เสี่ยวมี่ (Xiaomi) ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก เปิดเผยวันนี้ถึงก้าวย่างครั้งสำคัญด้านวิสัยทัศน์ในการส่งมอบนวัตกรรมแก่ทุกคนด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Redmi 5และ Redmi 5 Plus ในราคาย่อมเยาที่มาพร้อมนวัตกรรมการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen) เป็นครั้งแรกในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเสี่ยวมี่ที่จะมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยในราคาพิเศษที่สุด
เสี่ยวมี่เป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกที่นำแนวคิดการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอมาใช้กับมือถือรุ่น Mi MIX ที่เปิดตัวในปีพ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา สำหรับมือถือรุ่น Redmi 5 และ Redmi 5 Plus มีการใช้แนวคิดเดียวกันนี้ในการนำเสนอสู่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มขึ้นในขณะเดียวกันก็คงรูปแบบที่กะทัดรัดไว้
ก่อนหน้านี้ เทคโนโลยีการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอจะพบได้ในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท สำหรับมือถือรุ่น Redmi 5 และ ราคา 5,790 บาท สำหรับ Redmi 5 Plus มือถือทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นตัวกำหนดนิยามใหม่ของตลาดมือถือแบบแสดงผลเต็มหน้าจอในประเทศไทย
นอกเหนือจากขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้น Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ยังคงสานต่อแนวคิดของโทรศัพท์มือถือรุ่น Redmi ด้วยประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ยาวนานในรูปแบบบิวท์อินความจุสูง 3300 และ 4000 mAh และประสิทธิภาพการทำงานเหนือชั้นด้วยชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ บนเทคโนโลยีการประมวลผลระดับ 14 นาโนเมตร ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานควบคู่กับการปรับปรุง MIUI 9 ทำให้ Redmi 5 และ Redmi 5 Plus มีแบตเตอรี่ที่ยาวนาน จนสามารถใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน
Redmi 5 Plus ซึ่งใช้ชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 625 สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมงสำหรับการเล่นวิดีโออย่างต่อเนื่อง และยังเล่นเกมได้นานเกือบ 8 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งประสิทธิภาพเช่นนี้เหมาะกับพฤติกรรมของผู้ใช้ชาวไทย อ้างอิงข้อมูลจาก Nielsen Mobile Insights[1] ที่เสนอว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการรับชมวิดีโอและเล่นวิดีโอเกมต่างๆ นอกจากนี้ประชากรชาวไทยยังใช้เวลาในการเสพอินเทอร์เน็ตบนมือถือ เฉลี่ยถึงวันละ 4.56 ชั่วโมงซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ จากรายงานโดย We Are Social[2]
สมาร์ทโฟน Redmi มีการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้เสมอด้วยราคาที่น่าทึ่งสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก นอกจากอัตราส่วนหน้าจอ 18:9 Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ยังได้นำฟีเจอร์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสำหรับสมาร์ทโฟนกลุ่มนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยชิปประมวลผล Qualcomm แบบ 8 แกน บนเทคโนโลยีการประมวลผลระดับ 14 นาโนเมตร เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง (1.25μm) สำหรับกล้องหลัก ไฟกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ และแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
หน้าจอโค้งมน อัตราส่วน 18:9
ด้วยหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว และ 5.99 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนหน้าจอขนาด 18:9 ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของหน้าจอ Redmi 5 และ Redmi 5 Plus จึงมีพื้นที่แสดงผลหน้าจอที่กว้างมากขึ้นเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอปกติที่มีอัตราส่วนขนาด 16:9 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพื้นฐานซึ่งมีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว Redmi 5 Plus มีขนาดที่พอเหมาะกระชับมือ และมีขนาดหน้าจอที่
