Xiaomi ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้ในยุค 5G

 

‘เราต้องการสร้างสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในราคาเพียงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้’ นี่คือความตั้งใจของ ‘เหลยจุน’ ประธาน, ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทเสียวหมี่ ที่เดินหน้าผลักดันความฝันตั้งแต่วันแรกที่จัดตั้งบริษัทฯจนกระทั่งวันนี้ซึ่งนับเป็นเวลา 12 ปีที่แบรนด์เสียวหมี่ค่อยๆ เติบโตขึ้นจนรั้งอันดับ 3 ของการเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลก

 

หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เสียวหมี่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) เพื่อยกระดับนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยปัจจุบันเสียวหมี่มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 11 แห่งทั่วโลก ซึ่งตั้งอยู่ทั้งในประเทศจีนและประเทศต่างๆ โดยปี 2021 เสียวหมี่ลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 13.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 42.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในไตรมาสแรกของปี 2022 นี้ เสียวหมี่ลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 3.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน และหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่เสียวหมี่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี 5G เสียวหมี่ประกาศลุยตลาด 5G ในช่วงต้นปี 2020 ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 7.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในยุคของการเปลี่ยนผ่านสมาร์ทโฟน 4G สู่ 5G เสียวหมี่เขย่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วยการพัฒนาและส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G ให้แก่ผู้บริโภคในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้

 

“สำหรับประเทศไทย เสียวหมี่ได้นำเสนอสมาร์ทโฟน 5G ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป อาทิเช่น Mi 10T 5G ในปี 2020, Xiaomi 11 Series ในปี 2021 และ Xiaomi 12 Series ในปี 2022 ต่อเนื่องมาถึงกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง อย่าง Redmi Note 9T 5G, Redmi Note 10 5G และ Redmi Note 11 Series เพื่อช่วยให้คนไทยในทุกระดับสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 5G ความเร็วสูงผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากการส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G ให้ผู้บริโภคชาวไทยในระดับราคาที่หลากหลายแล้ว อีกหนึ่งความสำเร็จของเสียวหมี่ ประเทศไทย คือ การทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์ในประเทศไทยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2021 เสียวหมี่ผนึกกำลังร่วมกับ AIS เปิดตัวเทคโนโลยี ‘5G CA’ ครั้งแรกของโลก ทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เร็วและแรงระดับ 5G ได้ก่อนใครบนสมาร์ทโฟน Xiaomi 11T อีกด้วย” โจนาธาน คัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าว

 

ในครึ่งปีหลังของปี 2022 นี้ เสียวหมี่ยังคงเดินหน้าที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟน 5G ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เพียงแค่ในกลุ่มระดับเรือธงและระดับกลางเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันการให้บริการเครือข่าย 5G ของผู้ให้บริการในไทยครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว การเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนเข้าถึง 5G ได้จึงนับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเสียวหมี่เช่นเดียวกัน

 

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่พร้อมก้าวสู่การเป็น Cognitive Tech Co หรือองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ ที่ผ่านมาได้มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลโครงสร้างพื้นฐานอย่าง 5G มายกระดับและเสริมขีดความสามารถเพื่อส่งมอบบริการอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบให้แก่ลูกค้า AIS ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกที่หลากหลาย อย่างเช่น Xiaomi ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัวเทคโนโลยี 5G CA ครั้งแรกของโลกบนสมาร์ทโฟน Xiaomi 11T รวมทั้งการต่อยอดเพื่อนำโครงข่าย 5G มาเพิ่มศักยภาพในมิติต่างๆ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคนไทยได้อย่างไร้รอยต่อในยุคดิจิทัลไลฟ์เพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าอยู่กับ AIS ดีที่สุด”

 

เตรียมพบกับสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดจากเสียวหมี่ พร้อมกันในวันที่ 9 สิงหาคมนี้!

 

# # #

 

 

เกี่ยวกับเสียวหมี่

เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก

ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น “มิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้

เสียวหมี่คือหนี่งในผู้นำการผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่คิดจากการส่งมอบสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 3 ของโลกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อแพลทฟอร์มกว่า 400 ล้านเครื่อง (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) จากการรายงานข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2564 เสียวหมี่ยังติดอันดับที่ 338 ของ Fortune Global 500 นับได้เป็นครั้งที่สาม โดยไต่ขึ้นมา 84 อันดับจากปี 2020

เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index

เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย (ณ มีนาคม 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://www.mi.com/global/discover/newsroom



ถูกใจบทความนี้  0