ชน! เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S8+ และ Huawei P10 Pus

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S8

ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่อยากรู้ว่าความต่างของทั้งสองรุ่นนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับการเลือกเรือธงในช่วงต้นปี ที่อาจจะตัดสินใจได้ยาก วันนี้ผมเอาข้อมูลต่างๆ มาเป็นส่วนหนึ่งประกอบการตัดสินใจ ระหว่าง Samsung Galaxy S8+ และ Huawei P10 Plus ซึ่งเป็นรุ่นที่กำลัง hot ที่สุด ณ ขณะนี้

Samsung Galaxy S8+ เพิ่งเปิดตัวกันไปล่าสุดหมาดๆ มีข้อดีและฟีเจอร์เพียบหลังจากหลุดมาจนแทบไม่เหลืออะไร ซึ่งทาง Huawei P10 Plus เองก็เช่นกัน จะได้เปรียบหน่อยก็ตรงวางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว ราคาตัดสินใจไม่ยาก เริ่มต้น 17,900 บาทเท่านั้น ส่วนอีกฝากมีราคาหลุดจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าในไทยคงเริ่มต้นที่ 23,900 บาทเช่นเดียวกับปีที่แล้ว

อ่านหรือยัง? => แรกจับ ประทับใจ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ 

 

Samsung Galaxy S8+ vs Huawei P10 Plus: ด้านการออกแบบ

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S8+ และ Huawei P10 Pus 2

ด้านดีไซน์คือทั้งสองค่ายก็มีดีไซน์ที่เล็กลง น่าใช้งานขึ้นทั้งคู่ แต่ด้านดีไซน์ที่น่าจะโดนใจกว่านั้น คงเป็น Samsung ที่ดีไซน์ออกมาโฉบเฉี่ยวและสวยงามมากว่า วัสดุที่ใช้ และขอบที่หายไป และความสูงของหน้าจอที่เพิ่มขึ้น ทำให้การจับใช้งานกระชับมือมากกว่า แต่ก็มีความลื่นอยู่ในตัว หากเทียบความรู้สึกเรื่องความอึดแล้ว ต้องยกให้ Huawei P10 Plus ที่ดูอึด ถึก ทนมากกว่า ส่วนทางด้าน Samsung Galaxy S8+ ดูก็รู้ว่าหากทั้งสองเครื่องตกพื้น ใครจะทนกว่ากัน การที่ไม่มีขอบมีทั้งข้อดีและข้อด้อย หากตกก็ต้องทำใจ เพราะขอบที่เป็นกระจกเมื่อโดนพื้นก็มีความเสี่ยงที่จะแตกมากกว่าขอบที่เป็นโลหะ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ดีไซน์สวยต้องยกให้ Samsung Galaxy S8+ ส่วนความทนทาน ยกให้ Huawei P10 Plus

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S8+3

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านการแสดงผล

เรื่องการแสดงผล เนื่องจากหน้าจอของ Samsung Galaxy S8+ ความละเอียดอยู่ที่ 2960×1440 และ 529ppi ซึ่งมีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งใหญ่มาก การแสดงผลเต็มตา ส่วน Huawei P10 Plus ยังอยู๋ที่ 5.5 นิ้ว ความละเอียดที่ 2560×1440 และ 540 ppi คือต้องบอกว่าพอๆ กันก็ว่าได้ ต่างกันเพียงเล็กน้อย เอาความใหญ่ของหน้าจอ หรือใครแสดงผลได้มากกว่าก็ต้องให้ Samsung Galaxy S8+ เพราะหน้าจอใหญ่(สูง)กว่า ส่วนความละเอียดพอๆ กัน หากเคลมกันด้วย PPI ก็ต้องให้ Huawei P10 Plus แต่การแสดงผลทั้งบนหน้าจอ Super AMOLED ของ Samsung และ IPS Neo LCD ของ Hauwei ก็คงอยู่ที่ใครชอบสไตล์ไหนมากกว่ากันนะ

