ยังคงพาสมาชิกทุกท่านอยู่กับทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เช่นเคย วันนี้มารีวิวกันในรุ่นเล็ก ราคาประหยัดกับ Asus Zenfone 2 Laser ที่มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อม Laser focus และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลว่าถ้าพกเจ้านี่ไปเที่ยวแล้วจะได้ภาพเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย……
Asus Zenfone 2 Laser Specification:
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD
– Snapdragon 410 Quad Core 1.2GHz
– Adreno 306
– Ram 2GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16GB
– รองรับ Micro SD Card
– รอบรับการใช้งาน 2 ซิม (Micro Sim)
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, Laser Focus และไฟแฟลช LED 2 ดวง 2 สี
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ 3,000mAh
– ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 77.2 x 10.8มม.
– น้ำหนัก 170 กรัม
– Android 5.0.2 Lollipop
– ราคา 6,990 บาท
อ่านรีวิวรุ่นนี้ได้ รีวิว Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) รุ่นเล็กแต่อาวุธครบครัน ภาค Software และกล้องถ่ายรูป
ภาพทั้งหมดไม่ได้มีการปรับแต่งใดๆ นอกากใส่ลายน้ำและชื่อรุ่นเข้าไปในภาพเท่านั้นครับ ไม่มีการย่อด้วย ฉะนั้นใครอยากดูภาพเต็มๆ ก็สามารถจิ้มที่ภาพเพื่อดูได้เลย
วันแรก เครื่องลงปุ๊บ เที่ยวพิพิธภัณฑ์โดเรมอนที่สนามบินเลยนี่ล่ะ
ในพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่นัก ประกอบกับแสงไฟสีเหลือง แต่ก็ยังทำออกมาได้ดีอยู่นะ
มีการแสดงโดเรมอนด้วย มาสคอตตัวจิ๋วๆ
อุปกรณ์ที่ช่วยให้ทริปนี้สะดวกสบายสุดๆ Samurai Wi-Fi
จากนั้นเดินทางออกไปกินข้าว เจอดอกไม้ริมทางเลยขอแชะไว้หน่อย
บรรยากาศด้านหลังร้านอาหารที่ไปกิน ดูสงบดีมาก อากาศที่โน่นก็เย็นเหลือเกิน
ลอง Selfie ดูหน่อย หน้าจะง่วงไปไหน อย่างว่าแหละ พึ่งกินเสร็จ ฮ่าๆๆ
รอบๆ ร้านครับ จะเห็นรถจอดอยู่ ซึ่งรถที่คนญี่ปุ่นใช้เนี่ย จะคันเล็กๆ น่ารักๆ ทั้งนั้นอะ แต่จะใช้กันไม่เยอะหรอกเพราะภาษีเค้าแพงมาก
จากนั้นไปชมภูเขาไฟ อุซุซัง ที่ยังไม่ดับกันต่อ
โดยได้ขึ้นกระเช้าไปชมวิวด้านบนด้วยครับ แต่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ มืดมนสุดๆ ภาพก็ออกมาอย่างนี้เลย
วันที่สองขึ้นไปชมวิวบนหอคอย
ภาพมุมเดียวกันต่างเพียงเปิดและไม่เปิด hdr ซึ่งภาพล่างคือเปิด hdr นะ
ในหอคอยมีตุ๊กตาตัวเล็กๆ ด้วยเลยลองมาโครกันหน่อย
นี่คือเน้นข้อความ เอ้ย ไฮไลท์ (กล้าเล่นนะ – -) ที่ขึ้นไปชมวิวบนหอคอย คือจะได้เห็นว่าสวนถูกทำเป็นรูปดาว
ไปเดินเล่นในสวนกันต่อ วันนี้ฟ้าเปิดโล่งมาก ขาวโพลนหมดเลย TT
จากนั้นไปเติมพลังกันบ้าง ร้านนี้แสงน้อยจริงจัง แถมไฟเหลืองๆ อีกตะหาก แต่ภาพรวมของอาหารก็ยังดูน่ากินอยู่นะ
อันนี้ต้มแซลมอนกับอะไรไม่รู้ ที่แน่ๆ รสเค็มจัดมาก -_-
จากนั้นไปเดินเมืองท่าฮาโกดาเตะกันต่อ อันนี้ก็ไปเพื่อชมวิวและช็อปปิ้งล้วนๆ
การตกแต่งทำให้ดูเหมือนย้อนยุคนะ แต่ผมชอบมากเลย กำแพงสีแบบนี้มันดูคลาสสิคและน่าเดินเที่ยวมาก
เป็นเมืองท่าก็ต้องมีท่าเรือจอดสิ ฮ่าๆ
ที Starbucks ด้วย ราคาถูกกว่าบ้านเราอีก
จากนั้นตอนเย็นก็ขึ้นไปชมวิวเมืองฮอกไกโดยามค่ำคืนกัน ว่าจะสวยงามแค่ไหน อันนี้ระหว่างรอพระอาทิตย์ตก
ภาพขณะรอพระอาทิตย์ตกแบบ Auto (ภาพบน) และเปิด HDR (ภาพล่าง)
เมื่อมืดแล้วตัวเมืองก็จะมีแสงไฟถูกเปิดออกมาแบบนี้ สวยงามเลยทีเดียว (แต่ถ้าจิ้มดูรายละเอียดภาพนี้ บอกเลยว่าเละ)
วันที่สาม ตอนเช้ามาเดินตลาดที่ญี่ปุ่นกันบ้าง สะอาดเว่อร์ๆ ไม่เหมือนตลาดสดบ้านเรา เละเทะมาก
จากนั้นขึ้นไปหมู่บ้านนินจา แล้วดูการแสดงโชว์จากนินจา
ตกเย็นก็มาเดินช็อปปิ้งที่โอตารุ
วันที่สี่ ไปเดินชม Shiori Koeibito Chocolate Factory ขนมนี้ชื่อดังมากนะครับ อร่อยด้วย ฮ่าๆ
ขนมๆๆ กินอันไหนดีล่ะ น่ากินไปหมดเลย
ปิดท้ายด้วยภาพดอกไม้จาก Chocolate Factory ครับ
สำหรับการพาเที่ยว ญี่ปุ่น – ฮอกไกโด ด้วย Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ก็คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ครับ ในความเห็นของผมคือถ้าจะเอามาใช้เป็นกล้องหลักนี่ก็พอได้อยู่ แต่ทำใเวลากลางคืนได้เลยว่าถ่ายภาพออกมาไม่เหลือรายละเอียดแน่ๆ แต่ดูภาพรวมโดยไม่ซูมดูภาพก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามสำหรับ Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ที่มีราคา 6,990 บาท ก็ถือว่าทำได้ดีมากเลยล่ะครับ เพื่อนๆ ดูแล้วคิดเห็นกันอย่างไรคอมเม้นท์กันโลด
สุดท้ายนี้ทีมงาน PDAMobiz ขอขอบคุณ Asus Thailand ที่ให้ยืมเครื่องไปทดสอบครั้งนี้ด้วยครับ
=>>เพื่อนๆสมาชิกสามารถคอมเม้นท์กันได้ที่เว็บบอร์ดเดิมโดยคลิกที่นี่<<=
You must be logged in to post a comment.