วันนี้ Vivo เปิดซีรีส์ใหม่ Vivo S1 เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลจัดเต็ม ไม่มีใครเทียบได้ในช่วงราคาระดับกลางพร้อมกับ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่ทำได้รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงยังอินเทรนด์กล้องหลัง 3 ตัวจัดเต็มที่ยังคงมีฟีเจอร์เรื่องกล้องครบถ้วน เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่มีสเปคคุ้มค่ากับการใช้งาน ในช่วงเวลาแบบนี้ ยังไม่รวมถึงดีไซน์ที่แปลกใหม่ มาพร้อมกับสี Diamond Black และ Skyline Blue ที่มีมิติที่ชวนมอง และเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของ Vivo S1 ได้เป็นอย่างดี มาปลดล็อคความเป็นตัวตนของเราได้ด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีสุดล้ำกันได้เลย
สำหรับ Vivo S1 คงเป็นซีรีส์ใหม่ที่ยังคงความเป็น Vivo อยู่ครบ รุ่นนี้สวยงามแม้ว่าจะเป็นสีดำแต่ว่าตัวเครื่อง ให้ความรู้สึกที่ไม่ใช่แค่เป็นสีเกรเดียนท์ตามเทรนด์ปัจจุบัน แต่ยังสอดแทรกความเป็นลวดลายอย่างเช่นสีดำที่เป็นเพชรฝังลงในฝาหลังอีกด้วย จุดเด่นโดยรวมแล้ว มีกล้องหน้าที่มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล นับว่าเป็นรุ่นระดับกลางที่มีความละเอียดกล้องหน้ามากที่สุด รุ่นนึงเลยทีเดียว รวมถึงกล้องด้านหลังที่มี 3 ตัว ความละเอียด 16+8+2 ล้านพิกเซล ที่มีฟีเจอร์เก็บทั้งภาพโบเก้ ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะภาพมุมกว้างเก็บได้ครบอีกต่างหาก เรียกว่ามีฟีเจอร์ระดับเรือธงแต่ว่ามีราคาค่าตัวที่คุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานแบบยาวๆ ยังไม่พอครับ ยังมีแบตเตอรี่ที่อึดมาก แถมชาร์จเร็ว เล่นเกมหรือใช้งานได้ทั้งวัน รวมถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ความปลอดภัยในการใช้งานด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่บนหน้าจอ ที่ต้องบอกว่ามันแจ่มมากจริงๆ รวดเร็ว ฉับไว และไม่พอยังมีสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งานและปลอดภัยอีกขั้นนึงด้วย ไม่น่าเชื่อว่าฟีเจอร์ครบครันแบบนี้จะมาอยู่ใน Vivo S1 ในราคาเท่านี้
มาดูสเปคเบื้องต้นของ Vivo S1 กันก่อนเลยครับผม
CPU : MTK P65 Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz
Display : 6.38 นิ้ว water drop display ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Full HD+ จอแบบ Super AMOLED
GPU: Mali G52 MC2
Memory: RAM 6GB ROM 128GB สามารถเพิ่ม microSD ได้ 256GB
Size: 159.53×75.23×8.13 มม. 179 กรัม
OS: Funtouch OS 9 based on Android 9
Connection : WiFi 802.11 a/b/g/n/ac , Bluetooth 5.0 , OTG
Mobile : 2G/3G/4G 4G (TDD-LTE B38/40/41 ,4G FDD-LTE B1/3/5/7/8)
GPS: Assistant- GPS
Camera: กล้องหลัง 6MP + 8MP (Ultra-wide) + 2MP (Depth Sensor) รูรับแสง ƒ/1.78 กล้องหน้า 16MP
Battery : 4,500 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging
Other: fingerprint scanner บนหน้าจอ
Color: Diamond Black, Skyline Blue
Price: 8,999 บาท
แกะกล่อง ลองของใหม่กันหน่อย
สำหรับ Vivo S1 คงเป็นซีรีส์ใหม่ที่ยังคงความเป็น Vivo อยู่ครบ รุ่นนี้สวยงามแม้ว่าจะเป็นสีดำแต่ว่าตัวเครื่อง ให้ความรู้สึกที่ไม่ใช่แค่เป็นสีเกรเดียนท์ตามเทรนด์ปัจจุบัน แต่ยังสอดแทรกความเป็นลวดลายอย่างเช่นสีดำที่เป็นลายเพชรฝังลงในฝาหลังอีกด้วย ซึ่งลายเพชรนี้เองจะส่องเป็นประกายให้อารมณ์เหมือนเพชรที่มีหลายเหลี่ยมมุมที่สะท้อนแสงได้หลากหลายเฉดสี ส่วนตัวอุปกรณ์ที่ให้มายังคงพื้นฐานครบ ทั้งเคส ทั้งฟิล์มกันรอยที่ติดมาให้แล้ว อะแดปเตอร์ที่รองรับการชาร์จแบบรวดเร็ว หูฟังก็ครบ
มาดูด้านดีไซน์กันบ้าง
สำหรับ Vivo S1 นั้นมาพร้อมกับ CPU ระดับ 2.0 GHz ที่ 8 คอร์ โดยใช้ MTK P65 ความเร็ว 2.0 GHz เรื่องการทำงานโดยภาพรวมไม่ต้องห่วง ก็ยังจะมีเรื่องของความจุที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลมาถึง 128 GB ถือว่ามากมายแล้วสำหรับการใช้งานปกติทั่วไป เก็บข้อมูลได้มหาศาล รวมถึงยังอัปเกรดเมมโมรี่เพิ่มเติมได้อีกด้วย การทำงานภาพรวมจะลื่นขึ้นอีกเมื่อจัด RAM มาให้ 6GB คือบอกเลยว่า Vivo S1 นี่จัดเต็มจริงๆ
