ซัมซุงเปิดตัว “Galaxy Z Flip” สมาร์ทโฟนพับได้โฉมใหม่ ที่สุดแห่งดีไซน์และนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต

ครั้งแรกของซัมซุงกับนวัตกรรมจอกระจกพับได้ ที่จะปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนแบบเดิมๆ

ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา (11 กุมภาพันธ์ 2563) ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นล่าสุด Galaxy Z Flip (กาแลคซี่ ซี ฟลิป) ปฏิวัติวงการอีกครั้งด้วยดีไซน์ใหม่อันโดดเด่นและสวยงามทันสมัยกับการพับในแนวตั้ง มาพร้อมนวัตกรรมจอกระจกพับได้เป็นครั้งแรก โดยหน้าจอของ Galaxy Z Flip มีขนาด 6.7 นิ้ว และเมื่อพับครึ่งจะมีขนาดเล็กกะทัดรัดพอดีมือ[1] นวัตกรรมกลไกบานพับ ‘Hideaway Hinge’ และดีไซน์การใช้งานที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นพิเศษของ Galaxy Z Flip นี้ ได้เปลี่ยนนิยามของการถ่ายภาพ การแบ่งปันประสบการณ์ และการเพลิดเพลินไปกับคอนเทนท์บนสมาร์ทโฟนไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยที่สุดแห่งดีไซน์ไปจนถึงประสบการณ์ใช้งานอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Galaxy Z Flip กลายเป็นผู้บุกเบิกโลกใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนจอพับได้อย่างแท้จริง

“ความตื่นเต้นที่มีต่อ Galaxy Fold คือแรงบันดาลใจที่สนับสนุนให้เราเดินหน้าพัฒนาสมาร์ทโฟนในกลุ่มจอพับได้ วันนี้ Galaxy Z Flip จึงเปรียบเสมือนก้าวครั้งสำคัญ ซึ่งเรานำเสนอเทคโนโลยีใหม่ทั้งด้านดีไซน์ หน้าจอ รวมไปถึงประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานสมาร์ทโฟน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Galaxy Z Flip ซัมซุงได้นิยามความเป็นไปได้ใหม่ให้กับอุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งหมายถึงการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคอีกด้วย” ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว

สู่ทศวรรษใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับได้

หาก Galaxy Fold คือผู้ปฏิวัติวงการและบุกเบิกยุคของสมาร์ทโฟนพับได้ วันนี้ Galaxy Z Flip ได้กลายเป็นผู้กำหนดทิศทางของสมาร์ทโฟนพับได้ในทศวรรษใหม่นี้อีกครั้ง โดยเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกใน ตระกูล Z พอร์ตโฟลิโอใหม่ล่าสุดจากซัมซุง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาด พร้อมเดินหน้าต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีจอพับได้ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจและเซอร์ไพรส์อีกมากมายนับจากนี้

 

เมื่อแฟชั่นมาบรรจบกับเทคโนโลยี

ดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Z Flip ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่หลงใหลในแฟชั่น ขณะเดียวกันก็มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งทุกองค์ประกอบของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

  • สไตล์ที่พกพาได้ในกระเป๋า – Galaxy Z Flip เมื่อพับแล้วจะมีขนาดเล็กเท่ากระเป๋าสตางค์ จึงสามารถใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าถือได้อย่างสบาย แม้จะมีขนาดกะทัดรัดพอดีมือ แต่เมื่อกางออกจะพบกับหน้าจอสวยงามขนาดใหญ่ 7 นิ้ว[2] นอกจากนี้ Galaxy Z Flip ยังโดดเด่นสะดุดตาด้วยเฉดสีที่ทันสมัย ดีไซน์โค้งมนสะท้อนความเรียบหรู เพิ่มเสน่ห์ด้วยรูปแบบการพับในแนวตั้งที่สามารถพับปิดได้อย่างนุ่มนวล
  • ครั้งแรกของโลกกับจอกระจกพับได้ – หน้าจอแบบ Infinity Flex Display ของ Galaxy Z Flip มาพร้อม Ultra Thin Glass (UTG) หรือนวัตกรรมแผ่นกระจกที่สามารถโค้งงอได้ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนาของซัมซุง ช่วยให้จอภาพมีความเพรียวบาง มอบสัมผัสที่หรูหราและทันสมัยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนสมาร์ทโฟนพับได้ อีกทั้งกล้องหน้าของ Galaxy Z Flip ถูกออกแบบให้อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านบน จึงไม่มีรอยบากบนหน้าจอมากวนใจ ด้วยสัดส่วนของจอที่ 9 : 9 Galaxy Z Flip ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์โปรดโดยเฉพาะคอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์ในอัตราส่วนภาพที่ 21 : 9
  • กลไกบานพับแบบใหม่ – Galaxy Z Flip ใช้กลไกบานพับแบบใหม่ที่เรียกว่า Hideaway Hinge ซึ่งเป็นผลงานออกแบบทางวิศวกรรมที่คำนึงถึงความสวยงาม ประกอบด้วยกลไก Dual CAM ขนาดเล็กที่ช่วยให้ทุกการพับเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคง โดยสามารถกางออกและหยุดได้ตามองศาที่ต้องการเหมือนกับบนหน้าจอแล็ปท็อป ระบบบานพับ Hideaway Hinge ยังผสานการทำงานเข้ากับเทคโนโลยีระดับสูงของซัมซุง ในการใช้เส้นใยไนลอนที่พัฒนาขึ้นพิเศษเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมและฝุ่นที่เข้ามาในบานพับ

