รีวิว Vivo S1 Pro ค้นหาสไตล์ที่เป็นคุณ

วันนี้มาพามาชมรุ่นใหม่ ตัวล่าสุดจากค่าย Vivo ที่ออก Vivo S1 Pro สเปคดีราคาสบายกระเป๋า คุ้มสุดอีกรุ่นลงตลาด เป็นการต่อยอดจากซีรีส์ S ซึ่งรุ่นนี้ราคาไม่ถึงหมื่นบาท แต่ได้สเปคและการใช้งานมาครบถ้วน ทั้งกล้อง 4 ตัว ที่รองรับความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ตามสไตล์ที่เป็นตัวเรา ยังมีกล้องด้านหน้า 32 ล้านพิกเซลที่บรรดานักเซลฟี่ชื่นชอบ พร้อมทั้งดีไซน์ที่ดูทันสมัย สวยงาม  มาพร้อมแบต 4500 mAh ที่รองรับการชาร์จเร็วเทคโนโลยี Dual Engine Fast Charging

 

สำหรับ Vivo S1 Pro เป็นรุ่นที่ออกมาต่อยอดจากรุ่น S1 เดิม แต่ทว่ามีการออกแบบดีไซน์ที่แตกต่างออกไป การดีไซน์แบบ Diamond ที่มาเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับรุ่นนี้ และยังคงความสวยงามเอาไว้อย่างครบถ้วน มีการปรับเรื่องกล้องให้ดียิ่งขึ้น กล้อง 4 ตัวที่ไม่ได้อยู่เฉพาะบน V ซีรีส์เท่านั้น Vivo ได้เติมซีรีส์ S เข้ามาเพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้งานกล้อง AI Quad Camera เรียกว่าเป็นน้องของซีรีส์ V ใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน และยังคงมีจุดเด่นในเรื่องของการชาร์จเร็ว กล้องด้านหน้าที่ 32 ล้านพิกเซล ที่ไม่ได้เป็น Pop up แต่ความละเอียดยังคงได้เท่ากัน และทำงานได้ลื่นเพราะ RAM ขนาด 8GB พร้อม ROM ที่มากพอใช้งาน 128GB เรื่องขนาดตัวเครื่องและหน้าจอ 6.38 นิ้วก็พอกับการใช้งานเช่นกัน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม หน้าจอ Super AMOLED สีสวยสด พร้อมทั้งใช้งานได้ทั้งวันด้วยแบตขนาดใหญ่ พร้อมทั้งชาร์จเร็ว Dual Engine Fast Charging

สเปคและรายละเอียด Vivo S1 Pro

CPU : Snnapdragon 665 Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz
Display : 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2380×1080 พิกเซล SuperAMOLED Full HD+
GPU: Andreno 610
Memory: RAM 8GB ROM 128GB
Size: 159.25 × 75.19 × 8.68 มม. 186.7 กรัม
OS: Funtocuh OS 9.1 based on Android 9 ล่าสุด
Connection : WiFi 802.11 a/b/g/n/ac , Bluetooth 5.0 , OTG, รองรับ USB-C
Mobile : 2G/3G/4G 4G FDD- LTE(850/900/1800/2100) TDD LTE 2300MHz UL 75Mbps DL 400Mbps
GPS: Assistant- GPS,GLONASS,Beidou,Galileo
Camera: กล้องหลัง 48MP f/1.8+8MP f/2.2+2MP f/2.4+2MP f/2.4 กล้องหน้า 32MP f/2.0
Battery : 4,500 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charging
Other: fingerprint บนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
Color: Knight Black, Fancy Sky
Price: 9,999 บาท

รายละเอียดตัวเครื่อง

สำหรับดีไซน์ของ Vivo S1 Pro มีสองสีให้เลือกคือสีดำ Knight Black ที่ได้จับมารีวิวในครั้งนี้ และสีฟ้าอมชมพู Fancy Sky ตัวอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีให้ครบทั้ง เคส กันรอยหน้าจอก็ติดมาให้พร้อมใช้ มีหูฟัง และวอลล์ชาร์ตที่รองรับ Dual Engine Fast Charging

ซึ่งสีดำ Knight Black มีความเป็นสีดำที่มาพร้อมกับความเปล่งประกาย สะท้อนกับแสง เงางาม แต่อาจจะรอยนิ้วมือ ซึ่งก็เช็คทำความสะอาดง่ายนะครับ

