อนาคตทุกสิ่งอย่างจะเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังเช่น Smart Things ที่ Samsung ประกาศออกมาเมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันก็ไม่รู้ว่าแพร่หลายแค่ไหนยังไง ในไทยนี่ชัดเจนว่ายังไม่มีเข้ามาทำตลาด แต่ที่ตามข่าวอยู่ห่างๆ ก็มีการพัฒนาฝั่ง developer ที่มีจำนวนมากในระดับนึง แต่ทว่าอีกอย่างนึงคือราคาอาจจะดูสูงไปหรือไม่? เพราะตอนนี้เท่าที่ดูในอเมริกา ชุด starter kits ก็ประมาณ 5,000 บาทได้ ไม่รู้เข้ามาไทยจริงๆ จะบวกไปอีกเท่าไหร่ ผมว่าตรงนี้น่าสนใจเพราะปัจจุบันเริ่มเห็นมีแบรนด์เล็กแบรนด์น้อย เริ่มเข้ามาทำตลาดแล้ว เช่นเมื่อกลางปีไปเดินงานคอมมาร์ต ก็เห็นมีชุด starter kits ขายอยู่ตกราคาประมาณ 3,500 บาท ถ้าผมจำไม่ผิดนะ อีกหน่อยผมว่าจะมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ซึ่งใครที่ไม่ได้สนใจเรื่องบ้านฉลาดหรือ Smart Home หรือ Smart Things ของ Samsung ก็ควรจะหันมามองกันหน่อย เพราะมีประโยชน์กว่าที่คิดนะครับ แต่คุ้มกับการลงทุนหรือไม่นี่อีกเรื่อง ส่วนตัวในปัจจุบัน มีงบไม่เยอะมาก ก็ลองจัดชุดเริ่มต้นของ Xiaomi หรือ Mi Home มาติดตั้ง จนตอนนี้ขยายไปหลายอุปกรณ์เหมือนกัน ราคาเริ่มต้นก็ประมาณสัก 2,000 บาทสบายกระเป๋ากว่าเยอะเลย ในยุคนี้ผมว่าเริ่มจะกลายเป็นตลาดแมสหรือคนทั่วไปพอจะหยิบจับถึง ราคาไม่แพงมากแล้วล่ะครับ ตัวอย่างเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น เวลามีคนเปิดประตูบ้าน เวลาที่เราไม่อยู่ ก็จะมีการแจ้งเตือนมาที่โทรศัพท์ หรือที่แอปนั่นล่ะครับ ว่ามีคนกำลังเปิดประตูบ้านที่เวลาเท่าไหร่ ซึ่งบ้านเราก็คงขาดไม่ได้เรื่อง IP Camera ถ้าเป็น solution เดียวกันของ Xiaomi สามารถสั่งให้ถ่ายวีดีโอเก็บไว้ได้ด้วย แต่ต้องตั้งกล้องให้ มองไปไปที่ประตูด้วยนะ เมื่อมีการเปิดประตูในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ให้ถ่ายวีดีโอเก็บไว้ และแจ้งเตือนเรา แบบนี้ก็ทำได้ครับ จริงๆ เป็นเรื่องของระบบออโต้ที่ เพิ่มความสะดวกในชีวิตเรามากขึ้น อีกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพ คือเมื่อผมเดินเข้าที่ห้องทำงาน พัดลม และไฟ จะติดอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องไปหยิบ หรือกดปุ่มอะไรเลย พอไม่อยู่ก็ปิดไฟ และพัดลมให้ด้วย ปัจจุบันก็เริ่มชินกับการใช้งานลักษณะนี้แล้วล่ะครับ เพิ่มความสะดวกให้เราจริงๆ แต่สิ่งนึงที่เป็นประเด็นของการใช้งานระบบแบบนี้คือ ต่างค่ายกันจะคุยกันไม่ได้ ดังนั้นการเลือกลงระบบ Smart Home หรือ Smart Things ก็ต้องคิดยาวๆ ครับว่า ค่ายนั้นๆ มีซัพพอร์ทได้ยาวแค่ไหน ทั้งด้าน hardware และ software และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลับไปที่ Samsung ตอนนี้ดูแล้วมีการพัฒนา Smart Things อย่างต่อเนื่อง ในด้าน dev แล้วมีรองรับ 3rd party ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ค่าย Samsung ด้วยหรือเปล่า หากใช่ล่ะก็ ผมว่าก็น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะยังไงซะ Samsung ก็น่าจะเป็นแบรนด์มาตรฐานที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว และยังอินเตอร์มากกว่า ส่วน xiaomi ก็ราคาประหยัด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยบางทีเป็นภาษาจีนอะไรแบบนี้ล่ะครับ แต่สรุปว่าอนาคตไม่ไกลเราคงได้สัมผัสกันมากขึ้นเรื่อยๆ นะ
ถูกใจบทความนี้ 1
You must be logged in to post a comment.