ทักทาย วันจันทร์ มันส์เดย์ – Samsung Gear S3 สวยแต่รูป จูบก็?

สวัสดีครับ วันนี้มาคุยกันเรื่อง Wearable ที่หลายคนยังไม่อยากใช้งาน โดยงานนี้เค้าแยกเป็นสองสายชัดเจน คือ Fitness Tracker หรือจะเรียก Activity Tracker ก็ได้ อีกสายก็คือ Smartwatch ซึ่งออกตัวเลยว่า ผมนี่มันสาย Fitness Tracker โดยแท้ ที่ซื้อมาลองได้หลากหลายแบรนด์ ก็เพราะราคาโดยเฉลี่ยถูกกว่าสาย Smartwatch ที่มี OS ในตัวมากมาย เอาง่ายๆ เลยก็คือ Mi Band 2 ที่ราคาค่าตัวเดี๋ยวนี้ไม่ถึงพันบาทเสียด้วยซ้ำ ส่วน Smartwatch ก็หมื่นอัพล่ะครับ เลยได้ลองเล่นบ้าง ไม่กี่ตัว และก็ไม่ได้ลึกอะไรมากมายนัก จริงๆ มันก็สนุกล่ะนะ แต่สนุกจนแบตหมดระหว่างวันนี่ก็ลำบาก เพราะบรรดา Smartwatch ทั้งหลาย ส่วนใหญ่ ก็จะมี docking แบบเฉพาะตัวที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับคนอื่นได้ หรือใช้กับ micro USB ได้ แต่ก็ต้องมีตัว dock แบกติดตัวไปอยู่ดี จะใช้คำว่าแบกก็คงผิด แต่เป็นพกติดตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้บางๆ นะ บางรุ่นก็เป็นแท่นวาง หนาๆ สักหน่อย จะพกติดตัวชาร์จไป ยังไงมันก็ดูไม่สะดวก นี่เป็นเหตุผลนึงที่ไม่ได้เข้าไปสาย Smartwatch เต็มตัว แต่จริงๆ ต้องบอกว่าส่วนดีก็มีเพียบ ไม่ว่าจะเป็นบรรดา notification ต่างๆ ที่เตือนได้สะดวก ไม่ต้องหยิบจับ Smartphone ขึ้นมา มีแอพให้เล่นเพียบ แต่ว่าบางครั้งก็ต้องรอเวลาพัฒนาเช่นกัน โทรศัพท์ได้ด้วย ตอบข้อความก็ได้ ดูแผนที่นำทางก็ได้ และอีกหลายอย่างคงบอกไม่หมดแน่ๆ แต่ที่ยังไม่โดนอีกเรื่องก็คือหากมาสายกีฬาเต็มๆ ก็ไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ แอพที่ใช้เฉพาะทางกีฬาก็มีจำกัด มี GPS แทรคในตัว มีแอพกีฬาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง ปั่น หรืออื่นๆ คือรองรับทุกกีฬา แต่ว่าไม่เด่นสักอย่างนึง เพราะเอาแค่พื้นฐาน จำนวนกิโล ความเร็ว หรือแคลลอรี่โดยรวม ดีหน่อยสมัยนี้มี heart rate เพิ่มด้วย ก็ทำได้แค่เพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าเป็นผู้เริ่มออกกำลังกายผมว่า โอเคเลย และสิ่งที่ได้จาก Smartwatch ก็คือ ความสวยงาม ความเป็นนาฬิกาที่ยังคงอยู่ ถ้ามาสาย sport แบบเต็มตัว รูปร่างหน้าตา ไม่ค่อยน่าใส่ในระหว่างวันสักเท่าไหร่นัก อย่างว่าล่ะครับ ก็มีจุดดี จุดเด่น จุดด้อย ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน คงไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะดีที่สุดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนั่นล่ะครับ แต่วันนี้ได้ลอง Samsung Gear S3 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งวางจำหน่ายได้ไม่นาน ราคาค่าตัวที่ 12,900 บาท มีสองรุ่น รายละเเอียดตามอ่านต่อที่ข่าวก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน https://goo.gl/IpEzZy

