แกะกล่อง Huawei P20 Pro สีดำสุดคลาสสิคที่หลายคนมองข้าม

Huawei P20 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกันกับ Leica ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการยกย่องว่าถ่ายภาพได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ โดยสีเด่นของตัวเครื่องได้แก่สีแมลงทับหรือ Twilight ซึ่งมีการไล่เฉดสีหลายเฉดไว้ในเครื่องเดียว จนหลายคนอาจมองข้ามสีดำสุดคลาสสิคไป บทความนี้ผมจึงขอมารีวิวแกะกล่องพร้อมพรีวิวตัวเครื่องสีดำสุดคลาสสิคให้ได้ชมกัน

Huawei P20 Pro Specs:

หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+, 408PPI
หน่วยประมวลผล HUAWEI Kirin 970 CPU, octa-core + micro core i7, 4 x Cortex A73 2.36 GHz + 4 x Cortex A53 1.8 GHz
RAM 6GB
ROM 128GB
กล้องหลัง: 40 MP (RGB, รูรับแสง f/1.8) + 20 MP (สีเดียว Monochrome, รูรับแสง f/1.6) + 8 MP (Telephoto, รูรับแสง f/2.4) รองรับโฟกัสอัตโนมัติ (laser focus, deep focus, phase focus, contrast focus)
กล้องหน้า: 24 MP, รูรับแสง f/2.0 รองรับความยาวโฟกัสคงที่
รองรับ 4G LTE 2 ซิม
USB-C
NFC
แบตเตอรี่ 4,000mAh
Android 8.1 Oreo ครอบด้วย EMUI 8.1
ราคา 27,990 บาท
สี: แมลงทับ, ฟ้า, ดำ

กล่องของ P20 Pro เป็นกล่องสีขาวพร้อมบอกชื่อรุ่นตรงกลางและโลโก้จุดแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Leica พร้อมคำว่า Triple Camera เพื่อบ่งบอกว่ารุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลังสามตัวที่ร่วมกันพัฒนากับ Leica นั่นเอง

อุปกรณ์ในกล่องทั้งหมดประกอบด้วย

ตัวเครื่อง Huawei P20 Pro
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
ใบรับประกัน
คู่มือ
Adapter Supercharge จ่ายไฟ 5V/2A 5V/4.5A และ 4.5V/5A
สายชาร์จ/ซิงค์แบบ USB A to C
หูฟังผ่านพอร์ท USB-C
หัวแปลงหูฟัง 3.5มม. เป็น USB-C

สำหรับด้านหน้าตัวเครื่องสีดำนั้นเป็นกรอบหน้าจอสีดำ มีรอยบากที่ส่วนบนของหน้าจอซึ่งเว้นไว้สำหรับลำโพงสนทนา กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ ส่วนด้านล่างหน้าจอจะมีปุ่มที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซึ่งสามารถใช้แทนปุ่มบนหน้าจอได้ด้วย (ตั้งค่าเองได้)

ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงสนทนา และมี IR Blaster ไว้ใช้สำหรับสั่งการแทนรีโมทได้, ด้านขวามีช่องเสียบถาดซิมออกมาซึ่งรุ่นนี้จะมีถาดซิมแบบ Nano Sims คู่ ไม่มีช่องให้ใส่ microSD card ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเพาเวอร์ซึ่งทำเป็นแถบสีแดงเอาไว้ วางใกล้กับปุ่มเพิ่มลดเสียง และด้านล่างมีลำโพงตัวเครื่องทางขวา และอีกฝั่งเป็นไมโครโฟน ตรงกลางเป็นช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์แบบ USB-C

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นฝาหลังแบบกระจกเงาสีดำ สะท้อนเป็นอย่างดี ทำให้ตัวเครื่องดูสวยหรูแบบเรียบง่าย อย่างไรก็ตามมีข้อเสียอย่างรุนแรงเลยก็คือเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ฉะนั้นหาเคสมาใส่จะดีกว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบเช็ดฝาหลังบ่อยๆ แต่ถ้ามั่นใจในตัวเองล่ะก็ ถือใช้เพียวๆ นี่ดูดีมากๆ ทั้งนี้ในส่วนของกล้องหลังจะเรียงจากบนลงมาล่างเป็น กล้องซูม, กล้องสีและกล้องขาวดำ

สำหรับขนาดตัวเครื่องนั้นไม่ถือว่าใหญ่เลยแม้ว่าหน้าจอจะมีขนาด 6.1 นิ้วก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้คงต้องขอขอบคุณเทรนด์ของหน้าจอยาวที่ทำให้หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องแทบไม่ต่างจากเดิมหรือราวๆ 5.5 นิ้วในปีก่อนๆ เลยล่ะ

สำหรับรีวิวแกะกล่อง Huawei P20 Pro สีดำสุดคลาสสิคที่หลายคนมองข้ามก็จบลงเท่านี้ โดยรีวิวนี้เขียนขึ้นเพื่อให้หลายคนที่ยังลังเลว่า จะเอาสีดำดีหรือไม่เพราะมันเป็นสีเดิมๆ แต่บอกเลยว่าด้วยความที่มันคลาสสิคนี่ล่ะทำให้สามารถใช้งานได้ทุกยุคทุกสมัยและเข้ากับการแต่งตัวของเราทุกรูปแบบได้ดีกว่าใครเลยล่ะ