สวัสดีครับ เมื่อวานมีโอกาสได้ไปร่วมงาน “ซอฟต์แวร์บริหารจัดการสถานการณ์ NICE Situator” http://bit.ly/1KG45DH ที่ เป็นความร่วมกันของ 3 บริษัทชั้นนำในด้านการรักษาความปลอดภัย นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม ผู้นำด้าน System Integrator ที่มีหน่วยบริการซ่อมบำรุงด้วยมาตรฐาน ISO 20000 ถึง 38 ศูนย์ทั่วประเทศ และ บริษัทวิชั่น แอนด์ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทสามารถ ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์นานกว่า 10 ปี ในการติดตั้งและดูแลระบบกล้องวงจรปิดในสถานที่สำคัญๆ ของประเทศ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ , 5 จังหวัดชายแดนใต้ , ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ, กระทรวงกลาโหม , เทศบาลต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ฯลฯ
สุด ท้ายคือไฮไลท์ของงาน ก็คือการจับมือกับ บริษัท NICE Systems จากประเทศอิสราเอล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับโลกมาเกือบ 30 ปี มีลูกค้ามากกว่า 25,000 รายใน 150 ประเทศ มีผลงานมากมาย เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยในนิวยอร์คซิตี้, สนามบิน LA ,สนามบินไมอามี่ ,รถไฟใต้ดินที่ปักกิ่ง และอื่นๆ”
งานนี้ผม สรุปย่อ ๆ คือ สามารถเทลคอม พร้อมรุกตลาด Security Technology อย่างเต็มตัว โดยมีบริษัทวิชั่น แอนด์ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม ดูแลในด้าน Hardware ส่วน NICE Systems จะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของ Software ที่ใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งจะเป็นการนำเสนอสินค้าและบริการแบบครบวงจร ตามความต้องการของลูกค้า หรือ “End-to-End Solutions” ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 พันธมิตรในงานวันนี้ครับ
และอย่างที่บอก ไฮไลท์ของงานวันนี้ คือการนำเสนอ สุดยอด Software ที่จะช่วยพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัย โดยมี ซอฟต์แวร์ Nice Situator ที่เป็นโครงสร้างแบบบูรณาการในด้านการบริหารจัดการความปลอดภัย และตามด้วย NICE Suspect Search ที่เป็นระบบค้นหาบุคคลเป้าหมายอย่างรวดเร็ว จากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที เพื่อระบุตำแหน่งสถานที่ วันเวลา และเส้นทางการเดินของบุคคลนั้น ๆ โดยจะมีการดึงข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิด มาวิเคราะห์และตรวจสอบบุคคลเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งนอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้วยังมีประโยชน์ต่องานด้านบริการและการ บริหารสถานที่ตลอดจน facility ต่างๆ
ซึ่งในงานวันนี้มีการจำลอง สถานการณ์จริงให้เห็นกับแบบ Real-time ผมขออธิบายง่าย ๆ สั้น ๆ คือ ระบบ Software นั้นฉลาดมาก ๆ เราไม่ต้องมานั่งดูวีดีโอที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ระบบจะใช้วิธีวิเคราะห์จากภาพนิ่ง จากกล้องตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง (ถ้ามี) และเงื่อนไขบางส่วน ซึ่งจะช่วยให้ย่นเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ลดลงไปได้เยอะมาก พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าค้นจากวีดีโอ 1 ชั่วโมง แต่ระบบ NICE Suspect Search อาจจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นเอง
หลังจากดูสาธิตจบ ผมอึ้งมาก และเชื่อมั่นว่าระบบนี้จะมีประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งก็ต้องดูกันละครับ ว่าหน่วยงานราชการไทย จะให้ความสนใจกับเรื่องใกล้ตัว (ณ ตอนนี้แค่ไหน) เพราะ NICE Suspect Search ไม่ใช่แค่ช่วยในเรื่องป้องกัน หรือติดตามอาชญากรรมอย่างเดียว แต่มันสามารถประยุกต์นำในใช้ในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย โดยในต่างประเทศเขาก็นำร่อง เอาไปใช้และปฏิบัติจนมีผลตอบรับที่เป็นรูปธรรมน่าพึงพอใจมาก ก็หวังว่าบ้านเราจะตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ มีประสิทธิภาพแบบนี้ มากกว่าการระบบและระเบียบทางราชการที่มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ซึ่งผมคงไม่ต้องพูดออกมา แต่ประชาชนทุกคนรู้กันดี ว่าคืออะไรครับ…
สำหรับอาทิตย์นี้คงต้องลากันไปแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า
ถูกใจบทความนี้ 0