เปรียบเทียบ Huawei-P10-Green

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านสเปคต่างๆ

CPU ก่อนเลย ซึ่ง Samsung Galaxy S8+ ในบ้านเราคงจะมากับ Exynos 8895 อันนี้ชัดเจนมากเพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยี 10 นาโนเมตร ยิ่งเล็กยิ่งกินไฟน้อย ประสิทธิภาพการทำงานสูง ส่วน Huawei P10 Plus Kirin 960 ยังอยู่ที่ 16 นาโนเมตร ซึ่งจริงๆ แล้วความเร็วของ CPU ต่างกันอยู่นิดหน่อย ทาง Huawei เคลมตัวเลขเร็วกว่า ที่ Quad-core 2.4GHz + Quad-core 1.8GHz ขณะที่ Samsung อยู่ที่ Quad-core 2.3GHz + Quad-core 1.7GHz แต่เชื่อว่าการประหยัดพลังงานทาง Samsung จะทำได้ดีกว่า ด้วยเทคโนโลยีนั่นเอง

Memory  เรื่องหน่วยความจำต่างๆ ก็สำคัญ ซึ่งทั้งสองรุ่นก็มีความจุต่างๆ เท่ากันทั้ง RAM 4GB และ Storage 64 GB และสามารถใส่ micro SD เพิ่มได้ทั้งคู่ เรียกว่า เรื่องนี้เสมอกันนะ

Battery นี่ก็สำคัญสุดๆ เพราะหากแบตหมดไประหว่างวันก็คงลำบาก Samsung Galaxy S8+ อยู่ที่ 3500 mAh ส่วน Huawei P10 Plus อยู่ที่ 3750 mAh ความต่างของแบตเตอรี่ด้วยความจุต่างกันแค่หลักร้อย อาจจะไม่เห็นผลต่างมากนัก แต่ถ้าหากเอาการทำงานของ CPU มาพิจารณาประกอบด้วย เชื่อว่าทาง Samsung Galaxy S8+ จะประหยัดแบตได้มากกว่า และรองรับ fast charging ทั้งสองค่าย

อ่านหรือยัง? => พรีวิว Samsung Galaxy S8 เรือธงปี 2017 ที่ขัดเกลาดีไซน์ซะสวยงามอลังการ 

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านการเชื่อมต่อ

ส่วนของการเชื่อมต่อการสื่อสารต่างๆ สำหรับ Samsung Galaxy S8+ รองรับ LTE Cat16  ที่รองรับความเร็วสูงสุด 1024/150 Mbps หรือรองรับ 4CA ส่วน Huawei P10 Plus ไม่ได้ระบุว่าเท่าไหร่ แต่ก็คงสู้ Samsung Galaxy S8+ ไม่ได้ ส่วนการเชื่อมต่อด้านอื่นๆ ก็ใกล้เคียงกันไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และเป็น dual band

Huawei P10 Plus official 1

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านกล้องถ่ายภาพ

เรื่องความละเอียดของกล้อง Huawei P10 Plus ชนะไปอย่างแน่นอนตามตัวเลข ที่ 20 ล้านพิกเซล และยังมีกล้องอีกหนึ่งตัวที่  12 ล้านพิกเซล f/1.8 ส่วน Samsung Galaxy S8+ ยังแค่ กล้องตัวเดียว 12 ล้านพิกเซล f/1.7 เท่านั้นแต่เป็น dual pixel ภาพที่ออกมาหลายๆ คนบอกว่า Samsung Galaxy S8+ ดีกว่า อันนี้ต้องเทียบกันจังๆ อีกทีนึง ซึ่งความละเอียดเยอะก็ดี ซึ่งบางคนก็ไม่ได้ใช้ความละเอียดสูงสุดในการถ่ายภาพ แต่ต้องบอกว่าความเป็น Leica มีอยู่ที่กล้องด้านหน้าอีกด้วย ทำให้ผมให้ Huawei P10 Plus ชนะไปนิดนึงล่ะนะ ถึงแม้ว่ากล้องด้านหน้าความละเอียดจะอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลเท่าๆ กัน และ Samsung Galaxy S8+ จะมีกล้องหน้าที่ f/1.7 ก็ตามที

