป็นแบรนด์อื่นๆ ก็ว่ากันไป แต่สำหรับ LG Airconditioner IP10C เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกในปีนี้ มีเทคโนโลยีต่างๆ ไม่น้อย มีการรับประกันถึง 10 ปี ซึ่งส่วนใหญ่พวกคอมนี่ไม่เสียหรอก ถ้าบำรุงรักษากันดีๆ สนนราคาก็ประมาณสองหมื่นปลายๆ อันนี้ก็ลองดูได้ที่บริษัท good deal  ตามลิงค์นะครับ หรือจะตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านก็ลองดูว่ามีรุ่นนี้หรือไม่ มาต่อเรื่อง LG Airconditioner IP10C ซึ่งอย่างเดียวที่ผมเป็นกังวลก็คือเรื่องวัสดุตัวแอร์ด้านในห้องนี่ล่ะ เพราะว่าเป็นพลาสติก ถึงแม้ว่าดูคงทน แต่ความร้อนห้องที่ผมอยู่นี่โดนแดดเต็มๆ ช่วงสายจนเย็นเลย อันนี้ก็คงต้องพิสูจน์ความทนทานกันไป

แต่เท่าที่ใช้งานมา 3 เดือน อันนี้ชอบเรื่องความเงียบ และความเย็นที่แบบว่าเย็นเร็วมากจริงๆ ทำให้การทำงานผมสมูทขึ้นเยอะเลย เพราะปกติ นั่งเหมือนอยู่ห้องอบซาวน่า เพราะลมที่พัดมาก็ร้อนใช้ได้เลยล่ะ เทคโนโลยีต่างๆ ก็อธิบายกันไปแล้วด้านบนลองดูรายละเอียดก็แล้วกันครับ เค้ามีดีอยู่ ส่วนความสะดวกที่ผมชอบสุดๆ ก็คงเป็นเรื่องของ Smart Home เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่มีในบ้าน ทำให้บ้านผมฉลาดขึ้นอีกนิด และทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นอีกหน่อย แต่ก็จุดด้อยเช่นเดียวกันเรื่องแอปนี่ล่ะ การโหลดเข้าใช้งานแอป นี่ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน คืออาจจะต้องพัฒนาแอปให้ดีกว่านี้นะ มันเหมือนเป็นการเรียกหน้าเว็บขึ้นมาและมีหน้ากากครอบ เวลา log in เวลาทำอะไรจะต้องโหลดหมุนๆ อยู่พักนึงเหมือนกัน หลักๆ ก็น่าจะประมาณนี้ โดยช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ผมว่าลองหาดูโปรโมชั่นก็แล้วกัน เพราะเราควรซื้อช่วงนี้แหล่ะ เตรียมตัวเพื่อหน้าร้อนในปีหน้า ช่วงอากาศเย็นๆ ส่วนใหญ่ เค้าก็ต้องทำโปรโมชั่นเพื่อเร่งยอดขายกันล่ะนะ ถ้าหน้าร้อนนี่ขายกันกระจายอยู่แล้ว ซึ่งที่ good deal นี่ก็โอเคนะครับ เรื่องช่างและการติดตั้งผมโอเคเลย เพราะเคยเจอแบบว่าบางทีคุยกันอีกเรื่อง พอลงมือทำนี่อีกเรื่อง แถมไม่มีความละเอียดไม่เก็บงานให้ดีด้วย อันนี้แบบแจ่มเลยล่ะ และแล้วผมก็มี Smart Home อีกชิ้นแล้วล่ะ ฮ๋ะๆ บายละครับ



ถูกใจบทความนี้  76