ด้านข้างถูกออกแบบปุ่มให้เด่นชัด ด้วยปุ่มปิด เปิดเครื่องที่เป็นสีแดง เป็นสัญลักษณ์ที่ดูโดดเด่นมาก และจับถนัดมือจากความโค้งของตัวเครื่อง และการออกแบบที่ไม่ได้เหลี่ยมมุม ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมิตรและเข้มแข็งไปในตัว

ขนาดตัวเครื่องขนาดหน้าจอ 6.38 นิ้ว ที่ให้ความละเอียด Full HD+ มีความสวยสดที่หน้าจอ เพราะใช้ Super AMOLED แสดงสีได้ครบถ้วนและสวยงาม และยังให้พื้นที่การแสดงผลบนหน้าจอสูงถึง 90%

ส่วนหน้าจอยังมีติ่งหยดน้ำที่คุ้นเคยกันดีในหลายรุ่นก็มีเช่นกัน ตรงส่วนของกล้องด้านหน้าจะอยู่ตรงหยดน้ำนี่เอง โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้การเซลฟี่ชัดเจน และยังมีโหมดบิ้วตี้ที่ให้ความสวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งคุณศัลแต่อย่างใด กล้องด้านหน้านับว่าเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ Vivo อยู่แล้วอันนี้เค้าการันตีความสวยจริงๆ

และการใช้งานนั้น Vivo ก็ทำได้ดี โดย Vivo S1 Pro  มีการสแกนนิ้วบนหน้าจออีกด้วย เรื่องความสำคัญของข้อมูล แม่นยำและปลอดภัย

 

ส่วนด้านล่าง วันนี้ Vivo S1 Pro ก็ยังมาพร้อมกับ USB-C พร้อมกับแบตเตอรี่ก็ 4500 mAh ใช้งานกันยาวๆ อยู่แล้ว ทั้งวันสบายแน่นอน

และยังรองรับการชาร์จไว Dual Engine Fast Charging เป็นเทคโนโลยีของ Vivo ที่ใส่มาให้ในรุ่นนี้เพื่อการชาร์จที่ไวขึ้น

ด้านบนของตัวเครื่องยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ที่ยังเป็นพื้นฐานการใช้งานการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

ถาดซิมเป็นแบบ Hybrid ที่รองรับ 2 ซิม แต่อีกช่องนึงจะสลับใส่เป็น micro SD ก็ได้  กรณีที่ใช้งานไม่พอ แต่ความจุในตัวเครื่องเองก็ 128 GB ในปัจจุบันถือว่ามากพอที่จะใช้งานได้ครบอยู่ รองรับ 4G ในไทยครบทุกค่าย

ด้านหลังตัวเครื่อง ที่ออกแบบมาเป็นสีดำเงางาม ที่ให้ชื่อว่า Knight Black   มาพร้อมกับกล้อง 4 เลนส์ มีความฉลาด AI  จัดมาให้เพื่อเก็บภาพได้ทุกระยะ ด้วยความละเอียดของกล้องด้านหลัง กล้องหลัง 48MP f/1.8+8MP f/2.2+2MP f/2.4+2MP f/2.4 เก็บภาพได้ครบทุกระยะ

ซึ่งตำแหน่งการวางมุมกล้องจะเป็นลักษณะของ กล้องเรียงกันในแนวตั้ง และมีหนึ่งตัวอยู่ทางด้านขวา มีแฟลชอยู่ทางด้านล่าง และมีตัวกรอบของตัวกล้องเป็นสี่เหลี่ยมตัวด้วยเส้นสีแดง ที่ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อดูแค่ตัวกล้องก็จะรู้ว่าเป็น Vivo S1 Pro

ประสิทธิภาพการทำงานและซอฟท์แวร์

ความแรงของตัวเครื่อง แม้ว่าจะไม่ได้ใส่ตัวแรงมาให้ แต่สำหรับ Snapdragon 660 ก็พอกับการใช้งานโดยภาพรวม รวมถึง RAM ที่จัดมาให้ถึง 8GB ซึ่งเยอะมากพอ ที่ช่วยให้การทำงานต่างๆ ลื่นไหล ไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ความบันเทิงต่างๆ ด้วยราคาระดับนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ด้านดีไซน์ก็ปรับมาจาก Vivo S1 พอสมควร สวยกว่า งามกว่า คุ้มค่ามากกว่า

ยังมาพร้อมกับ Android 9.0 ที่มี funtouch OS 9 แบบฉบับ Vivo ที่ออกแบบมาให้การทำงานครบถ้วน สะดวกยิ่งขึ้น

 

