สวัสดีครับ วันนี้มีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัว ZenPad อย่างเป็นทางการในไทย ที่โรงหนัว สกาล่า PR News: เอซุสเปิดตัว ZenPad แท็บเล็ตใหม่แห่งยุค แท็บเล็ตเครื่องแรกที่สามารถเปลี่ยนฝาหลังได้ เพิ่มความลงตัวให้คุณได้สัมผัส เลย เก็บภาพบรรยากาศมาฝากเหมือนเช่นเคย และนอกจากนี้ยังได้ถ่ายรูปเก็บพรีวิว ZenPad ทั้ง 3 รุ่นที่นำมาโชว์ตัวในงานวันนี้ มาให้เพื่อน ๆ ดูกันอีกนิดหน่อยครับ
งานจัดขึ้น ณ โรงหนังสกาล่า
ธีมของงานจึงออกมาในสไตล์ของ cinema
จุดลงทะเบียนก็ใช้เคาเตอร์ขายตั๋วนี่แหละ ^^
ในงานมี Transformer Book และ Zen Book มาโชว์ตัวด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องบอกว่าไม่เกี่ยวกับงานนี้เลย เหอ ๆ
และ Zenfone 2 ก็มาแจมด้วย
ตอนแรกนึกว่ากล่องของ ZenPad ที่ไหนได้ เป็นกล่องขนมที่แจกในงานนี้ครับ
งานจัดในโรงหนัง ให้อารมณ์ที่รู้สึกว่ารีแลกซ์เหมือนมาดูหนังจริง ๆ ครับ
พิธีกรกล่าวทักทาย
มีพรีเซนต์ก่อนเปิดงานให้ชมกันด้วย คล้าย ๆ ละครประกอบเพลง ซึ่งครีเอทีฟออกมาได้น่าสนใจพอควร
มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมากล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ และแนะนำ ZenPad ในแง่มุมต่าง ๆ
คุณ สนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย จำกัด ขึ้นมาพูดถึงความร่วมมือระหว่าง Intel และ ASUS และรวมไปถึงชิปเซ็ทตัวใหม่ที่นำมาใช้งานเป็นครั้งแรกกับ ZenPad
ไม่น่าเชื่อว่า 2 ค่ายนี้ เขาจะมีสัมพันธภาพที่ยืนยาวมาเนิ่นนานถึง 30 กว่าปีแล้วครับ
คุณ Parpslin และค คุณ Kantawee ขึ้นมาแนะนำความน่าสนใจของ ZenPad ในแง่มุมที่สั้น ๆ แต่ได้ใจความ
หลัก ๆ คือ ดีไซน์ เทคโนโลยี และ customize บน Tablet ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่
เทคโนโลยี Visualmaster เป็นจุดแข็งที่ช่วยให้จอแสดงผลของ ZenPad มีความโดดเด่นน่าสนใจ
ส่วนระบบเสียง dts-HD บน ZenPad ก็โดดเด่นไม่แพ้กันครับ
นอก จากนี้ Accessories หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอีกส่วนที่สร้างจุดแข็งให้กับ ZenPad อย่างเช่น Power Case ที่เป็นเคสทีมีแบตในตัว ช่วยให้เราสามารถใช้งาน ZenPad ได้ยาวนานขึ้นถึง 15 ชั่วโมง
ส่วน Zen Case จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในเรื่องของแฟชั่น ซึ่งมีสีสันให้เลือกใช้งานได้เหมาะกับความต้องการหรือรสนิยมของผู้ใช้
นอกจากนี้ยังมีเคสลำโพงที่ให้เสียงกระหึ่มด้วยลำโพงถึง 6 ตัวด้วยกัน
สำหรับราคาวางจำหน่าย ZenPad ในรุ่น ZenPad’S 8.0 นั้นเปิดราคามาที่ 10,990 บาท
ASUS ZenPad 7.0 รุ่น (Z370CG) 7 นิ้ว วางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท
ASUS ZenPed’ C น้องเล็กตัวสุดท้องในซีรีย์ ZenPad ( Z170CG ) วางจำหน่ายในราคา 4,490
ปิดท้ายงานกันไปตามธรรมเนียมด้วยการถ่ายรูปหมู่ครับ
Hands On ลองจับสัมผัส ZenPad ทั้ง 3 รุ่นในงานครับ
ZenPad’S 8.0 ตัว Top สุดในงาน (จริง ๆ แล้ว ยังมีรุ่น 10 แต่ยังไม่เข้าไทย)
สเปคดูที่นี่เลย ASUS ZenPad S 8.0 (Z580CA)
ด้านบนของตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. อยู่ที่มุมขวามือ
ด้านขวามือของตัวเครื่อง ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และถัดลงมาคือปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่อง
ด้านล่าง ไมค์บันทึกเสียง และพอร์ตไมโครยูเอสบี
ด้านซ้ายมือ ช่องเสียบ
ด้านหลังออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าหิ้วของสุภาพสตรีครับ
เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop ตั้งแต่โรงงานเลยครับ
ต่อกันที่ชายกลางของซีรีย์ ZenPad
สเปคดูกันได้จากเพจของ ASUS โดยตรงเลยนะครับ ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG)
สำหรับ ZenPad 7.0 จะเป็นรุ่นที่มีความพิเศษกว่าตัวรุ่นอื่น ๆ ตรงที่รองรับ อุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย
ดูกันไปในหลาย ๆ มุมโดยไม่ต้องบรรยาย เพราะผมได้รับเครื่องมารีวิวแล้วครับ
ด้านหลังของตัวเครื่องออกแบบได้สวยงามไม่แพ้ตัว 8.0 เลยครับ
มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop
รองรับเคสที่หลากหลายการใช้งานครับ ตัวนี้คือ Zen Case เป็นเคสแฟชั่น
เคสลำโพง ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งานด้านมัลติมีเดีย สำหรับเคสตัวนี้จะมีลำโพงมาให้ถึง 6 ตัวด้วยกัน
ด้านหลังของตัวเคสลำโพง
Power Case ที่มีแบตเตอรรี่ในตัว ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นถึง 15 ชั่วโมง
ด้านในของตัว Power Case ครับ
Zen Clutch
เป็นเคสแฟชั่นที่เน้นฟังก์ชั่นและความสวยงามหรูหรา
มาดูกันต่อที่น้องเล็กสุดท้องของซีรีย์ครับ ASUS ZenPad C 7.0 (Z170C)
สเปคของ ASUS ZenPad C 7.0 (Z170C)
รุ่นนี้จะมีทั้งโมเดลที่เป็น Wi Fi Only และแบบที่รองรับใช้งาน cellular ครับ
ด้านหลังของตัวเครื่อง ค่อนข้างจะเรียบๆ เพราะว่าเป็นรุ่นเล็ก
พอร์ตต่าง ๆ จะอยู่รวมกันที่ด้านขวามือ
ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. อยู่ด้านบนตามปรกติ
ในมุมอื่น ๆ จะเรียบ ๆ โล่ง ๆ ครับ
มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop เหมือนรุ่นพี่
สำหรับพรีวิว ก็คงไม่ต้องสรุปอะไร เพราะผมได้เครื่องมารีวิวหลังจบงานนี้แล้ว ไว้ไปพูดคุยกันต่อในบทความรีวิวนะครับ
ปิดท้ายกันไปด้วน้อง ๆ พริตตี้ในงานครับ ^^
สุดท้ายขอขอบคุณ ASUS Thailand ที่เชิญไปร่วมงานครับ