กลุ่มทรู โชว์ผลงานดีต่อเนื่อง กำไร 1.8 พันล้านบาท ไตรมาส 2 ปี 2562

 

กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม 2562 – บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (SET: TRUE) – กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงานที่ยังคงเติบโตและกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลกำไร 1.8 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจากการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุในไตรมาส 2 ปี 2562 ซึ่งกำไรที่เติบโตสูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นเป็น 26.2 พันล้านบาท หนุนโดยการเติบโตเหนืออุตสาหกรรมของรายได้จากการให้บริการของ ทรูมูฟ เอช ที่ร้อยละ 6.3 จากปีก่อน และมาตรการบริหารค่าใช้จ่ายที่ส่งผลบวกอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตและรายงานกำไรในปี 2562 ได้ตามเป้าหมาย

ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของกลุ่มทรูเติบโตและสร้างผลกำไรต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ซึ่งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าคุณภาพและสร้างความผูกพันของลูกค้าต่อกลุ่มทรูได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูยังคงเติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรม โดยทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฐานลูกค้าที่เติบโตในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 นอกจากนี้ การมุ่งเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าด้วยการผสานบริการไฟเบอร์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 1 Gbps พร้อมคอนเทนต์และบริการด้านดิจิทัลครบวงจร รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายภายใต้กลุ่มทรู สร้างความแตกต่างและความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มทรูได้อย่างชัดเจน โดยกลุ่มทรูจะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งจะสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อให้กลุ่มทรูเติบโตเข้มแข็งได้อย่างต่อเนื่องทั้งด้านผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางการเงิน”

 

นายศิริพจน์ คุณากรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “กลุ่มทรูมุ่งเน้นกลยุทธ์ การทำการตลาด และการบริหารพื้นที่แบบจุลภาคอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเดินหน้าผลักดันองค์กรสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้สร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากสามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมปรับตัวให้เข้ากับสภาวะการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังเดินหน้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยทรูมูฟ เอช มีสถานีฐานเครือข่ายจำนวนมากกว่า 76,000 สถานี รวมทั้งพื้นที่ให้บริการทรูไวไฟอีกมากกว่า 1 แสนจุด และทรูออนไลน์มีเครือข่ายไฟเบอร์บรอดแบนด์ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 15 ล้านครัวเรือน ทั้งนี้ กลุ่มทรูจะมุ่งขยายช่องทางการขายและพื้นที่ให้บริการ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรและคู่ค้าเพื่อเข้าถึงและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของกลุ่มอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลให้กลุ่มทรูเติบโตได้สูงต่อไปในครึ่งหลังของปี”

 

ทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตแข็งแกร่งและผลักดันการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม โดยมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็น 19.5 พันล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2562 ส่วนใหญ่จากการเติบโตของกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนและรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามากกว่าร้อยละ 3 โดยการเติบโตอย่างสูงของทรูมูฟ เอชนี้ เป็นผลจากจุดแข็งด้านเครือข่ายคุณภาพสูง แคมเปญทางการตลาดที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด การผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปิดตัว “CMLink TrueMove H ซิม 4G ไร้พรมแดน ไทย-จีน” ผ่านความร่วมมือกับไชน่าโมบายล์อินเตอร์เนชั่นแนล (ซีเอ็มไอ) ได้รับผลตอบรับที่ดี ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศจากลูกค้าของพาร์ทเนอร์ (inbound traffic) ส่งผลให้รายได้จากบริการโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศของทรูมูฟ เอช เติบโตในอัตราเลขสองหลักจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2 ปี 2562 ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิประมาณ 229,200 ราย และขยายฐานลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 29.8 ล้านราย ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดฐานลูกค้าของทรูมูฟ เอช เติบโตเป็นร้อยละ 32.4

 