ด้านหน้าตัวเครื่อง มีขนาดหน้าจอ 6.38 นิ้ว กว้างให้ความละเอียดเต็มที่ ซึ่งบนหน้าจอมีรอยหยดน้ำ ซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องติดมาด้วย แต่ว่ากล้องนี่ล่ะเป็นทีเด็ดเลย กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว เรื่องการถ่ายภาพจากกล้องด้านหน้า หรือเซลฟี่นี่วางใจ Vivo S1 ได้เลย
การแสดงผลที่มีขนาดหน้าจอ 6 นิ้วขึ้นไป การทำงานมัลติมีเดียต่างๆ เต็มตา ถึงแม้ว่าจะมีหยดน้ำรูกล้องก็ตาม และยังคมชัด และจัดสีได้สดเต็มตาเต็มใจ เล่นเกมสนุก ดู YouTube มันส์เพราะหน้าจอเป็น Super-AMOLED ที่ให้สีสันที่คมชัดและสวยงาม
ส่วนของด้านหลังตัวเครื่องนั้นสี Diamond Black จะมีลักษณะของลวดลายประกายของเพชรแปะอยู่บนฝาหลัง โดยเพชรที่เลื่อมกันเป็นสีเกรเดียนท์ ทำให้โทนสีที่เห็น แทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเป็นสีดำ เรียกว่าฉีกแนวของการออกแบบโทนสีในปัจจุบันได้ดี และยังมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้รู้ทันทีว่าเราถือใช้งาน Vivo S1 ไม่เหมือนใครจริงๆ
ส่วนของกล้องที่มาพร้อมกับ AI Triple Camera ยังคงความเป็น AI ของ Vivo ที่มากับรุ่นพี่ทั้งหลาย และกล้องสามตัว ที่จัดค่ารูรับแสงมากว้างถึง f/1.78 โดยกล้องหลักจะมีความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องรองยังอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล แต่ก็มีรูรับแสง กว้างถึง f/2.2 และกล้องตัวสุดท้ายสำหรับวัดความลึกที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
มุมต่างๆ ของตัวเครื่อง การวางปุ่มยังคงเหมือนเดิม แต่จะมีปุ่มพิเศษสำหรับ Vivo S1 ตรงที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องเพื่อเรียกใช้งาน AI เพื่อสั่งงานอัตโนมัติ ซึ่งก็คือ Google Assistant นั่นเอง สามารถตั้งค่าได้
ส่วนของพอร์ทการชาร์จยังคงใช้ micro USB อันเป็นพื้นฐานของสายชาร์จที่คนส่วนใหญ่ใช้งานกัน และยังรองรับการชาร์จแบบเร็ว ด้วยเทคโนโลยี Dual-Engine Fast Charging พร้อมทั้งยังให้แบตมาใหญ่มากถึง 4500 mAh ใช้งานกันยาวๆ ไปเลยทั้งวัน แถมชาร์จก็ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็พร้อมใช้งานต่อได้ทันที เหมาะกับสำหรับการเล่นเกมส์ หรือมัลติมีเดียแบบยาวๆ หรือจะใช้กล้องถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอและภาพต่อเนื่องทั้งวันได้เลย
ความปลอดภัยในการใช้งานด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ส่วนที่สำคัญของรุ่นนี้ก็คือ การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งตามปกติแล้วส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าใช้การสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานตัวเครื่องด้านหลังของตัวเครื่อง แต่สำหรับ Vivo S1 ได้ใช้เทคโนโลยีการสแกนบนหน้าจอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีส่วนของการสแกนอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง จึงทำให้ความสวยงามของตัวเครื่องด้านหลังจัดเต็ม
นอกจากช่วยเรื่องความสวยงาม เรื่องของการปกป้องข้อมูลแล้ว และการสแกนเข้าใช้งานก็ถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็วอีกด้วย พร้อมทั้งการสแกนลายนิ้วมือ ยังมีการออกแบบเอฟเฟคในการสแกนเข้าใช้งาน ที่สวยงามอีกด้วย
ไม่เท่านั้นยังมีเรื่องของการสแกนใบหน้าที่จัดมาให้เพิ่มเติม เป็นความปลอดภัยสองชั้น และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย เรียกว่าจ่ายราคานี้ ได้ฟีเจอร์คุ้มสุดๆ กันไปเลย
อ่านต่อด้านซอฟท์แวร์และกล้องพร้อมภาพถ่าย ของ Vivo S1 คลิ๊กที่นี่ >>> Page2
67 thoughts on “รีวิว Vivo S1 ปลดล็อกขีดจำกัด สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ พร้อมจัดเต็มกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล”
Comments are closed.