ฟังก์ชั่นเรื่องหน้าจอ ทั้งการจับภาพแบบใช้สามนิ้วปัดลงมา การใช้งานหน้าจอแยก กรณีใช้งานแอพสองแอพพร้อมกัน รวมถึงหน้าจอแบบอัจฉริยะ ก็เช่นเดียวกัน เรียกว่าหน้าจอขนาด 6.38 นิ้วที่มีความสามารถหลากหลายด้วย funtouch OS

การปรับปุ่มนำทาง ใช้งานได้ทั้งปุ่ม softkey ปกติ ปรับเปลี่ยนการทำงานได้แล้วแต่ถนัด รวมถึงยังรองรับ full touch ที่ใช้การปัดในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย

สามารถปรับเรื่องรายละเอียดการจดจำใบหน้า การปลดล็อคด้วยนิ้วผ่านหน้าจอ และการชาร์จเร็วได้ ให้มีรูปแบบหรือเอฟเฟ็คที่ต้องการ หลากหลายรูปแบบ ยังมีการปรับแต่งและการใช้งานอื่นๆ เช่น Easy Touch ก็ยังคงมีอยู่ครบถ้วน ระบบ fuืtouch OS 9 นั้น ยังครบถ้วนเช่นเดิม เพิ่มเติมคือมีการปรับแต่งให้เข้ากับ Vivo S1

 

นอกจากนั้นเอง การเล่นเกมแม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ได้เน้นการเล่นเกม แต่ก็สามารถเล่นเกมได้เป็นอย่างดี แต่กราฟิคปรับละเอียดไม่ได้ให้ปรับตาม default ก็จะเล่นได้ลื่นๆ แถมแบตอึดแบบนี้เล่นกันได้ยาวๆ และแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะมี Ultra Game Mode ติดมาให้ ทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ไม่สะดุด

หากในระหว่างการเล่นเกมเกิดจำเป็นต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อวางแผนขณะเล่น หรือแม้แต่มีการติดต่ออื่นๆ ก็สามารถใช้โหมดเรียกแอพเกี่ยวกับการคุยเช่น Line,facebook messenger และอื่นๆ ได้ด้วยนะ โดยจะมีหน้าต่าง pop up ขึ้นมาให้คุยได้เลย

ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว Vivo S1 Pro พร้อมกับ funtouch OS 9 กับการใช้งานที่ลงตัว เหมาะกับทุกสถานการณ์

มาดูเรื่องกล้องกันบ้าง

 

Vivo S1 Pro มาพร้อมกับ AI Quad Camera ที่มีกล้องด้านหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP f/1.8 ที่เป็นกล้องหลัก ความละเอียดสูง ในปัจจุบันอาจจะถือว่าเป็นมาตรฐานของ Smartphone ไปแล้วก็ว่าได้ ยังมีกล้องตัวรองความละเอียด 8MP f/2.2 สำหรับเก็บภาพมุมกว้างที่เก็บได้กว้างถึง 108 องศา ยังมีกล้องอีกสองตัวความละเอียด 2MP f/2.4 และ 2MP f/2.4 สำหรับเก็บภาพโบเก้ และมาโคร ที่เรียกว่าครบทุกช่วงก็ว่าได้

เมนูต่างๆ ใช้งานง่าย มีโหมดให้เลือกมากมาย ทั้ง เซลฟี่สุดน่ารักแบบ AR, ภาพคนม โหมด 48 ล้านพิกเซล พาโนรามา Live photo โหมดมืออาชีพ และยังมีการถ่ายวีดีโอแบบปกติ และมีภาพเคลื่อนไหวช้า และไทม์แลปส์ เรียกว่าโหมดครบถ้วนเลยทีเดียว

นอกจากนี้มีมีฟิลเตอร์ต่างๆ ให้พร้อมกับการปรับภาพในมุมกว้าง โบเก้ หรือ super macro ให้เลือกจับภาพในรูปแบบใกล้สุดๆ ได้เลย

แน่นอนว่าการถ่ายภาพคนนั้น ยังมีโหมดภาพใบหน้าสวย ที่สามารถปรับรายละเอียดความสวยบนใบหน้าของเราได้มากจริงๆ ทั้งตา จมูก ปาก หน้าเนียนขาวใส ได้ครบหมด

และที่โดดเด่นกว่าใครด้วยโหมดท่าทาง  ที่มีแอคชั่นต่างๆ ให้เราได้โพสท่าตามได้  ถ้าคิดท่าไม่ออก Vivo S1 Pro สามารถช่วยให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว

นอกจากนั้นยังซูมได้มากสุดถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

 