กว้างขึ้นถึงร้อยละ 12.5 ซึ่งถือเป็นการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะใช้เพื่อการอ่านข่าว แก้ไขเอกสาร หรือแม้แต่เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือก็ตาม
นอกเหนือจากนั้น Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ต่างมีจอแสดงผลแบบโค้งมนและยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสำคัญกับความสมมาตร ทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความหรูหราตั้งแต่แรกเห็น นอกจากนี้ตัวเครื่องRedmi ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังออกแบบให้มีความโค้งมนทั้งสี่ด้านมอบความรู้สึกสบายจับถนัดมือ
ความละเอียดพิกเซล 1.25μm และระบบไฟหน้า LED แสงธรรมชาติสำหรับเซลฟี่ เพื่อภาพถ่ายคุณภาพดี
Redmi 5 และ Redmi 5 Plus มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ความละเอียด 1.25μm ยิ่งมีความละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ เซ็นเซอร์จะสามารถจับแสงได้มากขึ้นเท่านั้น ทำให้คุณภาพของรูปถ่ายออกมาดียิ่งขึ้น แม้อยู่ในที่ที่มีแสงน้อย
ด้วยระบบไฟหน้าสำหรับเซลฟี่ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ที่สวยงามและมีรายละเอียดที่โดดเด่นแม้อยู่ในสภาพแสงน้อย นอกจากนั้นโหมด always-on ยังช่วยเรื่องการถ่ายวิดีโอได้เป็นอย่างดี เมื่อใช้โหมดปรับความงาม Beautify 3.0 ทำให้ Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ช่วยทำให้ภาพถ่ายเซลฟี่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ
มาตรฐานการทดสอบระดับแนวหน้า
มือถือรุ่น Redmi จากเสี่ยวมี่ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นสมาร์ทโฟนคุณภาพสูง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ รวมทั้งการใช้ซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุด และการทดสอบด้านความน่าเชื่อถือที่ได้คุณภาพเมื่อเทียบกับแบบทดสอบที่ใช้กับโทรศัพท์รุ่นเรือธงต่างๆ
ตัวอย่างหนึ่งสำหรับความทุ่มเทของเสี่ยวมี่ ในการนำเสนอฟีเจอร์ที่มีคุณภาพสูงต่อโทรศัพท์ทุกๆ รุ่นคือ การออกแบบโดยเฉพาะเพื่อรับประกันผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับ Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง แนวโน้มที่หน้าจอแสดงผลจะแตกมีอัตราลดลงเมื่อทำโทรศัพท์มือถือหล่น เนื่องจากขอบมนด้านข้างจะหล่นลงก่อนเป็นอันดับแรก ยิ่งไปกว่านั้น การปรับปรุงหูฟังได้รวมถึงการเพิ่มชั้นที่สามารถกันน้ำได้ เพื่อช่วยรักษา Redmi 5 และ Redmi 5 Plus จากเหงื่อและฝุ่นละออง และยังลดโอกาสที่ระดับเสียงจะลดลงเมื่อผ่านการใช้งานไปแล้วอีกด้วย
เกี่ยวกับเสี่ยวมี่
เสี่ยวมี่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2553 โดยนักประกอบการ นายเหลย จุน จากวิสัยทัศน์ในการสร้าง “นวัตกรรมสำหรับทุกคน” เสี่ยวมี่เชื่อมั่นว่าทุกคนควรสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ที่สร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เสี่ยวมี่พัฒนาฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการทางอินเทอร์เน็ตที่โดดเด่นเพื่อมี่แฟน (Mi fans) โดยรวมความคิดเห็นจากมี่แฟนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่สมาร์ทโฟนในตระกูลมี่ (Mi) และเรดมี่ (Redmi) รวมถึงมี่ทีวี และกล่องรับสัญญาณ มี่เราเตอร์ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมี่อีโคซิสเต็ม (Mi Ecosystem) เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ (smart home) ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับสวมใส่ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ปัจจุบันเสี่ยวมี่มีเครือข่ายในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค อีกทั้งกำลังขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก
ช่องทางติดต่อเสี่ยวมี่ ประเทศไทย Mi Thailand
You must be logged in to post a comment.