รีวิว Infinix HOT 10 Play หน้าจอใหญ่ ราคาดี แบตสุดอึด ตอบโจทย์ครบ

สำหรับเครื่อง Smartphone ในยุคหลัง ราคาค่าตัวคุ้มค่าตัวกันเกือบทุกรุ่นเลย วันนี้มาแนะนำกันสักรุ่นนึงละกันครับ กับ Infinix HOT 10 Play ซึ่งออกมาสักระยะแล้ว เป็น Smartphone ที่มีราคาดี ที่ 3,599 บาทเท่านั้นเอง ด้วยฟีเจอร์หลักอย่างหน้าจอใหญ่ 6.8 นิ้ว พร้อมแบตอึดสุด 6000 mAh เน้นด้านการใช้งานตอบโจทย์ครบ ใช้งานยาวไปได้ทั้งวัน อย่าว่าแต่วันนึงเลยครับ สองสามวันยังไหว พร้อมดีไซน์และ UI ที่ใช้งานสบายตาล่ะนะ กับ XOS ของ Infinix เขา มาดูกันครับ

ต้องบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของค่าย Infinix ที่ผมมีโอกาสได้จับใช้งาน เป็นรุ่นราคาเบาที่แบบว่าสเปคใช้งานได้นะ ตัว CPU เริ่มต้นที่ Helio G35 ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปครบอยู่แล้ว แต่ต้องบอกตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเท่าที่ทดสอบมาคือเล่นเกมได้นะ เล่นได้นานซะด้วย มีแต่นิดนึงคือปรับให้ใช้กราฟิคที่เหมาะสมกันนิดนึงนะ ซึ่งค่ายนี้เพิ่งประกาศร่วมมือกับ VTS ECS เป็นช่องทางการกระจายสินค้าและบริการหลักด้วยนะครับ ก็ถือว่ามีบริการครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้วด้วย คือมีความน่าเชื่อถือเลยล่ะ

สำหรับสเปคภาพรวมคลิ้กที่ ลิงค์นี้นะครับ  => infinix Hot 10 Play Spec

มาดูรูปร่างตัวเครื่อง Infinix HOT 10 Play และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาในกล่อง  ซึ่งก็ต้องบอกว่าเกือบครบนะ ขาดหูฟังอย่างเดียว อันนี้ก็เป็นเทรนด์ปกตินะ ทุกค่ายตอนนี้นับค่ายได้ที่แถมหูฟังให้

หัวชาร์จไม่ได้เป็นชาร์จแบบเร็วนะ แต่ก็ถือว่าโอเคดูมีมาตรฐานสากลนะ แต่น้ำหนักเบาไปหน่อย

เคสที่แถมมาให้ เป็นเคสแบบพลาสติกแข็งเอาไว้ปกป้องตัวเครื่องได้ระดับนึง ใส่แล้วแน่นหนาดี จับถนัดมือไม่ลื่นนะ

สำหรับสีตัวเครื่องที่มีให้เลือก  อีเจียน บลู (Aegean Blue), มอลเลียนดิ กรีน (Morandi Green), ออบซิเดียน แบล็ค Obsidian Black และเซเว่นดีกรี พอลพอล (7 Degree Purple) ซึ่งสีฮีโร่ก็คือ สีม่วงนี่ที่เห็นนี่ล่ะ สะท้อนแสงไฟก็ดูเป็นเฉดสีสวยงามไปอีกแบบ

หน้าจอขนาด 6.8 นิ้วคือมีการแสดงผลแทบเต็มพื้นที่ ก็ 90.66% ถือว่ามากแล้วล่ะ หน้าจอใหญ่ ชัดเจน เหมาะกับคนที่มีอายุหน่อย ใช้งานได้ดี ส่วนตัวกล้องด้านหน้าความละเีอยด 8 ล้านพิกเซล จะอยู่ตรงกลางซึ่งเป็นทรงหยดน้ำนะครับ อันนี้น่าจะชินกับการใช้งานกันอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ข้อดีของเจ้า Infinix HOT 10 Play ก็หน้าจอใหญ่ใช้งานได้ครอบคลุม ความละเอียดแบบ HD+ ถ้าดูแล้วยังเล็กไป ก็เพิ่มขนาดตัวอักษรได้นะ

สำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มาถือว่าอึดมาก ด้วยสเปคที่ไม่ได้กินพลังงานเยอะอยู่แล้ว ทำให้ได้เปรียบด้านการใช้งานยาวๆ หลายวัน เล่นเกมไปสักพักยังลดไปไม่กี่ % เลย ตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนมาก แต่นิดนึงคือด้วยราคานี้ไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จไว ดังนั้นแบต 6,000 mAh ที่ใหญ่ถือว่าเป็นข้อดีที่อึด แต่ชาร์จก็ใช้เวลาตามปกติ แต่ทว่าไม่ต้องชาร์จบ่อย ชาร์จทีเดียวใช้งานกันไปยาวๆ เหมาะกับการใช้งานที่อาจจะเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่สามารถชาร์จแบตได้ เอาจริงๆ จนแทบลืมเลยนะ ถ้าใช้ไม่เยอะนี่ยาวๆ ไป มีข้อมูลว่าสแตนบายนี่ได้ 5 วันเลยนะครับ ถ้าเล่นเกมนี่ 13 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจริงแท้แน่นอน ลองเล่นดูแล้วลดไปนิดเดียวเอง  ส่วนพอร์ตชาร์จยังคงเป็น microUSB นะครับ และยังมีช่องเสียบหูฟังตามปกติ

การวางปุ่มด้านข้างก็มาตรฐานครับ  ปุ่มปิดเปิด และเร่งลดเสียง ทั้งหมดมีการดีไซน์ตำแหน่งเอาไว้ค่อนข้างไปทางด้านบนของตัวเครื่องอันนี้สำหรับขนาดมือบางคนหรือความถนัดอาจจะต้องมีปรับนิดหน่อย ส่วนอีกด้านนึงก็จะมีถาดใส่ซิมที่รองรับ 4G ไม่ได้รองรับ 5G นะ และสามารถใส่ซิมคู่ได้ พร้อมใส่เมมโมรี่เพิ่มเติมได้ด้วย ซึ่งพื้นที่ในตัวเครื่องเองมีขนาด 64GB ซึ่งก็น่าจะเพียงพอ ถ้าไม่พอก็ใส่การ์ดเพิ่มได้ ซื้อเครื่องเดียวใส่ 2 เบอร์พร้อมใส่เมมได้เลย อันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกข้อดีก็ได้นะครับ

ตัวกล้องงานนี้จัดมาให้เป็นกล้องคู่แบบ AI นะครับ จะเห็นว่ามีกล้องสองตัว และเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นกล้องคู่ อย่าเข้าใจผิดล่ะ กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถือว่าไม่เยอะไม่น้อยนะในยุคนี้ และมี AI ที่ช่วยปรับภาพให้เหมาะกับสถานการณ์ พร้อมแฟลชในตัวแรงดี

มาดูเรื่อง XOS กันนิดนึง

แน่นอนเลยครับว่า Smartphone ปัจจุบันอย่าง Infinix ก็มี OS ของตัวเอง จะเรียก OS ก็ได้นะ เค้าใช้ว่า XOS ซึ่งจริงๆ ก็เป็น UI ครอบบน Android นันล่ะ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 10 ซึ่งก็พอกับการใช้งาน ส่วนตัวลุ๊คของ XOS ก็ออกแบบมาได้มินิมอลดีนะ ดูมีเอกลักษณ์ดี ใช้งานได้รวดเร็วลื่นไหลใช้ได้อยู่นะครับ

ดูในแต่ละส่วนก็สบายตาดีครับ ฟีเจอร์ต่างๆ ก็ไม่แพ้กับค่ายอื่น มีโหมดต่างๆ ให้ค่อนข้างครบถ้วนนะ ซึ่งก็อย่างที่บอกแต่ต้นล่ะครับว่าครบทุกการใช้งาน

มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกไม่แพ้ค่ายอื่นอย่าง โหมดเกมก็มีให้ด้วย ช่วยได้ในระดับนึงนะ เคลียร์พวก RAM ก่อนเล่นได้ มีโซเชียลเทอร์โบ ที่อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเอาไว้ใช้งานกับแอปต่างๆ ได้ด้วย โดยภาพรวมของ XOS ก็ดูดีอยู่

ส่วนของการทดสอบสักนิดนึง แม้ว่าสเปคจะไม่ได้แรงมาก แต่การใช้งานโดยภาพรวมก็โอเคนะครับ ลื่นไหลดี เล่นเกมพอไหว แต่ถ้าต้องการกราฟิคหนักๆ อันนี้ไม่แนะนำ

เรื่องของกล้อง Infinix HOT 10 Play

เรื่องของกล้องที่ให้กล้องคู่มา 13 ล้านพิกเซล ส่วนตัวแล้วผมว่าเพียงพอกับการใช้งานปัจจุบันนะ เพราะส่วนใหญ่เราเอามาลงโซเชียลความละเอียดไม่ต้องสูงเวลาจัดเก็บจะได้ไม่เปลืงพื้นที่อีกด้วย ถ้าเข้ามาดูที่ UI ของตัวกล้อง อันนี้ผมเพิ่งเคยใช้งานครั้งแรก ดูสะอาดเรียบร้อยดี โหมดมีให้เลือกก็คงครบล่ะ ตั้งแต่บิวตี้ เบลอ และยังมี AI CAM ที่สมกับการโปรโมตกล้องคู่ AI ด้วยนะ โหมดบิวตี้ก็อาจจะดูไม่เนียนตาเท่ากับรุ่นใหญ่แต่ก็พอไหวน่ะ ลบริ้วรอยได้อยู่ มีโหมดรูปบุคคลที่กล้องด้านหน้าด้วย อันนี้ก็ดูดี อีกอันนึงที่ชอบเล่นกับเด็กๆ ที่บ้านก็ AR อันนี้สนุกดี ไม่นึกว่ารุ่นราคาแบบนี้จะมีให้เล่นด้วย ส่วนการใช้งานอาจจะมีดีเลย์เล็กน้อยเวลากดถ่ายภาพ อันนี้ถ้าสภาวะแสงน้อยมือต้องนิ่งสักนิดล่ะนะ

ภาพถ่ายตัวอย่าง

คลิปรีวิวแนะนำ Infinix Hot  Play

 

สรุปการใช้งาน Infinix HOT 10 Play

 

สำหรับ Infinix HOT 10 Play ถือว่ามีราคาดีเลยนะ รุ่นนี้คือ 4/64GB ซึ่งราคา 3,599 บาท ก็ดูคุ้มทั้งสเปคและการใช้งาน บอกเลยว่าเล่นเกมได้แต่ไม่ได้เน้นมากนะครับ ให้มองว่านำมาใช้งานทั่วไป อันนี้ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน ที่สำคัญแบตอึดมาก ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยๆ มีรุ่นที่ราคาต่ำกว่านี้ด้วยสำหรับรุ่น 2/32GB ราคาแค่สองพันกว่าบาท แต่ถ้าจะซื้อทั้งทีแนะนำเพิ่มเงินอีกหน่อยเลือกรุ่นนี้แทนนะครับ ด้านดีไซน์การใช้งานและภาพรวมผมถือว่าทำได้ดีในระดับราคาเท่านี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการราคาประหยัดและตอบโจทย์การทำงานทั่วไปได้ครบถ้วน

ขอบคุณ Infinix Thailand ที่ให้สำหรับอุปกรณ์รีวิว



ถูกใจบทความนี้  4

3 thoughts on “รีวิว Infinix HOT 10 Play หน้าจอใหญ่ ราคาดี แบตสุดอึด ตอบโจทย์ครบ

Comments are closed.