ตัวอย่างภาพกล้องด้านหลัง

ฟิลเตอร์แบบต่างๆ

ภาพมุมกว้าง

ภาพโบเก้

ภาพเซลฟี่ AR

โหมด Super Macro

ซูมได้มากถึง 10 เท่า(แบบดิจิตอล) และซูมปกติได้ 2 เท่า

ภาพตัวอย่างทั่วไป

กล้องหน้า 32MP f/2.0 ที่ความละเอียดระดับนี้รับรองได้เลยว่า Vivo S1 Pro เก็บครบทุกรายละเอียดเซลฟี่ แน่นอนว่า Vivo S1 Pro ไม่ปล่อยให้หน้าสดหลุดไปได้โดยที่ไม่สวยอย่างแน่นอน ดังนั้น Vivo S1 Pro มีโหมดต่างๆ ให้ใช้งานไม่แพ้กล้องด้านหลัง และทำให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นด้วยการโพสท่าอีกด้วย มีโหมดต่างๆ ให้เลือกเช่น พาโนรามา Live Photo  โหมดหน้าสวย AR เซลฟี่ ก็ครบ

โหมดการถ่ายภาพบุคคลที่มีการปรับให้เป็นแสงธรรมชาติ หรือสดชื่นได้ แน่นอนว่าไม่พลาดด้วยการปรับใบหน้าให้สวยขึ้นทันตา

เหมือนกับกล้องด้านหลังที่มีตัวอย่างให้โพสท่าทางการถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ

มีฟิลเตอร์ต่างๆ ให้เลือกเพียบ

แน่นอนว่าหากเน้นด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ก็มีแสงเอฟเฟ็คต่างๆ ให้เพียบเช่นกัน

ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ AR เซลฟี่ ที่มีให้เลือกเล่นสนุกมาก ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวแบบสั้น

ตัวอย่างภาพจากกล้องด้านหน้า

 

 

สรุปการใช้งาน Vivo S1 Pro

เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่ราคาดีต่ำกว่าหมื่นบาท ที่คุ้มค่า ดีไซน์สวยด้วยการดีไซน์แบบ Diamond ที่ได้แรงบรรดาลใจจากเครื่องประดับที่หรูหรา  ขนาดหน้าจอใหญ่มาตรฐาน 6 นิ้วขึ้นไป แต่ได้เป็นหน้าจอคมชัดเพราะใช้ Super AMOLED รวมถึงยังได้เรื่องของ RAM 8 GB ที่มาช่วยให้การทำงานลื่นไหล พื้นที่ 128GB พอกับการใช้งานอยู่แล้ว ระยะการใช้งานได้ทั้งวันสบายมาก ไม่พอไม่เป็นไรเพราะมีการชาร์จเร็ว Dual Engine Fast Charging  ที่รองรับการใช้งานเพิ่มเติมได้อีก ยังมีเรื่องของความปลอดภัยที่ยังมีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ Vivo ถือได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ และมีปรับแต่งเรื่องของเอฟเฟ็คที่แสดงบนหน้าจอทั้งการชาร์จและสแกนลายนิ้วมือรวมถึงการอันล็อคด้วยใบหน้าด้วย แต่ทีเด็ดก็คือเรื่องกล้อง กล้องด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล คมชัดเก็บรายละเอียดได้ครบ และกล้องด้านหลังกับ AI Quad Camera กล้อง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับการเก็บภาพได้ทุกระยะ ภาพมุมกว้างที่เก็บได้กว้าง 108  องศา ภาพมาโครที่ ไม่แค่นั้นยังสนุกกับการถ่ายภาพได้ทั้ง AR เซลฟี่ มีเรื่องของการโพสท่าต่างๆ ที่ Vivo S1 Pro ออกแบบมาให้ทั้งคนถ่ายและคนที่เป็นแบบสะดวกและได้ท่าทางต่างๆ เปรียบเหมือนนางแบบกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเรื่องการถ่ายภาพคน ใบหน้าสวย ที่ปรับแต่งโครงหน้าได้ละเอียดมาก โดนใจสาวๆ ที่ชื่นชอบเซลฟี่ และทำให้การค้นหาภาพถ่ายจาก Vivo S1 Pro ที่จะบอกความเป็นตัวตนของเราได้แน่นอน มีข้อสังเกตเล็กน้อย คือรุ่นนี้อาจจะไม่ได้เน้นด้านเล่นเกม มีโหมด Ultra Gaming อยู่แต่ก็แนะนำว่าให้ปรับความละเอียดปกติแล้วจะเล่นได้สบาย โดยภาพรวมแล้วราคา 9,999 บาท เปิดตัวที่ราคานี้ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะ



ถูกใจบทความนี้  4