บอกเล่า เก้าสิบ – ASUS ROG Phone 7

อีกครั้งที่ ASUS ต่อยอด Gaming Phone เป็นรุ่นที่ 7 แล้ว ซึ่งมีการอัปเดตขึ้นทุกปี และวันนี้ก็ได้จับมาบอกเล่าเก้าสิบกันอีกสักครั้ง รุ่นล่าสุดที่อัปเดตสเปคที่เหมาะกับสายเกมมิ่งเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ดีจริง คงไม่ต้องยอดมาจนถึงรุ่นนี้ ซึ่งสเปคก็มาถึง Snapdragon 8 Gen 2 กันแล้ว ทุกอย่างจัดเต็ม รองรับการเล่นเกมตามคอนเซ็ปท์ และแน่นอนมาด้วยการระบายความร้อน และเหล่าอุปกรณ์เสริมการเล่นเกมที่เป็นจุดเด่นสำหรับสายเกมมิ่ง มาดูรายละเอียดกันครับ

สำหรับ ASUS ROG Phone 7 อย่างที่เกริ่นล่ะครับ ว่าเป็นรุ่นที่สุดยอด ซึ่งมีราคาค่าตัวก็สมกับความเป็น Gaming Phone สายเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสเปคโดยภาพรวม รวมถึงการระบายความร้อน ที่เป็นส่วนสำคัญและแน่นอนว่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีมาให้ทุกเจนเนอเรชั่น โดยสเปคของ ASUS ROG Phone 7 มีตามนี้เลยครับ

ROG Phone 7 Ultimate Spec
CPU:   Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 SM8550, Octa-core CPUs, x 3.19 GHz พร้อม 5G
Back Cover ASUS (Republic of Gamers) ASUS (Republic of Gamers)
มี หน้าจอ 2 ด้าน
GPU:  Adreno 740
OS:  Android 13
รายละเอียดหน้าจอ :6.78 นิ้ว   2448×1080 FHD+ AMOLED, 165Hz (60/90/120/144/165 Hz) Corning® Gorilla® Glass Victus™
1ms response time/ 1,000,000:1 contrast ratio 1,200 nits DCI-P3,
ขนาดตัวเครื่อง : 172.834 x 77.252 x 10.48 mm น้ำหนัก 239g
ฺBattery : 6000 mAh
Memory :  16GB LPDDR5X
Storage : 512G  UFS4.0
การเชื่อมต่อ: Type C connector มีด้านข้างและด้านล่างของตัวเครื่อง  + Pogo Pin USB3.1 gen2/DP 1.4(4K)/Hyper Charging/QC5.0
การเชื่อมต่อไร้สาย  : WLAN WiFi 6: 802.11 ax/ac/b/g/n, (2.4GHz+5GHz), 2×2 MIMO, 3 เสาอากาศ, Bluetooth v5.3
GPS :  GNSS support GPS , Glonass, Galileo, BeiDou, QZSS

Camera : 50MP IMX766 New CLAF non-OIS FOV84.6 Ultra-wide: 13M OV13B FF FOV120 Macro: 8M Sensor + 5M Lens Macro
Front Camera 32M OV32C FF FOV 72.8 32M OV32C FF FOV 72.8
Speakers :  Dual front facing speaker (with Dirac HD Sound)
Headphone Support 3.5mm

การออกแบบ ROG Phone 7

สำหรับการดีไซน์ เรื่องการดีไซน์ ก็ต้องยกให้กับ ROG Phone 7 ที่ออกแบบมาเหมาะกับการเล่นเกม และใช้งานผสมผสานกันอย่างลงตัว สำหรับรุ่น Ultimate จะมีหน้าจอที่สองเป็นโลโก้ ROG ด้านหลัง เวลาเล่นเกม หรือมีสายเรียกเข้าหรืออื่นๆ จะมีสีแสดงให้เห็นอยู่ครับ ซึ่งอันนี้เป็นจุดเด่นเลยของตัว ROG ซีรีส์นี้ และยังมีลวดลายที่มาใทนของ ROG ครบๆ แม้ว่าตัวเครื่องจะมีสีดำ แต่อย่างด้านหลังเอง ก็ยังดีไซน์ไว้ในลักษณะของการสะท้อนกับแสง เล่นกับแสงอยู่ทางส่วนบนของตัวเครื่อง การดีไซน์เรื่องการวางกล้อง เป็นแบบเรียงแนวขวางกับตัวเครื่องแต่กรอบก็ดีไซน์ให้ดูทันสมัยเหมาะกับการเป็นเกมมิ่ง มีกรอบสีแดงครอบที่กล้องหลัก เพื่อเป็นจุดเด่นกันนิดนึง ส่วนรอบๆ ตัวเครื่อง ก็มีปุ่มกดต่างๆ ตามปกติ และยังมีปุ่มปิดเปิดเครื่อง และถามซิมที่เป็นสีแดงแซมเอาไว้ ให้ดูเป็นจุดสังเกตและสวยงามไปในตัว แน่นอนว่าด้านบนมีปุ่มอย่าง AirTrigger สำหรับเล่นเกมพวก FPS ยังคงรองรับเช่นเคย และยังมีฟีเจอร์การตั้งค่าให้เหมาะกับรูปแบบการเล่นเกมต่างๆ ได้ด้วย