 

ประสบการณ์ครั้งใหม่บนสมาร์ทโฟนจอพับได้

Galaxy Z Flip ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สามารถพับได้หลายระดับ ไปจนถึงการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ Galaxy Z Flip แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

  • การใช้งานแบบแฮนด์ฟรี – ดีไซน์ของ Galaxy Z Flip ช่วยทลายข้อจำกัดในการใช้งานสมาร์ทโฟน เพราะเมื่อตัวเครื่องสามารถกางออกได้ทุกองศาและตั้งวางได้ จึงสามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้แบบโดยไม่ต้องใช้มือจับเครื่อง สามารถถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอแชทผ่านแอปพลิเคชัน Google Duo พร้อมเผยบรรยากาศรอบตัวและแสดงท่าทางได้มากกว่าที่เคย
  • โหมด Flex – ซัมซุงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Google ในออกแบบโหมด Flex ที่ออกแบบขึ้นพิเศษเพื่อรองรับคอนเทนต์บนดีไซน์จออันเป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Z Flip เมื่อกางหน้าจอออกและเครื่องอยู่ในแนวตั้ง (Free-standing) จอแสดงผลจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนโดยอัตโนมัติ ให้ผู้ใช้สามารถดูภาพหรือวิดีโอที่จอด้านบน และสามารถควบคุมคอนเทนต์เหล่านั้นที่จอด้านล่าง หรือขณะที่สตรีมคอนเทนต์ YouTube[3] ในจอบน ก็สามารถค้นหาวิดีโออื่นๆ หรือเขียนคอมเมนต์ใต้วิดีโอได้พร้อมกันที่หน้าจอด้านล่าง
  • ปฏิวัติวงการกล้องสมาร์ทโฟน – Galaxy Z Flip สามารถตั้งวางเองได้ ผู้ใช้จึงสามารถบันทึกภาพได้สะดวกยิ่งขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม จะตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพกรุ๊ปช็อต หรือถ่ายภาพกลางคืนก็สามารถทำได้ เป็นตัวช่วยในการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียด้วยภาพถ่ายจากมุมที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้องหรือแม้กระทั่งใช้มือจับเครื่อง และเมื่อในขณะพับเครื่องพับก็สามารถถ่ายภาพเซลฟี่คุณภาพสูงได้อย่างง่ายดายด้วยกล้องหลัง นอกจากนี้ Night Mode ของ Galaxy Z Flip ยังสามารถถ่ายวิดีโอ Hyperlapse ในเวลากลางคืนหรือในที่มีแสงน้อยให้มีชีวิตชีวาได้โดยไม่ต้องพึ่งแฟลช อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการถ่ายวิดีโอในอัตราส่วน 16 : 9 ซึ่งเป็นขนาดที่ดีที่สุดสำหรับการอัพโหลดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย
  • ไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน – ถึงแม้จะอยู่ในโหมดพับก็ไม่พลาดที่จะรับข้อความ สายโทรศัพท์ หรือการแจ้งเตือนต่างๆ และยังสามารถเช็ควัน เวลา และสถานะของแบตเตอรี่ ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Cover Display[4] ด้านหน้าที่แสดงผลแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ สามารถรับสายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดตัวเครื่อง หรือตอบข้อความได้อย่างรวดเร็วเพียงแตะที่แถบ Cover Display แล้วเปิดเครื่อง
  • Multi-Active Window – ใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างราบรื่นด้วยฟีเจอร์ Multi-Active Window เพียงลากและวางแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งานใน Multi-Window Tray ก็สามารถเลื่อนดูบทความแฟชั่นล่าสุดที่หน้าต่างบน และเลือกซื้อไอเท็มโปรดไปพร้อมๆ กันในหน้าต่างด้านล่าง[5]

