อีกหนึ่งรุ่นจาก Huawei ที่ลงตลาดไปสดๆ กับซีรีส์ของ nova ที่เป็นรุ่นที่กล่าวขวัญถึงความคุ้มค่า และ Huawei nova 9 SE ก็กลับมาในปีนี้ ซึ่งยังคงเป็นปีที่ Huawei เองเน้นการใช้งาน และความคุ้มค่าเช่นเคย แน่นอนว่า การใช้งานที่ขาดไปก็ทดแทนด้วย สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาขึ้นมาตามลำดับนั่นเอง ด้วยราคาต่ำกว่าหมื่น ได้ชาร์จไว 66W กล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล และการใช้งานตามสไตล์ Huawei อย่าง Hauwei AppGellery และ แน่นอนว่า EMUI ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ มาดูว่าจะหยิบอะไรมาบอกเล่ากันบ้าง
สำหรับ Hauwei nova 9 SE นั้น จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มาในช่วงนี้ครับ สำหรับแฟน Huawei ที่ชื่นชอบทั้งดีไซน์ สไตล์กล้อง ก็คิดว่าเป็นอีกทางเลือกนึง ด้วยราคาเปิดที่ 9,490 บาท จุดเด่นที่ชูหลักก็คือกล้อง 108 ล้านพิกเซล ชาร์จไว 66W และขอบจอบาง 1.05 มม. พร้อมกับดีไซน์สวยงาม ซึ่งก็เรียกว่าเป็นมาตรฐาน ณ ปัจจุบัน ที่ช่วงราคานี้แข่งกันดุไม่น้อยเลย
เช่นเคย สเปคภาพรวมดูรายละเอียดได้ที่ Huawei nova 9 SE
ด้านดีไซน์ของ Huawei nova 9 SE
เจ้า Huawei nova 9 SE มีดีไซน์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะสีสัน ที่ออกแบบมาสะท้อนแสงเงาเลื่อมสี เปลี่ยนไปได้ทุกมุม โดยจะมีอยู่ 2 สี ที่วางขายกันคือ Crystal Blue และ Midnight Black ก็คือสีฟ้าและสีดำนั่นเอง ตัวที่ได้มารีวิวเป็นตัวสีฟ้าที่สะทด้อนแสงด้วยงาม เค้าว่าเป็นกระจกแบบสามมิติ ใช้เทคโนโลยี Dual film Dual Plating คือเงางามแวววาว สะท้อนแสงเงาได้ดีเลยล่ะ ถ่ายรูปออกมายากเหมือนกัน ติดเงาตลอด แต่เอาเป็นว่าเวลาใช้งานคือโดดเด่นอย่างแน่นอน
เรื่องของหน้าจอ การตอบสนองการแสดงผลก็ชัดเจนครับ ปัจจุบันผมว่าแต่ละค่ายอาจจะไม่ได้มีความต่างมากนัก แต่ก็ดูที่การแสดงผลด้วยสายตา ซึ่งก็ชัดเจนว่าถ้าหน้าจอไม่ใช่ AMOLED ก็จะแจ่มน้อยลง แต่ก็จะได้พวกเรื่องสีสันที่ดูจริงกว่านั่นเอง ดูภาพรวมๆ แล้วขอบหน้าจอจะบางตามโฆษณาในรุ่นราคาระดับเดียวกัน
ด้านสเปคและการใช้งานภาพรวม
ด้วยสเปคที่จัดให้เป็น Qualcomm Snapdragon 680 ยังคงเป็นสเปคกลางๆ ที่ผมคิดว่าอาจจะดูน้อยไปหน่อย ในปีนี้ Huawei คือยังเน้นไปที่ 4G ทำให้ Smartphone ที่ออกมาในปีนี้จนถึงตัวเรือธงอย่าง P50 ซีรีส์ ก็ตามยังตัด 5G ออก ทั้งที่จริงๆ Huawei เองเป็นผู้นำด้านโครงข่ายหลักที่บรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์ใช้กันอยู่ แต่ก็อย่างว่า Smartphone ก็โดนแตะตัดขามาตลอดจนทำให้เป็นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ส่วนตัวแล้วสำหรับการใช้งานภาพรวมก็ยังลื่น ประกอบกับ EMUI 12 ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวอยู่แล้ว จึงใช้งานได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าดูสเปคก็อดคิดไม่ได้ว่า ราคาในซีรีส์ nova ที่ว่าคุ้มๆ นั้น ก็ขาดเสน่ห์ หรือจุดที่น่าสนใจไปเหมือนกัน โดยการเล่นเกมต่างๆ ก็มีซอฟท์แวร์มาช่วยทำให้ลื่นขึ้น แต่ก็อีกนั่นล่ะครับ อย่างที่ทราบกันดีว่า ตัวเกมส่วนนึงก็เล่นได้เช่น Freefire แต่ทว่ายังมีอีกหลายเกมที่อีกหลายกลุ่มเล่นกันอยู่เค้าไปอ้างอิงกับ google service ก็เลยทำให้ Hauwei nova 9 SE เองอาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มของคนเล่นเกม แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ผมว่าตอบโจทย์อยู่นะ