Join PDAMobiz on Telegram

ส่วน Samsung Gear S3 นี่ ดีไซน์ผมว่างามมาก งามกว่า Gear S รุ่นก่อนๆ มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ Classic ซึ่งมีสีเงิน และ Frontier สีดำ โดยส่วนตัวชอบดีไซน์ Frontier แต่อยากได้สีเงิน ซึ่งไม่มีแฮะ ลูกผสมแบบนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไม Samsung จึงตัดสินใจออกแบบมาต่างกันทั้งสองรุ่นทั้งสีและดีไซน์ เรียกว่ามัดมือชกชอบกล แต่ก็สอย Frontier มาล่ะครับ สวยบาดใจ ผมว่าหลายคนเห็นแล้วต้องอยากได้ แถมฟีเจอร์อย่างที่บอกว่าพกความเป็น Smartwatch จัดเต็มมาก ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เท่าที่ได้ลองใช้ ก็โอเคนะ ใช้ได้เป็นวัน สเปคบอกประมาณ 3-4 วัน นี่ลองใช้สองวันก็ยังอยู่ไหว ผมว่าก็คงผ่าน เพราะไม่ใช่แค่ใช้ดูเวลาปกติ ใช้ทำโน่นนี่นั่นอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่อาจจะเป็นมือใหม่เรื่อง Smartwatch ก็ได้ ที่รู้สึกเลยก็คือเรื่องวัด heart rate ตอนออกกำลังกายก็โอเคนะ อันนี้ realtime ซึ่งก็ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ตอนใส่ประจำวันนี่ล่ะ ที่ Smartwatch ผมว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้ realtime เพราะปัญหาเรื่องแบตเตอรี่นั่นเอง ไม่เหมือนสาย Fitness Tracker ที่เปิดทั้งวันได้สบายๆ ซึ่งของ Samsung เองก็วัดได้อัตโนมัติ แต่ว่าไม่ได้มีการตั้งค่า ว่ามีการวัดห่างกันกี่นาที หรือกี่ชั่วโมง ซึ่งเท่าที่ดูจากรายงาน เฉลี่ยประมาณ 10 นาที แต่ใส่ๆ อยู่ทั้งวัน รีพอร์ทก็ไม่มีซะงั้น ซึ่งเท่าที่ดูแล้วจะวัดเฉพาะตอนที่เรานิ่งๆ หรือช่วงที่ไม่มีการขยับ ก็จะวัดอัตโนมัติให้ โดยเฉพาะ ตอนนอน อันนี้ชัดเจนมากมีการวัดระยะห่างกันประมาณ 10 นาที แต่ระหว่างวันก็อยากรู้นะ จริงๆ ก็น่าจะเปิดให้มีการตั้งค่าได้ว่าวัดห่างกันกี่นาที เพราะเรื่องอัตราการเต้นของหัวใจนี่ก็สำคัญสำหรับผมไม่น้อย เพราะมีปัญหาอยู่ หากไม่เห็นรายงานทั้งวัน ข้อมูลที่มีก็ไม่ครบ หากมีอะไรก็เอามาวิเคราะห์ลำบากเหมือนกัน อื่นๆ ที่ผมยังหาไม่เจอกับความต้องการของผมก็คือ แอพเกี่ยวกับการออกกำลังกาย เพราะปกติจะใช้บรรดา endomodo, Nike Plus, Runtastics ทำนองนี้ แต่เท่าที่หาดูใน Store แล้วไม่เจอแฮะ เพราะว่าแอพเหล่านี้จะมีบน Android Wear แต่พอบนระบบ Tizen ของ Samsung ก็ลำบากเลยงานนี้ ต้องใช้ S Health แทรคเอา อย่างที่บอกล่ะครับว่า รายละเอียดต่างๆ อาจจะไม่ครบเท่าแอพเฉพาะทาง คร่าวๆ ก็คงประมาณนี้ อ้อ ข้อดีอย่างนึงก็คือ ไม่จำเป็นต้องใช้งานกับ Samsung Device นะ ทดสอบกับ Xiaomi Redmi 4 ก็ใช้งานได้เหมือนกัน แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย แต่สาย iOS คงต้องรอนะ ตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้ อนาคตอาจจะใช้ได้ เห็นว่ามีวิธีอยู๋ แต่ยังไม่เป็นทางการ ดังนั้นก็รอต่อไป แต่เชื่อว่าสายผลไม้ น้อยคนที่จะหันมาใช้ Samsung Gear S3 น่าจะไปสาย Apple Watch มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม Samsung Gear S3 รุ่นนี้ก็ยังคงน่าสนใจอยู่ดี สวยแต่รูป จูบเกือบหอม นะ สำหรับผม บายครับ

Join PDAMobiz facebook Group