galaxy-s8_biometric-authentication_hands_on_07_33677949876_o

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านความปลอดภัย

Samsung Galaxy S8+ ใส่มาให้ครบ ทั้ง fingerprint scanner ที่อยู่ด้านหลัง และ iris scanner สแกนสายตา และ face regonition ในขณะที่ Huawei P10 Plus มีแค่ fingerprint scanner เท่านั้น

galaxy-s8_dex_hands_on_03_33334538050_o

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านฟีเจอร์ต่างๆ

คงไม่ต้องบอกว่า Samsung Galaxy S8+ มีฟีเจอร์เด็ดๆ เพียบ ทั้งนี้รวมอุปกรณ์เสริมด้วยนะ อย่างเช่นที่น่าจะใช้ประโยชน์ได้เลยก็คือ Samsung Dex ที่ต่อขยายหน้าจอออกเป็นจอใหญ่ได้ ทำงานได้สะดวก ในขณะที่ Huawei P10 Plus ไม่ได้มีฟีเจอร์ใดๆ เป็นพิเศษ ซึ่ง Samsung ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกับ Galaxy S8 รวมถึง Bixby ที่เป็น A.I. ช่วยในเรื่องการใช้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อ่านหรือยัง? => ม้วนเดียวจบ ! รวมโปรโมชั่น Huawei P10 – P10 Plus จาก 3 ค่ายโอเปอร์เรเตอร์ AIS, TrueMove H, dtac และ ตัวแทนจำหน่าย !!!

Samsung Galaxy S8 + vs Huawei P10 Plus: ด้านราคา

คงรู้แล้วว่าราคาของ Huawei เปิดตัวมาที่ 23,900 บาท มีโปรโมชั่นคู่กับโอเปอเรเตอร์แจ่มๆ อีกเพียบ ส่วน Samsung Galaxy S8+ คาดว่าจะมาที่ราคาเดิมเท่ากับ S7 edge 26,900 บาท ซึ่งเอาจริงๆ เรื่องความคุ้มค่ากับราคา ก็พอๆ กันนะ เพราะ Samsung มีฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ยังไม่รวมบรรดาสิทธิประโยชน์เช่น การใช้งาน Samsung Pay หรือ Galaxy Gift อีก ซึ่งส่วนต่างตรงนี้อาจจะหายไปในทันที แต่ถ้าจะเทียบด้วยจำนวนเงินที่จ่ายตอนแรก ก็คงต้องให้เครดิต Huawei P10 Plus นั่นแหล่ะ

5-GalaxyS8-Huawei P 10

สรุปว่า ทั้งสองรุ่นเป็นเรือธงในช่วงต้นปีที่น่าใช้งานมากทั้งสองรุ่นเลย โดยเฉพาะ Samsung Galaxy S8+ ที่มีความสวยงามอยู่ในตัว รับรองว่าถือไปอวดใครๆ ได้อย่างแน่นอน ทั้งสเปคและกล้อง ตอบโจทย์การใช้งานส่วนใหญ่ แต่หากใครติดภาพขาวดำ และ Leica Huawei P 10 Plus เป็นคำตอบสุดท้าย และที่สำคัญราคาที่หากนับเรื่องราคาที่จ่าย กับฟีเจอร์ที่ใช้งานพื้นฐาน Huawei P 10 Plus ก็น่าจะประหยัดได้อยู่หลายพันเหมือนกัน แต่สุดท้ายจะเลือกอะไร ก็ขอให้ใช้งานให้สนุก และมีความสุขก็แล้วกันนะครับ เพราะยังไง เราคงใช้ฟีเจอร์ไม่ครบทั้งหมดอยู่แล้วล่ะ



ถูกใจบทความนี้  46