แน่นอนว่าการใช้งานทั่วไปก็ต้องผ่าน gspace นั่นล่ะครับ ที่มาช่วยให้การใช้งานบน Hauwei Smartphone ทุกรุ่นสะดวกขึ้น แต่ก็ยังต้องแลกด้วยโฆษณา เพราะเป็นแอปนอก ซึ่งเค้าจะจำลองระบบขึ้นมาเพื่อใช้งานบน Huawei nova 9 SE อันนี้เป็นอีกจุดนึงเพราะว่าสเปคที่จำลองขึ้นมาก็ไม่ได้ดึงความสามารถจริงของรุ่นนั้นๆ ไปทั้งหมด ทำให้ไม่เหมาะกับการนำไปเล่นเกม และจริงๆ ก็เล่นเกมผ่าน google play store ที่ถึงแม้ว่าดาวโหลดมาได้ก็จริงแต่ก็เด้งออกนั่นล่ะครับ เป็นที่มาที่ไปว่าไม่เหมาะกับเกม ส่วนบริการอื่น ก็ได้หมด เช็คเมล นำทาง หรืออื่นๆ ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
ซึ่งแน่นอนว่า Huawei เองก็ไม่ได้หยุดพัฒนา ยังมี Huawe AppGellery ที่พยายามพัฒนาแอปต่างๆ ให้การใช้งานสมบูรณ์ที่สุด โดยไม่ต้องผ่าน gspace ให้ยุ่งยาก ก็เรียกว่ามีครบถ้วนเหมือนกัน
ด้านกล้องถ่ายภาพ Huawei nova 9 SE
กล้องหลังดีไซน์ออกมาไม่ต่างจากรุ่นเรือธง ก็เป็นการวางดีไซน์ที่สวยงาม ลงตัว และจุดเด่นก็คงเป็นเรื่องของความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และการถ่ายภาพของ Huawei เองถ้าใครชอบโทนของค่ายนี้ ผมว่ารุ่นนี้ก็ใช่อยู่ล่ะ ไม่ผิดหวัง ด้วยความละเอียดกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับกล้องอัลตร้าไวด์ในมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และ กล้องวัดความลึก พร้อมกับ มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ตามมาตรฐาน ส่วนซอฟท์แวร์ หรือฟีเจอร์ ก็จัดมาให้ครบๆ เช่นกัน ยังเน้นเรื่องการถ่าย vlog ตามเทรนด์ยุคสมัยนี้ แน่นอนว่ากล้องด้านหน้าก็ยังติดฟีเจอร์หน้าสวยวิ้งๆ ปรับมาให้พร้อมเช่นเคยครับ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ภาพถ่ายตัวอย่าง
สรุปภาพรวม Huawei nova 9 SE
ในการใช้งานภาพรวมแล้ว เน้นการใช้งานทั่วไป ไม่เน้นเล่นเกม กล้องก็ถือว่าดี แต่ตอนแสงน้อยก็ต้องนิ่งหน่อย แบตอึดอยู่ แถมยังได้ชาร์จไว 66W หายห่วงเรื่องการใช้งานทั้งวัน ก็คงจะมีเล็กๆ น้อยๆ เรื่องสเปคกับราคา ผมว่าต่ำกว่าหมื่นนึง ถ้าดูจากสเปคกล้อง ก็ถือว่าดีล่ะ แต่ถ้าการใช้งานภาพรวมสเปคที่ยังเป็น Snapdrogon 680 ที่ดูน้อยไปนิด ผมว่าก็ถ้าราคาต่ำกว่านี้ก็จะน่าสนใจมาก ตอนสั่งจองเค้าก็มีโปรโมชั่นน่าสนใจอยู่นะครับ หรือใครที่ซื้อมาใช้งานแล้ว เค้ามีแคมเปญช่วงนี้ด้วย เขียนรีวิวแล้วลุ้นรับ Huawei FreeBuds 3 ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะครับสำหรับรุ่นนี้
ขอบคุณ Huawei Thailand ที่สนับสนุนอุปกรณ์ทดสอบ
ถูกใจบทความนี้ 0
great I find it an ideal product with a reasonable price but behind it is a very powerful phone. if possible please connect with me here [URL=https://motox3m.co]moto x3m[/URL]