 

นวัตกรรมที่ดีที่สุดของซัมซุงกาแลคซี่

Galaxy Z Flip ได้พานวัตกรรมใหม่ล่าสุดของสมาร์ทโฟนพับได้มาสู่อีโคซิสเต็มของ ซัมซุง กาแลคซี่ โดยรวมเอาประสิทธิภาพและฟีเจอร์ระดับแฟลกชิป ไม่ว่าจะเป็นกล้อง แบตเตอรี่ ความปลอดภัย ไปจนถึงบริการอื่นๆ จากซัมซุง ไม่ว่าจะเป็น Samsung Health, Samsung Pay, Samsung Knox และอีกมากมาย[6] ในเครื่องเดียว

 

เพลิดเพลินกับประสบการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลายด้วยกล้องวิดีโอระดับ 4K มาพร้อมฟีเจอร์ Live Focus และ Super Steady[7] สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นด้วยแบตเตอรี่คู่ทรงพลังที่ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด รองรับการชาร์จเร็วทั้งแบบใช้สายและไร้สาย รวมถึงสามารถใช้งาน PowerShare[8] ไร้สายในการชาร์จหูฟัง กาแลคซี่ บัดส์, นาฬิกา กาแลคซี่ วอทช์ หรืออุปกรณ์ของคนอื่น นอกจากนี้ Samsung Knox จะช่วยปกป้องผู้ใช้งานและอุปกรณ์ตั้งแต่ส่วนของชิปประมวลไปจนถึงซอฟต์แวร์ พร้อมรองรับการอัพเดทในแต่ละเดือนและแต่ละไตรมาส อีกทั้งให้บริการทางเลือกสำหรับการชำระเงินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย Samsung Pay ติดตามและดูแลสุขภาพด้วย Samsung Health และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งจากซัมซุงและพันธมิตรอีกกว่า 5,000 รายการผ่าน SmartThings

 

ซัมซุง Galaxy Z Flip เตรียมวางจำหน่ายในจำนวนจำกัด มาในสี Mirror Purple และ Mirror Black พร้อมวางขายในบางประเทศ รวมถึงสหรัฐอมเริกาและเกาหลีใต้ และตามด้วยสี Mirror Gold ในบางประเทศ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ news.samsung.com/galaxy, www.samsungmobilepress.com  หรือ www.samsung.com/galaxy

[1] ขนาดของหน้าจอวัดจากแนวเส้นทแยงมุม ซึ่งพื้นที่แสดงผลจริงอาจมีขนาดเล็กกว่าเนื่องด้วยมุมโค้งและรูกล้องบนจอ

[2] ขนาดของหน้าจอวัดจากแนวเส้นทแยงมุม ซึ่งพื้นที่แสดงผลจริงอาจมีขนาดเล็กกว่าเนื่องด้วยมุมโค้งและรูกล้องบนจอ

[3] สามารถใช้งาน YouTube ในโหมด Flex ได้เร็วๆ นี้ผ่าน Android Support Library

[4] ความต่อเนื่องของโหมด App Continuity รองรับในบางแอปพลิเคชัน โดยจะสามารถรองรับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้เร็วๆ นี้

[5] สามารถใช้งานได้ในบางแอปพลิเคชัน

[6] ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยเฉลี่ยภายใต้เงื่อนไขการใช้งานทั่วไป ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานจริงของแบตเตอรี่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครือข่าย ฟีเจอร์ที่ใช้งาน ความถี่ในการโทร รวมไปถึงการใช้งานเสียง ข้อมูล และรูปแบบการใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ ซึ่งผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป  

[7] ฟีเจอร์บันทึกวิดีโอแบบ Super Steady รองรับเฉพาะกล้องหลัง

[8] PowerShare ไร้สาย สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่รองรับระบบ Qi โดยต้องมีแบตเตอรี่ขั้นต่ำที่ 30% ในการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น ความเร็วและประสิทธิภาพของการชาร์จอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวอาจไม่รองรับอุปกรณ์เสริม เคส หรืออุปกรณ์ของผู้ผลิตรายอื่น และอาจมีผลต่อการรับสายโทรศัพท์หรือใช้งานบริการข้อมูล ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมด้านเครือข่าย

ถูกใจบทความนี้  0