ทรูออนไลน์ คงความเป็นผู้นำบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตและเพิ่มฐานลูกค้าคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งเน้นด้านคุณภาพ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ โดยในไตรมาส 2 ปี 2562 ที่ผ่านมา ทรูออนไลน์ มีลูกค้าบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายใหม่สุทธิมากกว่า 64,000 ราย ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านราย และผลักดันรายได้ให้เติบโตจากไตรมาสก่อนเป็น 6.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ ผลตอบรับที่ดีต่อแพ็กเกจไฟเบอร์ 1Gbps และแคมเปญร่วมกับกล่อง TrueID TV ส่งผลบวกต่อเนื่องและผลักดันฐานลูกค้าพรีเมียมของทรูออนไลน์ให้เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การเดินหน้าอัพเกรดเทคโนโลยีผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการปรับเพิ่มความเร็วให้ลูกค้าปัจจุบันยังได้เพิ่มความผูกพันและรักษาฐานลูกค้าให้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งการเปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ Gigatex Fiber Router ที่ให้ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มสปีดระดับกิ๊กกะบิต พร้อมทั้งกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผสานคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟภายใต้กลุ่มทรู เพื่อสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และเพิ่มประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตให้ดียิ่งขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มรายได้และ ARPU ให้กับกลุ่มทรูต่อไป

 

ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการที่เติบโตร้อยละ 3.7 จากไตรมาสก่อนเป็น 3.0 พันล้านบาท หนุนโดยรายได้จากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์โดยเฉพาะการจัดคอนเสิร์ตเกาหลีในระหว่างไตรมาส ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์มุ่งพัฒนาและนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพสูงเพื่อตอบสนองความชอบของลูกค้าได้ตรงจุด อีกทั้งความร่วมมือและการผสานประโยชน์จากหลากหลายแพลตฟอร์มของกลุ่มทรูโดยเฉพาะกล่อง TrueID TV สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและขยายฐานผู้ชมคอนเทนต์เพิ่มเติมจากฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านรายของทรูวิชั่นส์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล 2019/20 – 2021/22 ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และ ไฮไลท์ ครบทั้ง 380 แมตช์ ผ่านทุกแพลตฟอร์มทั้งทีวี ออนไลน์และดิจิทัล นับเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตของรายได้จากคอนเทนต์ทั้งแพ็กเกจของทรูวิชั่นส์และการ sublicense บางแมตซ์ให้ผู้บริการฟรีทีวีรายอื่น รวมถึงรายได้จากการโฆษณาในทุกช่องทางทั้งโทรทัศน์ มีเดียและดิจิทัล

ทรูดิจิทัลกรุ๊ป มุ่งพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรม แพลตฟอร์มและโซลูชั่นส์แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตจากบริการต่างๆ เช่น บริการด้านดิจิทัล บริการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics) บริการ IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วไปและกลุ่มองค์กร ตัวอย่างแพลตฟอร์มดิจิทัลจากทรูดิจิทัลกรุ๊ป ได้แก่ ทรูไอดี ผู้นำแพลตฟอร์มในหมวดบันเทิง ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการต่อเดือนมากกว่า 19 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2562 โดยแพลตฟอร์ม ทรูไอดี ได้รวบรวมคอนเทนต์บันเทิงคุณภาพสูง ทั้งภาพยนตร์ รายการทีวี ดนตรี กีฬา และบทความต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสิทธิประโยชน์ อย่าง ทรูยู และ                    ทรูพอยท์ในการแลกรับสิทธิพิเศษมากมายทั้งกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง และบันเทิง นอกจากนี้ ทรูไอดี ยังได้ขยายการให้บริการไปยัง ทรูไอดี ทีวี เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับชมคอนเทนต์และสิทธิประโยชน์จากหน้าจอโทรทัศน์ได้เช่นกัน มากไปกว่านั้น การที่ทรูวิชั่นส์กรุ๊ป ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก อังกฤษนั้น ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ทั้ง               ทรูไอดี และทรูไอดี ทีวี จากพรีเมียมคอนเทนต์ การโฆษณาผ่านช่องทางดิจิทัล และการทำการตลาดแบบ Affiliate marketing อีกทั้งยังช่วยเสริมความผูกพันของลูกค้าที่ใช้บริการอื่นๆ ภายใต้กลุ่มทรูได้อย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนบริการดิจิทัลสำหรับลูกค้าองค์กร ได้แก่แพลตฟอร์ม Analytics สามารถสร้างแคมเปญการตลาดดิจิทัลเฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเพื่อเข้าถึงแต่ละกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด นอกจากนี้ บริการด้าน IoT ของทรูดิจิทัลกรุ๊ป ได้เดินหน้าพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นส์ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ การเกษตร ค้าปลีก สุขภาพ ขนส่งและโลจิสติกส์ ล่าสุดได้มีอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อและใช้บริการมากกว่า 193,000 อุปกรณ์ ซึ่งเติบโตร้อยละ 14 จากไตรมาสก่อนหน้า



ถูกใจบทความนี้  0