การแสดงผล ROG Phone 7


หน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้ตัวเครื่องก็ใหญ่ตามไปด้วย แต่ก็ไม่ได้มากนัก หน้าจอ 6.78 นิ้ว นี่เอาจริงๆ ก็น้องๆ Tablet 7 นิ้วสมัยก่อนเลยนะ แค่ตัวหน้าจอมันยาวไปตามยุคสมัย และแน่นอนว่าจัดเต็มเรื่อง ความถี่หรือ refresh rate ที่ดันไปถึง 165 Hz เลยทีเดียว ก็สมกับสายเกมนั่นล่ะครับ แน่นอนว่าหากทำงานก็ปรับไปตามการใช้งานได้เลย ด้านเอกสารหรือการใช้งานเว็บก็สบายตา ส่วนสเปคอื่นๆ เช่นความแข็งแรงหน้าจอ ก็มาพร้อมกับ Gorrila Glass Victus ล่าสุด แข็งแรงทนรอยขีดข่วน และสเปคอื่นๆ ของหน้าจอจัดเต็มกันไปไม่ว่าจะเป็นความสว่างที่ 1200 nits ขอบเขตในการแสดงสีกว้างสูงสุดถึง 111.23% DCI-P3  มีเทคโนโลยี Eye Care Display เพื่อถนอมสายตา ตาไม่ล้า และแน่นอนว่ายังมีสแกนนิ้วมือในจอ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานด้วย

แน่นอนว่าการแสดงผล การเล่นเกม ก็สุด ลองเล่นเกมแล้ว ก็เหมาะอย่างมาก ส่วนตัวก็ยังคงเล่น ROV เป็นหลักในสาย Mobile ซึ่งเกมอย่างพวก Genshin เองก็ไม่ต้องห่วง เล่นได้สบายๆ และที่สำคัญการระบายความร้อนต่างๆ ก็มาช่วยทำให้แบตเตอรี่อยู่นานขึ้น แบตให้มา 6000 mAh ก็ถือว่าสุดแล้ว ซึ่งแบ่งแบตเป็น 2 ก้อน แยกซ้าย ขวาเพื่อการออกแบบการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น และยังเลือกใช้แผ่นระบายความร้อน แบบ Rapid-Cycle Vapor Chamber ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ และด้วยสเปคแรงๆ ปกติเครื่องจะร้อนมาก แต่เจ้า ASUS ROG Phone 7 นี่ทำได้ดีมากๆ เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเรือธงอื่นๆ ในตลาดที่แม้ว่าจะมีระบบระบายความร้อนแล้วก็ตาม แต่ ASUS ROG Phone 7 ก็ทำได้ดีกว่านะ จากที่ทดสอบเล่นหนักๆ ดู รวมถึงการชาร์จไว ROG Hyper Charge 65W ก็จัดไป แอบเสียดายที่ไม่ได้ไปถึง 120W  นอกจากนั้น หากมีอุปกรณ์เสริมอย่าง AEROACTIVE COOLER 7 ด้วยแล้ว การระบายความร้อนจะเย็นขึ้นไปอีก ไม่แค่นั้น อุปกรณ์เสริมตัวนี้ยังมีตัวซัปวูฟเฟอร์ใช้งานร่วมกับลำโพงหลักของตัวเครื่องได้อีกด้วย แต่หากจะรบกวนคนอื่น ก็ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้อีกต่างหาก คือใช้งานได้ทุกลักษณะจริงๆ เรือธงที่มีช่องเสียบหูฟังนี่หาได้ยากแล้วในยุคนี้ เค้าเรียกว่าสมกับเป็นกับ Gaming Phone จริงๆ

