Hands on แรกจับลองสัมผัส Vivo V5 Plus “กล้องหน้าเลนส์คู่ 20 ล้านพิกเซล เซลฟี่ช็อตไหนก็เพอร์เฟกต์”

Vivo V5 Plus 2

  Vivo V5 Plus เปิดตัวอย่างเป็นทางในไทยไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ถ้าเพื่อน ๆ ต่ามข่าวกันมาโดยตลอดก็จะทราบว่า V5 Plus นั้นมีจุดขายเรื่องเซลฟี่ที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครตรงที่มาพร้อมกล้องหน้าแบบคู่ ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่นั้นเหนือชั้นไปอีกขั้นครับ งานนี้ได้โบเก้และการละลายหลังสวย ๆ แจ่มไม่แพ้กล้องหลังแบบคู่เช่นกัน สำหรับงานวันเปิดตัว ผมได้จับเครื่องจริงนิดหน่อย ก็ขอเอามาบอกเล่าเป็น Hands on ให้ฟังกันก่อนที่จะไปรับชม Full Review ที่จะติดตามมาในเร็ว ๆ นี้ครับ  

 

Vivo V5 Plus 1

 

สเปคเบื้องต้นของ Vivo V5 Plus 

● หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 506
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB (ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก)
● แรม : 4GB
● จอแสดงผล : IPS ขนาด 5.5 ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 pixels (~401 ppi pixel density) กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
/2.5D
● การเชื่อมต่อ รองรับ 2G, 3G, 4G LTE
● GSM Quadband 850/ 900/ 1800/ 1900MHz
● UMTS Quadband 850/ 900/ 2100MHz
● 4G FDD LTE 850/ 900/ 1800/ 2100/ 2600MHz
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด Nano SIM + Nano SIM
● การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n,ac ,dual-band, Bluetooth 4.0 , FM radio
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0, ระบบโฟกัส PDAF (phase detection autofocus), LED flash
● กล้องด้านหน้าแบบคู่ : กล้องหน้าหลัก20 ล้านพิกเซล + กล้องหน้ารอง 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 + LED flash
● ระบบปฏิบัติการ Android™ 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.0
● ขนาดตัวเครื่อง 152.6 x 74 x 7.3 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก 158.6 กรัม
● แบตเตอรี่ 3160mAh
● สี Gold, Gray

ราคาวางจำหน่าย 13,990 บาท

 

 

Vivo V5 Plus 2

Vivo V5 Plus 8

ดีไซน์ด้านหน้ายังมีกลิ่นอายของรุ่นพี่ V5 อยู่บ้าง แต่ถ้าดูด้านหลังจะเห็นความแตกต่างพอสมควร โดยเฉพาะเส้นรับสัญญาณเสาอากาศที่ย้ายตำแหน่งไปอยู่ที่ด้านขอบบน – ล่าง ซึ่งจะให้ฟิลลิ่งเหมือนค่าย Apple ครับ

 ในส่วนของจอแสดงผลนั้นมาพร้อมกับขนาด 5.5 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดเพิ่มจากตัว V5 มาเป็น Full HD โดยยังคงเป็นกระจกโค้ง 2.5D เหมือนเช่นเคย และเป็นกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5

 

Vivo V5 Plus 3

จุดขายที่โดดเด่นคือมาพร้อมกับกล้องหน้า Dual-Camera หรือกล้องหน้าคู่นั่นเอง โดยกล้องหน้าใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 สำหรับกล้องหน้าตัวหลักให้ความละเอียดมาที่ 20 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าตัวรองให้ความละเอียดมาที่ 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง f/2.0 + LED flash หลักการทำงานจะเหมือนกล้องคู่ของสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปครับ ที่กล้องอีกหนึ่งตัวจะใช้การจับระยะห่าง เพื่อสร้างภาพชัดตื้นนั่นเอง เพียงแต่ย้ายจากด้านหลังมาด้านหน้าแทน ทำให้เราสามารถถ่ายเซลฟี่ให้มีโบเก้สวย ๆ หรือละลายฉากหลังให้ภาพของเราดูโดดเด่นออกมา แต่แน่นอนว่าหัวใจหลักยังคงเป็นตัว Software ที่ใช้ในการประมวลผลออกมาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่ง V5 Plus มีโหมดการถ่ายเซลฟี่ที่หลากหลาย รอติดตามอ่านในบทความ Full Review กันนะครับ

 

Vivo V5 Plus 4

สำหรับปุ่มโฮมจะเป็นแบบ physical button ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ทางฝั่งซ้ายขวาก็จะเป็นปุ่ม Back และ Recent Apps ตามปรกติ

 


Vivo V5 Plus 6

ด้านล่างจะประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมค์สนทนา, พอร์ต Micro USB, และลำโพงหลักของตัวเครื่อง โดยส่วนตัวผมชอบการที่ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านล่างของตัวเครื่องเพราะเวลาฟังเพลงแล้วจะมีความคล่องตัวที่ดีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเสียดายก็คือยังไม่มีการเปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อมาเป็น USB-C ตามสมัยนิยม

 

Vivo V5 Plus 5

Vivo V5 Plus 7

ด้านขวามือของตัวเครื่อง ด้านบนจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาคือปุ่ม Power ส่วนทางฝั่งซ้ายจะมีช่องซิมการ์ดอยู่บริเวณมุมบน

ตัว Vivo V5 Plus จะไม่รองรับหน่วยความจำภายนอกนะครับ แต่หน่วยความจำภายในที่ให้มา 64GB ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ

 

Vivo V5 Plus 9

เปิดตัวมาพร้อมกับ Android™ 6.0 Marshmallow และครอบทับด้วย Funtouch OS 3.0 ส่วนจะได้ไปต่อ Android 7 หรือไม่ ตรงนี้ผมตอบไม่ได้ แต่ในรุ่นที่อยู่ระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางบนส่วนใหญ่จะได้ไปต่อนะ แต่ทั้งนี้ก็คงต้องรอการเฟิร์มอย่างเป็นทางการของ Vivo Thailand ครับ

สรุป จากการได้ลองจับลองเล่นเบื้องต้น ViVo V5 Plus มีวัสดุและงานประกอบที่ดีมาก และแน่นอนว่าจุดขายเรื่องกล้องหน้าคู่คือพระเอกของรุ่นนี้ จากได้ลองถ่ายในเบื้องต้น ให้คุณภาพที่น่าประทับใจครับ เอาเป็นว่ารอติดตามรีวิวฉบับเต็มกันดีกว่า ทางทีมงานจะพยายามรีบปั่นรีวิวออกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันในเร็ว ๆ นี้ครับผม

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง Vivo Thailand ที่เชิญไปร่วมงานนะครับ



ถูกใจบทความนี้  0