มาแล้ว รีวิวอย่างไว Xiaomi Mi Band 4 ที่มีราคาค่าตัวประมาณ 800 บาท แต่ขายจริงต้องรอราคาในไทยอย่างเป็นทางการ คาดว่าคงไม่ต่างจากราคา Mi Band 3 เดิม หากใครสั่งช่วงเปิดตัวก็โดนบวกไปอีกอย่างน้อยๆ 30% อย่างแน่นอน แต่ก่อนจะสั่งซื้อมาชมรีวิวกันก่อน
มาไวๆ มาม่า ควิก รีวิว ฉบับแห้งกันก่อนเลยละกันครับ เป็นรีวิวจากเมืองจีน ตอนนี้คงกำลังสั่งกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ราคาก็แล้วแต่ร้านลองหากันดูนะ สำหรับ Mi Band 4 ที่เรียกว่าใหม่สุดๆ รู้สึกว่า Mi Band 3 ยังดีอยู่เลย 4 ออกมาอีกละ เร็วมาก ไม่ทิ้งช่วงห่างเหมือนเมื่อรุ่น 2 ที่ค้างอยู่นาน คราวนี้ Mi Band 4 มาพร้อมกับ AI ของ Xiaomi ที่ได้ชื่อว่า Xiao AI
กล่อง ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วกล่องฉบับใหม่นี้ปรับปรุงมาตั้งแต่ Mi Band 3 ล้อตใหม่ๆ แล้วนะ ถ้าเป็น Mi Band 3 รุ่นแรกๆ กล่องจะเป็นอีกแบบนึง
สายยังทำมาจาก TPU คุณภาพดีเหมือนเดิม แต่ว่าคนรีวิวมองว่าใส่ไม่ง่ายนะ อาจจะเป็นเพราะตัวล็อคสายที่มันใส่ยากกว่าค่ายอื่นๆ หน่อย แต่ก็แน่นดีนะผมว่า
ตัวหน้าจอที่มีการแสดงผลใหญ่ขึ้น 39.9% และเป็นสีด้วย หน้าโค้ง 2.5D และเป็น AMOLED ทำให้สีชัดเจน อีกทั้งยังกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย ความละเอียดต่างๆ ก็ดีกว่า Mi Band 3 อย่างแน่นอน
ความละเอียดหน้าจอที่มากขึ้นทำให้แสดงรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้นเช่นกัน มีธีมติดมาด้วย 77 ธีม ฟังก์ชั่นต่างๆ หลักๆ ก็คือ Notification แจ้งเตือนต่างๆ ส่วนพวกกีฬาและฟังก์ชั่นอื่นๆ เน้นใช้งานร่วมกับ Mi Fit แอป
เปิดการเตือนสายเข้าได้ เพื่อจะไม่พลาดการรับสายคนโทรเข้ามา อันนี้ก็มีอยู่แล้วใน Mi Band 3 นะ แต่ Mi Band 4 มีเวอร์ชั่น NFC ด้วย สามารถใช้ปลดล็อคประตูอัตโนมัติของ Xiaomi ที่เป็น Smarthome ได้ด้วย
ถ้าอยู่ในจีนก็ใช้จ่ายโดยใช้ Mi Band 4 จ่ายเงินได้เลยผ่าน Alipay รองรับการออกกำลังกาย 6 อย่าง ว่ายน้ำ วิ่งในร่ม วิ่งข้างนอก ออกกำลังกาย ปั่น และ เดิน รองรับการกันน้ำที่ 5ATM หรือที่ลึก 50 เมตรเลยทีเดียว และมีเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว 6 แกน ออกแบบมาเพื่อจับสโตรกในการว่ายน้ำ จะรู้ว่าเราว่ายท่าอะไร เช่นฟรีสไตล์ ผีเสื้อ หรือ กรรเชียง ท่่าผสมก็บอกได้ด้วยนะ สุดยอด นอกจากนั้นยังจับการนอนได้อย่างแม่นยำอีกด้วย แต่ก็ต้องดูผ่านรีพอร์ทในแอปเหมือนเดิม
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดวัน หรือจะตั้งค่าให้วัดเป็นครั้งคราวก็ได้ ถ้าเปิดทั้งวันก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึง 20 วันตามโฆษณาหรือไม่ ซึ่งแบตขนาด 125 mAh ถือว่ามากพอดู แต่ก็แลกการการใช้งานที่ต้องดูว่าเปิดอะไรบ้างล่ะนะ น้ำหนัก 10.7 กรัมก็หนักกว่า Mi Band 3 นิดหน่อย
ตัวสายรัดข้อมือใช้ร่วมกับ Mi Band 3 ได้ เค้าว่าแบบนั้นนะ แต่ว่าใช้ที่ชาร์จร่วมกันไม่ได้ ไม่งั้นเค้าจะขายของใหม่ได้ไงจริงไหมล่ะ
ซึ่งหน้าสัมผัสหรือ ขั้วคอนแทคสำหรับชาร์จจะอยู่ด้านหลังตรงข้ามกับหน้าจอ นั่นมายถึงการชาร์จที่เปลี่ยนไปจากเดิม
Xiaomi AI Assistant ที่เรียกสั้นๆ ว่า Xiao AI ที่มีอยู่บน Mi Band 4 คือพูดโต้ตอบไม่ได้นะ แต่สามารถโต้ตอบมาเป็นตัวอักษรได้
นอกจากนั้นยังรองรับการสั่งงานควบคุมอุปกรณ์ IoT ได้ด้วย สามารถเรียก Xiaomi เพื่อปิดเปิด พัดลมหรือหลอดไฟได้เลย ภาษาจีนเท่านั้นนะ
ถ้าเปรียบเทียบกับ Amazfit Smart watch แล้ว Mi Band 4 น่าจะโดนใจมากกว่า เพราะ Mi Band 4 รองรับการใช้งานร่วมกับ Mijia Smarthome ได้
สรุปว่ามีความต่างจากเดิมอยู่พอสมควร หากราคาขายเท่าเดิมก็น่าเปลี่ยน หรือใครที่อยากจะได้ใหม่ ก็จัดไป แต่ต้องบอกเลยนะครับว่า AI นี่ภาษาจีนล้วน และช่วงแรกเฟิร์มแวร์เช็คดีๆ ว่าเป็นจีนหรือ inter ช่วงแรกน่าจะเป็นจีนทั้งหมด รอสักพักถึงจะมีการอัปเดทเฟิร์มแวร์ให้รองรับภาษาไทยได้นะ
ส่วนตัวแล้ว ด้านการแสดงผลนับว่าปรับปรุงมาก รวมถึงรองรับการว่ายน้ำ ที่มีเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว 6 แกน แต่ส่วนอื่นๆ ผมว่าไม่ได้ใช้หรอก ไม่ว่าจะเป็น Xiao AI เพราะว่าเป็นภาษาจีนล้วน แต่คนจีนน่าจะชอบ เพราะสะดวกจริงๆ ถ้าใช้งานได้นะสนุกเลย แถมรองรับการสั่งงานร่วมกับ Smarthome ได้อีกด้วย ไว้ถ้าได้มาแล้วจะมาบอกอีกทีว่าดีป่าวนะ
รีวิวต้นฉบับจาก gizmodo แปลและเรียบเรียงใหม่โดย happyman @pdamobiz.com
เวลาชาร์จต้องแกะออกจากสายมั้ยครับ
ต้องแกะจ้า
ใช้กับios ไอโฟนได้ไหมครับ^^