ความลื่นของเครื่อง อีกส่วนนึงก็คือบรรดาเมมโมรี่ต่างๆ จัดเต็ม ซึ่งสเปคที่ให้มาโดยรวม เครื่องก็แรง เล่นเกมก็ดี แน่นอนว่าใช้งานอื่นๆ ก็ประทับใจด้วยความลงตัวทั้งหมดที่ให้มา ทั้ง Snapdragon Gen2 ล่าสุด แรงๆ กันไปที่ 3.19 GHz พร้อมกับ GPU Adreno 740 จัดเต็ม เสริมด้วยตัวสุดของเมมโมรี่ LPDDR5X ถึง 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512G โดยเป็นเทคโนโลยี UFS4.0 ซึ่งสายเกมต้องมีเพราะสามารถแคสเกมออกหน้าจอได้โดยผ่านสาย เรือธงหลายรุ่นขาดตรงนี้ไปแต่ ASUS ROG Phone 7 จัดหนักให้  การเชื่อมต่อต่างๆ ก็คงไม่พูดถึงไม่ได้ แน่นอนว่าทั้ง 5G ทั้ง Wi-Fi 6 พร้อม Bluetooth 5.3 ก็ครบๆ

โหมดการเล่นเกม ก็มีเสริมการทำงาน อย่าง Game Genie ที่ปรับการทำงานให้เหมาะกับการเล่นเกม แน่นอนว่าสามารถปรับการใช้พลังงาน รวมถึงการเร่งสเปคให้ถึงขีดสุด พร้อมสถานะต่างๆ เช่นแบตเตอรี่สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างก็คือระบบเสียง ที่มีมิติ และเบสที่แน่น ถ้ามีอุปกรณฺเสริมอย่าง AeroActive 7 ด้วยแล้ว ยิ่งสมบูรณ์เลยล่ะ

ASUS Amoury Crate

ส่วนของซอฟท์แวร์ ที่ช่วยรวบรวมเอาฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงคอนเทนต์ของ ASUS รองรับมาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่าง หน้าจอที่ 2 ด้านหลังเครื่อง ให้แสดงผลซัพพอร์ตการใช้งานต่างๆ แล้ว ยังปรับความเร็วในการใช้งานให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานต่างๆ ได้ด้วย รวมถึงมีสถานะการใช้งาน อุณหภูมิต่างๆ เอาไว้ครบ

 ส่วนของกล้อง ASUS ROG Phone 7 

ตัวกล้อง จัดมาให้ 3 เลนส์ ที่ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซลและมาโคร 5 ล้านพิกเซล มาให้ครบๆ กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ก็เก็บภาพได้กว้าง โดยรวมก็ยังคงมีโหมดต่างๆ ให้ครบๆ

มาดูภาพตัวอย่างกันครับ

 

   สรุปการใช้งานภาพรวม ASUS ROG Phone 7 

คือสมราคาคุยจริงๆ ด้วยการเป็น Gaming Phone ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องบอกว่าในเจนเนอเรชั่นแรกๆ เรื่องการจัดการพลังงานยังคงต้องบอกว่ายังไม่ได้ทำได้ดีขนาดนี้ อาจจะด้วยเทคโนโลยีของ Snapdragon เองที่มีส่วนช่วยเสริมพร้อมกับระบบ Cooling ต่างๆ ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ในทุกๆ ส่วนของความเป็น ASUS ROG Phone 7 เลยล่ะครับ ตามรายละเอียดที่บอกไว้ด้านบน ซึ่งทำให้การใช้งานและการเล่นเกมในวันๆ นึงลงตัว ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และบริหารจัดการได้ให้รอดไปได้วันนึง แน่นอนว่ากล้องถ่ายภาพแม้ว่าอาจจะไม่ได้เน้นมาก แต่ก็สเปคที่ให้มา และโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นเรือธงที่ทำได้ดีเลยครับ ซึ่งในราคาค่าตัวก็สมเหตุสมผลล่ะ มี 2 รุ่นให้เลือก คือรุ่น ปกติ และรุ่น Ultimate หากสนใจก็ สั่งจอง สั่งซื้อกันได้เลย

 

ขอบคุณ ASUS Thialand ที่สนับสนุนอุปกรณ์ทดสอบ



ถูกใจบทความนี้  1